söndag 23 juni 2013

ฝากให้คิดและศึกษาเรื่อง."..การเมือง เล่นการเมือง ติดตามรับรู้เรื่องการเมือง...." ...เพื่ออนาคตของการเปลี่ยน "โครงสร้าง" ในประเทศไทย....เข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง

เรื่องสืบเนื่องจากคำพูด  บก.ลายจุด
จากหลายแง่คิดมุมมอง

[Image: 1002724_1393326430879304_1758350976_n.jpg]



ความปรารถนาดี,  สิ่งดี,  ที่จะพูด  หรือมอบให้กับใคร  ก็ต้องดูเวลา และกาลเทศะด้วยครับ  แม้คุณสมบัติ  บุญงามอนงค์  จะปรารถนาดีมีความคิดที่ดีต่อแนวทางในระบอบประชาธิปไตย  ต้องการให้ประชาธิปไตยถูกพัฒนาไปเป็นรูปแบบตามความต้องการจริงๆ ของมวลชนก็ตาม   แต่การนำเสนอของคุณสมบัติ  กำลังพูดถึงเป้าหมายที่อยู่ในบันไดขั้นที่ 10  ขณะที่มวลชนหรือแนวทางประชาธิปไตยของคนไทยยังก้าวไปได้แค่บันไดขั้นที่ 5 เท่านั้น   ซึ่งการพูดหรือแนะนำเช่นนี้แม้จะเป็นสิ่งที่ดี  แต่เมื่อไม่ถูกเวลาก็กลายเป็นการทำร้ายคนพวกเดียวกันเอง
ผมเชื่อว่าท่านอดีตนายกทักษิณ  คงจะไม่อยู่ในวังวนของการเมืองไปตลอดชีวิตเหมือน  เปรมิกา  หรือ นกแสก  หรอกครับ  เมื่อถึงเวลาหนึ่งที่การเมืองเป็นไปในแนวทางประชาธิปไตยอย่างเต็มที่แล้ว  ท่านก็คงจะวางมือและมีชีวิตอยู่อย่างสงบๆ  สบายๆ  เหมือน เนลสัน  แมนเดลล่า  มากกว่า เป็นสุขกว่ากันเยอะ    แต่ที่แน่ๆ  การที่คุณสมบัติ  บุญงามอนงค์   พูดออกมาได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า อยากถามคุณทักษิณว่า   "คิดว่าจะยุติทางการเมืองไหม เลิกเล่นการเมืองได้ไหม สไกป์ทำไม"   คำกล่าวนี้  (ในเวลานี้)   คือ
การทำลายการต่อสู้ของประชาชนเพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยครับ    เพราะท่านนายกทักษิณ  คือหัวขบวนในการต่อสู้เวลานี้  ไม่มีใครที่เป็นจุดศูนย์รวมใจเพื่อให้ประชาชนมีกำลังในการต่อสู้กับเผด็จการอมาตย์ได้มากเท่า  ท่านอดีตนายกทักษิณ   หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ  ท่านคือแม่ทัพฝ่ายประชาธิปไตยเวลานี้  และไม่มีใครต้องการทำลายแม่ทัพในยามศึก  เพราะนั่นคือ   การกระทำของฝ่ายศัตรู   เท่านั้นเองครับ
และที่สำคัญที่ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาดก็คือ  การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่กำลังเข้มข้น และรุนแรงอยู่ในเวลานี้  ไม่ใช่การต่อสู้กันระหว่างท่านอดีตนายกทักษิณ  ฝ่ายพรรคเพื่อไทย  กับอดีตนายกอภิสิทธิ์  ฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์  เท่านั้น   (ซึ่งถ้าคุณสมบัติ บุญงามอนงค์  เข้าใจว่าคู่ต่อสู้กันคือ 2 ท่านนี้แล้วทุกอย่างจบ  ก็แสดงว่าคุณสมบัติ  อ่อนด้อยทางการเมืองอย่างมาก  ซึ่่งไม่น่าเป็นไปได้)
คุณสมบัติ  บุญงามอนงค์  ลองพูดประโยคเดียวกันกับที่ต้องการพูดกับท่านอดีตนายกทักษิณ  กับผู้นำของฝ่ายขั้วอำนาจเผด็จการอมาตย์ดูซิครับ  ไม่ว่าจะเป็น  นกแสก, เปรมิกา,  ไอ้แอ๊ด เขายายเที่ยง  หรือ คนอื่นๆ ที่อยู่ในเครือข่ายเดียวกัน  แล้วคาดหวังว่าจะทำให้  พรรคประชาธิปัตย์  เป็นพรรคของมวลชนดูบ้าง   ลองดูซิครับว่าจะได้รับคำตอบกลับมาอย่างไร
เหนื่อยนักก็พักบ้างก็ได้ครับ   ไม่พูด,  ไม่คิด,  ไม่เขียน  เสียบ้าง  ไม่มีใครเขาว่าเป็นคนโง่หรอกครับ
.................................................................

