อ. สมศักดิ์ เจียมฯ ..ขัอสังเกตุมุมมอง" เกี่ยวกับ"ภารกิจ" ของผู้ต้องการต่อสู้เพื่อเสรีภาพและประชาธิปไตยที่แท้จริง ...

มติชนออนไลน์

สมศักดิ์ เจียมฯ ตั้งข้อสังเกตทำไมการเคลื่อนไหวของ "ดาวดิน-พลเมืองโต้กลับ" ไม่เปรี้ยง?
ในที่สุดแล้ว ผมยังมองว่า ประเด็นพื้นฐานของปัญหาการจะต่อต้าน รปห คสช ไปถึงการยกเลิกระบอบ คสช (เพราะพวกเขาไม่ยอมเลิกเองแน่) คือ ปัญหาว่าคนชั้นกลางในเมืองที่มี ปชป เป็นตัวแทน ยังคงเป็น "ฐานมวลชน" ให้กับ คสช แน่นอน เราได้เห็นนักการเมือง ปชป เริ่มแสดงอาการ ไม่สบายใจ ออกมาวิพากษ์ คสช เป็นระยะ แต่ในขณะเดียวกัน ความขัดแย้ง หรือความกลัว ความไม่ชอบใจ ต่อ ทักษิณ-เพื่อไทย ของพวกเขา (ผมไม่ได้หมายถึง ปชป ในแง่นักการเมืองเท่านั้น แต่หมายถึง คนชั้นกลางในเมืองโดยรวม) ยังอยู่ในระดับที่สูงมาก และถ้าให้ "เลือก" ระหว่าง หนุน หรือไม่ค้าน คสช เต็มที่ กับการที่ ทักษิณ-เพื่อไทย จะได้ประโยชน์ หรือกลับมาอีก พวกเขาก็ยังเลือกอย่างแรกเป็นหลัก
คลิกอ่านต่อ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1435230514

คลิก-สมศักดิ์ เจียมฯ ตั้งข้อสังเกตทำไมการเคลื่อนไหวของ "ดาวดิน-พลเมืองโต้กลับ" ไม่เปรี้ยง?

นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกรณีการเคลื่อนไหวล่าสุดของกลุ่มดาวดินและพลเมืองโต้กลับ มีเนื้อหา ดังนี้

บางประเด็นเรื่องการเคลื่อนไหว "ดาวดิน" - "พลเมืองโต้กลับ"

(๑) ในขณะที่ดูเหมือนมีความเห็นอกเห็นใจอย่างกว้างขวางต่อการเคลื่อนไหวทั้ง ๒ กลุ่ม ในสื่อโซเชียล แต่คนที่เข้าร่วมจริงๆ กลับไม่มากนัก ที่แน่ๆ น้อยกว่าปีที่แล้ว หลัง รปห ใหม่ๆ ที่มีการเคลื่อนไหวและคนออกมาชุมนุม เรื่องนี้จะอธิบายอย่างไร? ผมไม่มีคำอธิบาย ยิ่งอยู่ไกลแบบนี้ แต่ได้รับการยืนยันจาก "มิตรสหาย" ที่เข้าร่วมเมื่อวานนี้และคราวก่อน (หน้าหอศิลป์) ว่าจำนวนคนที่เข้าร่วมการเคลื่อนไหวจริงๆ ไม่มาก หรือไม่มากเท่าที่คิดว่าน่าจะเป็น ... อาจจะเป็นเรื่องธรรมดาก็ได้ หลังการปราบปรามหนักหลัง รปห เลยทำให้คนเริ่มต้องเข็ดขยาด ระวัง ได้แต่ "ส่งใจช่วย" (หรือบริจาคช่วย) แต่ถ้าเทียบกับ รปห ๑๙ กันยา เวลายิ่งผ่านไป ดูเหมือนคนยิ่งออกมามากขึ้น ตอนนี้ผ่านหลัง รปห ไปปีเศษ และเห็นความล้มเหลวของ คสช มากขึ้น เหตุใดคนจึงไม่มากเท่าหลัง รปห ใหม่ๆ? หรือไม่เพิ่มขึ้น? ... หรือเรื่องนี้จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นในหมู่เสื้อแดง ที่จะกล่าวต่อไปในข้อ ๒) หรือไม่ ... ทั้งหมดนี้ ผมไม่แน่ใจ ไม่ทราบ

