lördag 27 juni 2015

เปิดใจครอบครัว ‘ไผ่ ดาวดิน’ หลังลูกถูกขัง ชี้นี่คือ ‘ปฏิวัติซ้อน’ ของจริงและพวกเด็กๆ ได้ชัย


ไผ่ (คนขวาสุด)และเพื่อน 7 ดาวดิน
บทสัมภาษณ์ครอบครัว 'ไผ่ ดาวดิน' หลัง 1 คืนที่เขาถูกส่งเข้าเรือนจำ เสียงพ่อแม่ของเขาจากภูเขียว จ.ชัยภูมิ ประกอบด้วย วิบูลย์ บุญภัทรรักษา ผู้เป็นพ่อ พริ้ม บุญภัทรรักษา ผู้เป็นแม่ เล่าถึงเหตุผลที่ลูกชายออกมาเคลื่อนไหว เล่าถึงไผ่ถึงที่เคยติดตามผู้เป็นพ่อเคลื่อนไหวกับชาวบ้านตั้งแต่เด็กๆ บทบาทของผู้ปกครองต่อตัวลูก ที่มองว่าทำได้แค่ประคับประคอง แต่จะไปชี้นิ้วสั่งการไม่ได้ รวมทั้งการวิเคราะห์สถานการณ์การเคลื่อนไหวที่เขามองว่านี่คือ  “การปฏิวัติซ้อนของจริง” และพวกเด็กๆ ได้ชัยชนะอย่างราบคาบ เพราะสามารถทำให้เห็นปัญหาของกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบได้ ตบท้ายด้วยการร้องเพลงเดือนเพ็ญหรือเพลงคิดถึงบ้าน



“อยากให้มั่นใจสิ่งที่เราคิดเราทำมันถูกต้อง แน่นอนสิ่งถูกต้องของเราสังคมไม่ทันกันหรือมองคนละมุมกันก็เป็นเรื่องของสังคม แต่เขาจะจุดชนวนให้สังคมได้เริ่มคิดบ้าง ก็ให้ภาคภูมิใจ แน่นอนตรงนี้มันก็จะมีปัญหาอุปสรรคของระบบอำนาจระบบที่เขาอ้างว่าเป็นความยุติธรรมมันเกิดขึ้นได้หมด
.. อย่าว่าแต่เด็ก ผู้ใหญ่บางคนรุ่นนี้เองหรือหลายๆคนก็ดีบางทีก็เรื้อราก็สงบเสงี่ยมเจียมตัวไปตามยถา จะบอกว่าเขาผิดหรือเราถูกก็ไม่รู้ แล้วแต่ละคนจะสำนึกเอง เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้หลายคนก็กลับไปทบทวนเหมือนกัน”
.. ทางครอบครัวไม่ต้องห่วงเพราะว่าเราเข้าใจ มันจะเป็นอย่างไรข้างหน้าเราคิดว่าเรารับได้ และเราจะร่วมแก้ไขไปด้วยกัน” วิบูลย์ หรือ พ่อของไผ่ กล่าว
“แม่ก็เหมือนแม่ธรรมดาคนทั่วไปที่ต้องการให้ลูกจบมีงานทำ มีรถมีบ้าน แต่ว่าสิ่งที่ไผ่ทำมันเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ช่วยชุมชนและก็เพื่อนมนุษย์ สังคมที่เข้ามองไม่เห็น ชนชั้นกลางไม่รู้สึก ไม่รู้หนาวรู้ร้อน แม่ไม่เสียใจที่ไผ่ทำ แค่แม่เสียดายที่ไผ่ไม่ได้จบและไม่มีงานการที่ดีทำ แต่สิ่งที่ไผ่ทำ แม่ไม่เคยเสียใจ และแม่ก็จะเป็นพลังให้ลูกต่อไป เพื่อต่อสู้กับสิ่งเหล่านี้ สิ่งที่ไผ่ทำถึงแม้สังคมภายนอกจะดูถูกว่าไผ่เป็นคนเลวคนไม่ดีหรือเอาตัวเองไม่รอด เป็นที่พึ่งพาของครอบครัวไม่ได้ แต่ตรงนี้พ่อแม่รับได้ เพราะว่าความจริงก็คือความจริงเราต้องต่อสู้ไปด้วยกันเพื่อสังคม ไม่เช่นนั้นถ้าเราไม่ต่อสู้หรือเราไม่ทำอะไรมันก็ไม่มีใครทำ” พริ้ม หรือ แม่ของไผ่ กล่าว
“ความห่างตรงนี้มันจะถูกจัดการด้วยวิธีคิดหรือประสบการณ์ของใครคนใดคนหนึ่งมันไม่น่าจะใช่ เพราะถ้าทำอย่างนั้นเมื่อไหร่มันก็เท่ากับผู้ปกครองคือเผด็จการตัวเอ้ในบ้านเลย ขณะที่เราเองเราก็ยังบอกว่าเราชอบประชาธิปไตย  หลังจากคุยกับผู้ปกครองหลายคนก็เห็นในทำนองเดียวกันว่าเราก็คงทำหน้าที่ของเราได้แค่นั้น ที่เหลือก็คงต้องเป็นเรื่องของเด็กโอกาสของเด็กที่จะได้เจริญเติบโต เรามีหน้าที่ประคับประคอง คงจะไปชี้นิ้วสั่งการเหมือนพวกทหารหรืออาจารย์หลายๆ คน ที่บังคับเราหรือพยายามบังคับเรา เราก็ไม่รู้จะต้องทำอย่างไร เพราะเราไม่เห็นด้วยแบบนี้ และเราก็เชื่อว่าไม่มีทาง” วิบูลย์ หรือ พ่อของไผ่ กล่าว
                   
น้องสาว แม่และพ่อของไผ่ ดาวดิน ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ภาพเมื่อ 27 มิ.ย. 58



สำหรับ 'ไผ่ ดาวดิน' หรือ จุตภัทร บุญภัทรรักษา เป็นหนึ่งใน 14 นักศึกษาและประชาชน ที่ถูกพาไปยังศาลทหารเมื่อวานนี้(26 มิ.ย.) ซึ่งเปิดรอจนดึกดื่น และท้ายสุดศาลทหารอนุญาตให้ฝากขังทุกคนเป็นเวลา 12 วัน ในคดีฝ่าฝืนประกาศคสช.และ ม.116  จากการชูป้ายรำลึก 1 ปี รัฐประหารหาร แม้ทนายจะขอคัดค้านคำร้องขอฝากขังก็ไม่เป็นผล 
..................................................

หมายเหตุ-"ความจริงจากใจ" กับบทบาทบทบาทของผู้ปกครองต่อตัวลูก  ที่ยอมรับเข้าใจความต้องการของลูกเป็นกำลังใจสนับสนุนอยู่เคียงข้างลูกเสมอ  ...ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับลูก
เป็นกำลังใจให้กับครอบครัว"บุญภัทรรักษา"  น่าชื่นชมกับแนวคิดดูแลอบรมสั่งสอนลูกให้มีความเชื่อมั่นในตัวเองรู้จักรับผิดชอบกล้าคิดกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อสังคมส่วนรวมนับเป็นการปลุกฝังจิตสำนึกสิ่งที่มีคุณค่า สร้างเยาวชนอนาคตของชาติรุ่นใหม่   ให้กับสังคมไทย  ขอบคุณจากใจ









Inga kommentarer:

Skicka en kommentar