by  ลมหนาว ดาวเหนือ

ผมยังเชื่อมั่นในตัวคุณหนูหริ่งครับ และยังมั่นใจว่าคุณหนูหริ่งมีคุณค่าต่อฝ่ายขบวนการ ปชต. อย่างมาก
เพียงแต่บางมุมมองที่มีต่อบางเรื่องอาจแตกต่างกันไปบ้าง ซึ่งก็น่าจะเป็นเรื่องธรรมดาและเป็นเรื่องที่ดีแล้วที่จะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
เพื่อนำไปสู่การตกผลึกในเป้าหมายที่ดีงามและถูกต้องของพวกเราร่วมกัน
มากกว่าจะเป็นเรื่องของการโกรธเกลียดชิงชังคั่งแค้นต่อกัน และผลักไสไล่ส่งให้ถอยห่างกันและกันออกไปนะครับ

ส่วนใหญ่ผมชอบแนวคิดของคุณหนูหริ่งเกือบทุกเรื่องและมักเห็นด้วยคล้อยตามอยู่เสมอ
แต่บางเรื่อง อย่างเรื่องที่คุณหนูหริ่งให้สัมภาษณ์กรณี "ทักษิณ" ล่าสุด ผมมีความเห็นว่า
แนวคิดแบบเคยชินกับ "กรอบ" เดิม ๆ ที่มีต่อ "ทักษิณ" และระบอบการเมืองไทยแบบเดิม ๆ ไม่ว่าของฝ่ายตรงข้าม หรือฝ่ายคุณหนูหริ่ง
โดยความเห็นส่วนตัว ผมเห็นว่า.. อาจตามไม่ทันกับความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยในยุคสมัยตั้งแต่มีรัฐบาลไทยรักไทย
และมีนายกฯชื่อ "ทักษิณ ชินวัตร" เรื่อยมาจนถึงหลังรัฐประหาร 19 กันยา 49 และต่อมาจวบจนถึงปัจจุบัน
และ ดังนั้น จึงอาจนำมาใช้สรุปด้วยความมั่นใจในฐานความรู้ และฐานความคิด ฐานความเชื่อเดิมของตน..ของคุณหนูหริ่ง..ฯลฯ
ได้อย่างไม่สอดคล้องกับสภาวการณ์ความเป็นจริงเท่าไรนัก และบางครั้งอาจถึงขั้นสรุปและประเมินเรื่องนี้อย่าง "ผิดพลาด" ได้

ความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมของไทยในยุคสมัยตั้งแต่มีรัฐบาลนายกฯทักษิณ ชินวัตร จนถึงรัฐประหาร 19 กันยา 49
และหลังจากนั้นจนถึงปัจจุบัน ต้องถือว่าเปลี่ยนไปชนิดไม่ใช่แค่ผิวเผิน แต่ลงลึกถึงระดับโครงสร้างการปกครองของประเทศอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
และยังก่อให้เกิดการกระเพื่อมสั่นสะเทือนของโครงสร้างอำนาจของประเทศในแทบทุกด้าน ทั้งโครงสร้างอำนาจทางทหาร การเมือง สังคม และเศรษฐกิจ
ที่โครงสร้างฐานอำนาจเดิม (ซึ่งยึดมาจาก อ.ปรีดี) ถูกเขย่าบัลลังก์และถูกแย่งกลับไปสู่ราษฎรได้หลายส่วน
แม้ยังไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็ไม่เคยมีมาก่อนนับแต่กลุ่มขุนศึกร่วมกับศักดินายึดอำนาจมาจาก อ.ปรีดี ได้