(๒) ในหมู่เสื้อแดงบางส่วน (ไม่แน่ใจมากน้อยเพียงใด) มีประเด็นเรื่อง "สงสัย" ใน "เบื้องหลัง" ของ "ดาวดิน" ขึ้นมาได้ นับว่าเป็นความน่าเศร้า ในความคับแคบของเสื้อแดงเหล่านั้นเอง เรื่องนี้ เริ่มตั้งแต่สมัยที่ "ดาวดิน" ไปยืนชูมือต้าน รปห ต่อหน้าประยุทธ อย่างกล้าหาญ แต่มี "เซเลป" เสื้อแดงบางคนออกมาเขียนว่า ที่ทำได้ เพราะ "รับงาน" มา พอบวกกับเรื่องที่ในหมู่เสื้อแดงมีการ "มโน" กันเยอะ เรื่องความขัดแย้งระหว่าง ประยุทธ กับ เปรม ... เรื่อง "ดาวดิน" ก็เลยกลายเป็นถูกโยงให้เข้าล็อกเรื่องนั้นไปด้วย และไม่กี่วันก่อน "เซเลป" เสื้อแดงอีกคน ก็ออกมาพูดซ้ำอีก ว่า "ดาวดิน" มี "เบื้องหลัง" คือ "ถูกจัดตั้ง" โดย มาลีรัตน์ แก้วก่า กับ บำรุง คโยธา ... พูดออกอากาศทางรายการใต้ดิน ซ้ำถึง ๒ ครั้ง (เท่าที่ผมเคยได้ฟัง)

ยัง "โชคดี" ที่วันนี้ "เซเลป" คนอื่นๆ (สุรชัย, อ.หวาน, "เพียงดิน") ออกมาพูด "แก้" ให้ และเรียกร้องให้เสื้อแดงให้การสนับสนุน "ดาวดิน" ... แต่ถ้าใครฟังคลิปที่ออกมาช่วย "แก้" ดังกล่าว ก็น่าจะชวนให้ส่ายหัวเหมือนกัน ที่ว่า เรื่องนี้มันกลายเป็นประเด็นขึ้นมาได้แต่แรก ทั้งๆ ที่ไม่ควรเลย (วิธี "แก้" ให้ "ดาวดิน" บางอย่างของ "เซเลป" ที่เอ่ยนามบางท่าน ก็ชวนให้ "ส่ายหัว" เหมือนกัน)

อันที่จริง อย่าว่าแต่ "มาลีรัตน์ แก้วก่า" หรือ "บำรุง คโยธา" ที่ว่า "อยู่เบื้องหลัง" "ดาวดิน" เลย ต่อให้สมมุติ เขาทั้งคู่นั้นออกมาเอง และสมมุติสนธิ ออกมาเอง ถ้าพวกเขาทำแบบ "ดาวดิน" ชูมือต้านรัฐประหารต่อหน้าประยุทธ เคลื่อนไหวต้านรัฐประหาร ท้าทาย คสช แบบ "ดาวดิน" ผมคนนึงจะเชียร์เต็มที่เลย

ความจริงคือเรื่องนี้เป็นอะไรที่ไร้สาระมากๆ แต่แรก เดิมผมก็ไม่คิดจะพูดแล้ว ตอนที่ "เซเลป" เสื้อแดง วิทยุใต้ดินคนที่ว่าออกมาพูดถึง ๒ ครั้งไม่กี่วันก่อน ผมก็ฟัง แต่คิดแล้ว ก็ตัดสินใจปล่อยเรื่องไป แต่เห็นวันนี้ อุตส่าห์มีรายการ "เซเลป" เสื้อแดง ออกคลิปมาช่วยแก้ตัวให้ "ดาวดิน" ถึง ๒ รายการ แสดงว่า คงเป็นประเด็นที่มีการพูดๆ กันในหมู่เสื้อแดงไม่มากก็น้อย ประกอบกับมันมีปัญหาในข้อ ๑ ที่ผมเองไม่แน่ใจว่า อธิบายอย่างไร ก็เลยเขียนไว้ในที่นี้ด้วยเลย

(๓) ในที่สุดแล้ว ผมยังมองว่า ประเด็นพื้นฐานของปัญหาการจะต่อต้าน รปห คสช ไปถึงการยกเลิกระบอบ คสช (เพราะพวกเขาไม่ยอมเลิกเองแน่) คือ ปัญหาว่าคนชั้นกลางในเมืองที่มี ปชป เป็นตัวแทน ยังคงเป็น "ฐานมวลชน" ให้กับ คสช แน่นอน เราได้เห็นนักการเมือง ปชป เริ่มแสดงอาการ ไม่สบายใจ ออกมาวิพากษ์ คสช เป็นระยะ แต่ในขณะเดียวกัน ความขัดแย้ง หรือความกลัว ความไม่ชอบใจ ต่อ ทักษิณ-เพื่อไทย ของพวกเขา (ผมไม่ได้หมายถึง ปชป ในแง่นักการเมืองเท่านั้น แต่หมายถึง คนชั้นกลางในเมืองโดยรวม) ยังอยู่ในระดับที่สูงมาก และถ้าให้ "เลือก" ระหว่าง หนุน หรือไม่ค้าน คสช เต็มที่ กับการที่ ทักษิณ-เพื่อไทย จะได้ประโยชน์ หรือกลับมาอีก พวกเขาก็ยังเลือกอย่างแรกเป็นหลัก

ผมจึงยังมอง (อย่างที่เคยเสนอไปแล้ว) ว่า "ปม" ของการเปลี่ยนแปลง เลิกอำนาจการเมืองของทหารอย่างถึงราก และถาวร ยังคงอยู่ที่ว่า จะสามารถทำให้ คนชั้นกลางในเมือง และ ปชป ที่เป็นตัวแทนการเมืองของพวกเขา "ขยับ" หรือ "ปฏิรูป-เปลี่ยนแปลง" ได้หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ ก็ยังเชื่อมโยงอยู่กับการปฏิรูปภายในของ ทักษิณ-เพื่อไทยเอง ว่าจะสามารถ "ขยับ" ออกจากความเป็น "บริษัทชินวัตรการเมืองจำกัด" ได้จริงหรือไม่

เมื่อไม่กี่วันก่อน ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ได้ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่ง อย่างน่าสนใจมาก ดังนี้

นักข่าวถามว่า : ถ้าอย่างนั้นพรรคเพื่อไทยควรเดินอย่างไรเพื่อหาทางออก

ณัฐวุฒิ : พรรคเพื่อไทยควรจะมีคนคิดอ่านเตรียมการวางแผนประกาศตัวต่อประชาชนในวันที่ทำได้ ‪#‎ว่าเรามีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงปฏิรูปอย่างไรบ้าง‬ และจะเป็นพรรคที่พึ่งของประชาชนฝ่ายประชาธิปไตยได้อย่างไร ต้องยอมรับว่าช่วงเวลาที่ผ่านมามีบางแง่มุมที่พรรคถูกตั้งคำถามจากประชาชนผู้สนับสนุน

ดังนั้น ในขณะที่ คสช. ปฏิรูปประเทศ ‪#‎พรรคก็ควรจะวางแผนปรับเปลี่ยนปฏิรูปพรรค‬ ทั้งในแง่ของโครงสร้าง บทบาท การทำงานให้เด่นชัด นอกจากนี้ บุคลากรของพรรคควรจะมีบทบาทในการแสดงความคิดทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมอย่างต่อเนื่อง คือจะเงียบกันหมดมันคงไม่ใช่ ในฐานะพรรคอันดับหนึ่งของประเทศ เป็นรัฐบาลต่อเนื่องยาวนานมาหลายปี แม้มีข้อกำกัดที่เราไม่สามารถประชุมปรึกษาหรือหารือกันได้ แต่ว่าน่าจะมีกลไกความเชื่อมโยงการประสานงานของพรรค

นี่เป็นคำตอบหรือการพูดที่ดี ปัญหาคือ ที่ผ่านมาหลายปี สิ่งที่ณัฐวุฒิ พูดนี้ ไม่เคยเกิดขึ้น เป็นเพียงคำพูดสวยๆเท่านั้น และแม้จนบัดนี้ ก็ไม่มีวี่แวว เรื่อง "ปฏิรูปภายใน" อะไรที่ว่า

(๔) โดยสรุปรวบยอด ผมยังมองว่า "ภารกิจ" ของผู้ต้องการต่อสู้เพื่อเสรีภาพและประชาธิปไตยที่แท้จริง ยังอยู่ที่

- รวบรวม สร้าง กำลังอิสระจาก "สองค่าย"

- กดดัน ผลักดัน ให้ทั้ง ปชป (และฐานมวลชน) และ เพื่อไทย (และฐานมวลชน) เกิดการเปลี่ยนแปลง ปฏิรูปภายใน ฝ่ายแรกออกจาก เจ้า-ทหาร ฝ่ายหลัง ออกจากความเป็น "บริษัทชินวัตรการเมืองจำกัด"

( หมายเหตุ- ทุกคนคือเพื่อนร่วมเดินทาง  จงอ่านอย่างมีสติ  เปิดใจให้กว้าง อ่านแล้วคิดทบทวนพิจารณาไตร่ตรองดูให้ดี แล้วจะเกิดปัญญาได้ตอบคำให้ตัวเองรู้ว่า "คุณภาพของคน" คืออีกหนึ่งปัจจัยหลักที่เป็นอุปสรรคทำให้"ภารกิจ"การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยไม่เคลื่อนไหวพัฒนาก้าวหน้า(ยืนอยู่กับที่)ไม่เป็นไปตามภารกิจที่ควรจะเป็นตามที่หวังไว้  ทุกคนโปรดสำรวจตัวเอง แก้ไขปรับปรุงตัวเองเคลื่อนไหวก้าวไปตามกาลเวลาให้ทันยุคทันสมัยเสมอ ภารกิจสำคัญจึงจะสำเร็จลุล่วงไปได้ ด้วยความปรารถนาดี จากเพื่อนร่วมเดินทาง)