สำหรับผมแล้ว นายกฯทักษิณ ไม่ได้มีคุณูปการต่อประเทศนี้ในแง่โครงการต่าง ๆ เพื่อชาวรากหญ้าที่ทุกคนรู้จักและยอมรับกันเท่านั้น
แต่ที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น เป็นเพราะท่านเป็นคนแรกที่เข้ามาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจที่แท้จริงขอ​งประเทศ
และนำกลับไปสู่ประชาชนเจ้าของประเทศที่แท้จริง
ซึ่งจะเป็นปฐมบทของการนำประเทศออกจากอำนาจโบราณที่ปกครองประเทศอยู่หลังฉากไปสู่การเ​ป็นประชาธิปไตยแท้จริงในอนาคตในที่สุดได้
(แม้จะรู้กันดีว่า จริงๆแล้วคนอย่าง "ทักษิณ" ไม่ได้มีความคิดจะไปชนกับเจ้าของอำนาจโบราณเดิมเพื่อยื้อแย่งอะไร ออกจะภักดีอย่างมากด้วยซ้ำ)

ถ้าคิดแบบ อ.สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ (ดูจากคลิปต่างๆ ก่อนถูกจับคุมขัง) ก็จะตรงข้ามกับของคุณหนูหริ่ง
อ.สุรชัยเสนอแนวคิดโดยกล่าวในทำนองนี้ว่า...
"คนที่อำมาตย์ศักดินากลัวที่สุดก็คือ 'ทักษิณ' 
ดังนั้น ยุทธศาสตร์ที่ดีที่สุดของฝ่ายเราก็ต้องเอา 'ทักษิณ'  ไปสู้กับมัน... 
และการไม่เอา 'ทักษิณ'  ก็คือ การเข้าทางมัน.. 
พวกอำมาตย์ พวกเสื้อเหลือง พวกประชาธิปัตย์ มันพยายามบอกว่า 
'ทักษิณ' คือจุดอ่อนของพวกเรา... 
ก็แล้วถ้าคิดว่าเป็นจุดอ่อน แล้วมาบอกพวกเราทำไม 
เก็บเงียบไว้ก็จะยิ่งดีต่อชัยชนะของฝ่ายตัวเองไม่ใช่หรือ ?.... 
มันหวังดี หรือ มันจะมาหลอกพวกเรากันแน่" 

(เดี๋ยวนี้ ผ่านมาหลายปี ไม่รู้ อ.สุรชัย เปลี่ยนความคิดในประเด็นนี้หรือยัง ? เพราะไม่มีโอกาสรับฟังแนวคิดล่าสุดของอาจารย์เลย)

ถ้าคิดแบบไสยศาสตร์อย่างผม ก็ต้องบอกว่า นาน ๆ ที หรือ นับร้อยปี ถึงจะมี "คนพิเศษ" แบบนี้ ("ทักษิณ") ขึ้นมาคนหนึ่ง
ที่มาก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่และรุนแรงชนิดที่ไม่ใช่ใคร ๆ ก็จะทำได้
เพราะขนาดตระกูล "กิตติขจร" และ "จารุเสถียร" ที่ครองอำนาจการปกครองทุกด้านมายาวนานนับสิบ ๆ ปี นานกว่า "ทักษิณ" เยอะ
และข้อสำคัญกุมอำนาจทางการทหารสมัยนั้นไว้ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด (ซึ่งตั้งแต่เป็นนายกฯมา "ทักษิณ" ไม่มีอำนาจทางทหารเหมือน "ถนอม-ประภาส")
ก็ยังถูกโค่นล้มจากกลุ่มอำมาตย์-ศักดินาอำนาจโบราณจนไม่เหลือหลอ และไม่อยู่ในความทรงจำของประชาชนในยุคหลังอีกเลย
ตรงข้ามกับตระกูล "ชินวัตร" ที่พยายามโค่นแล้วโค่นอีก ก็ยังอยู่หยัดยืนให้เห็น โดยประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ลืม "ทักษิณ" เหมือนลืม "ถนอม-ประภาส" แม้จนกระทั่งทุกวันนี้
และนอกจากไม่ถูกโค่นล้มแล้ว ก็ยังสร้างความเปลี่ยนแปลงถึงขั้นทำลายหรือกัดเซาะรากฐานโครงสร้างอำนาจเดิมไปทุกวัน​
อย่างโครงการจำนำข้าว นี่ก็กำลังทำลายโครงสร้างฐานอำนาจเดิมทางเศรษฐกิจไปอย่างที่ทั้ง 2 ฝ่าย ก็อาจไม่คิดและไม่รู้ตัวมาก่อน
แต่ผลที่เกิดขึ้น (หลายปรากฎการณ์) มันเป็นไปเช่นนั้นแล้วจริง ๆ

ดังนั้น ถ้าเอาตามความคิดของคุณหนูหริ่งอย่างสุดขั้วในเรื่องให้นายกฯทักษิณออกไปจากถนนสายกา​รเมืองนี้เลย
ก็จะน่าเสียดายกับอนาคตของการเปลี่ยน "โครงสร้าง" ในประเทศนี้มากเลยครับ
และความคิดของคุณหนูหริ่งต่อเรื่องนี้ที่เห็นแต่ด้านประโยชน์จากการให้ "ทักษิณ" หยุดเล่นการเมืองแต่เพียงมิติเดียวอย่างสุดโต่ง
โดยลืมคิดชั่งน้ำหนักถึงผลดี-ผลเสียของการให้ "ทักษิณ" หยุด..อย่างครบถ้วนรอบด้านเสียก่อนนั้น..
นอกจากอาจไม่เกิดผลดีจริงต่อการต่อสู้เพื่อ ปชต. แท้จริงแล้ว
ก็อาจยังส่งผลไปเป็นการทำร้ายจิตใจ ทำร้ายความหวังของชาวบ้านคนรากหญ้าอย่างมากชนิดที่คุณหนูหริ่งอาจนึกไม่ถึงเลยทีเดีย​ว..
อยากให้คุณหนูหริ่งลองไปสัมผัสดูของจริงในพื้นที่ด้วยตัวเองครับ

....................................................................

การเมืองPolitical

การเมืองคือ   กระบวนการและวิธีการที่จะนำไปสู่การตัดสินใจของกลุ่มคน    การเมืองสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วไปในทุกกลุ่มคนในสังคมที่อยู่ร่วมกัน   พูดง่ายๆให้เข้าใจการเมืองคือการปันผลประโยชน์ที่คนในสังคมได้รับว่า  "ใครจะได้อะไร   เมื่อใดและอย่างไร"

อะไร? คือปัจจัยที่จะตัดสินปัญหาของสังคมคือ เรื่องปากท้อง(ปัจจัยสี่)ความเป็นอยู่ของคนในสังคมเป็นสิ่งตัดสิน  หรือเรียกว่าเศรษฐกิจเป็นผู้ตัดสินสังคม   เมื่อมีการแบ่งผลประโยชน์   ให้คนในสังคมได้รับไม่เท่าเทียมกัน   ความขัดแย้งในสังคมจึงเกิดขึ้น  จึงมีการแบ่งกลุ่มแบ่งชนชั้น

ผู้ได้เปรียบคือ"นายทุนผูกขาด"ที่สามารถขูดรีดเอาจากชนชั้นอีกกลุ่มหนึ่งในสังคม     นี่คือสาเหตุที่จะต้องมีตัวแทนของแต่ละชนชั้นขึ้นมาเพื่อรักษาผลประโยชน์ของกลุ่มตนเอง

ดังนั้นการเมืองจึงเป็นเรื่องผลประโยชน์   เพื่อการดำรงชีพของคนกลุ่มคนในสังคมทุกชนชั้น   ที่จะต้องมีการร่วมกันตัดสินใจ  ไม่ใช่กลุ่มชนชั้นเดียวตัดสินใจให้คนทั้งประเทศ

การเมืองเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับชีวิตของคนในสังคมทุกคนไม่ว่าจะมีอาชีพอะไร   จะเล่นการเมืองหรือไม่เล่นการเมือง   ก็ต้องเรียนรู้สนใจเรื่องการเมือง   ติดตามข่าวคราวทางการเมือง  แลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางการเมือง    เพื่อสิทธิและหน้าที่  เพื่อรักษาผลประโยชน์ของทุกคนในสังคมจะพึงกระทำได้.

ด้วยความปรารถนาดี
ราษฎรตาสว่าง
๒๓ มิ.ย. ๒๕๕๖

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar