ชั่วโมงนี้ผมขออยู่ข้าง พล.อ. ประยุทธ จันทรโอชา ครับ
เราคงเคยอ่านนิทานอิสปกันมาบ้างโดยเฉพาะเรื่อง “กบเลือกนาย” ซึ่งเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป ถ้าจะสรุปนิทานเรื่องนี้สั้นๆ ง่ายๆ ก็คือ “กบฝูงหนึ่งไม่พอใจที่อยู่ในสระน้ำจึงร้องขอเทวดาให้ส่งนายมาให้เทวดาจึงทิ้งขอนไม้ลงมา เบื้องแรกฝูงกบก็ดีใจที่มีขอนไม้เป็นนาย แต่ต่อมาไม่นานก็เริ่มไม่พอใจเพราะขอนไม้ทำได้แค่ลอยไปลอยมาฝูงกบจึงร้องขอต่อเทวดาว่าอยากได้เจ้านายที่เก่งกล้าสักหน่อย เทวดาขัดใจขึ้นมาจึงส่งนกกระสามาให้ ฝูงกบต่างก็ดีใจที่ได้เจ้านายที่บินได้ แต่สายไปเสียแล้วในที่สุดนกกระสานั้นก็กินกบฝูงนั้นทุกวันทุกวันจนหมดในที่สุด”
จากภาพที่มองเห็นได้นั้น ขณะนี้รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ จันทรโอชา กำลังอยู่ในสภาวะที่ยากลำบากอย่างมาก ปัญหาแทบทุกเรื่องประดังกันเข้ามาชนิดตั้งตัวไม่ทัน ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาทางสังคม และปัญหาทางการเมืองซึ่งถ้าเป็นเราๆ อยู่ในฐานะแบบนั้นคงไม่แคล้วผูกคอตาย 5555555 ดูเหมือนกลุ่มต่างๆ ที่พากันดาหน้าออกมาต่อต้านนั้นต่างก็พากันชี้นิ้วไปที่ พล.อ. ประยุทธ จันทรโอชา ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลที่ใช้อำนาจเผด็จการในการปกครองประเทศโดยเฉพาะ มาตรา 44 ซึ่งสำแดงฤทธิ์เดชไปแล้วหลายครั้ง ซึ่งเมื่อกวาดตาดูไปโดยรอบแล้วดูเหมือนว่าแต่ละกลุ่มก็จะพยายามที่จะให้ พล.อ. ประยุทธ จันทรโอชา ลงจากอำนาจและคืนอำนาจให้กับประชาชน อาจจะเป็นในแบบการให้มีเลือกตั้ง หรือให้เสรีภาพในด้านอื่นๆ ด้วยก็ตาม
แต่ทว่าเพียงแค่ 8 ปีเท่านั้นวิมานที่ประชาชนวาดหวังไว้นั้นกลับพังทลายกลายเป็นฟองสบู่ และที่สำคัญก่อนการรัฐประหารปี 2549 นั้น ไม่เคยมีสักครั้งที่ประชาชนต้องล้มตายจากการล้อมปราบเพื่อสลายการชุมนุม แต่ทว่าก่อนการรัฐประหารปี 2557 นั้นประชาชนกลับต้องสูญเสียชีวิตและเลือดเนื้อไปอย่างมากมายจากรัฐบาลที่ประชาชนเชื่อว่าน่าจะดีกว่ารัฐบาลเผด็จการ คมช. ที่ถูกขับไล่ไปแล้วนั้น เรื่องที่น่าเศร้าในวันนี้ก็คือ “ฝูงกบพากันคิดว่าขอนไม้ท่อนนี้ไม่มีอะไรดีเลยทำประโยชน์อะไรก็ไม่ได้แล้วยังอยู่เกะกะขวางทางน้ำไหลด้วยซ้ำ” จึงพากันขับไล่ แต่กลับมิได้เฉลียวคิดกันแม้แต่สักนิดกระมังว่า “ถ้าไล่ขอนไม้นี้ไปแล้วจะได้อะไรมา?”
พี่น้องผู้รักประชาธิปไตยที่ผ่านการต่อสู้มาอย่างยาวนานย่อมตระหนักรู้ดีว่า ความสูญเสียที่ผ่านมานั้นมันไม่อาจจะประเมินค่าได้ เวลานี้กระแสการล้มรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ จันทรโอชา นั้นกำลังมาแรงอย่างมากและดูเหมือนว่าถนนทุกสายกำลังจะมุ่งไปสู่จุดนั้น แต่ทว่าข้าพเจ้าอยากจะขอสะกิดให้ท่านสะดุดคิดสักนิดนึงว่า “ล้มประยุทธ เวลานี้แล้วได้อะไร?” ซึ่งนี่เป็นเหตุผลที่ข้าพเจ้ายังคงเอาใจช่วยรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ จันทรโอชา ให้เป็นรัฐบาลต่อไป และ “เฝ้ารอ” และรอคอยอย่างอดทนต่อสถานการณ์บางอย่างที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ประเทศนี้ได้ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง แม้ว่าในการรอคอยนั้นจะต้องแลกมาด้วยความยากลำบาก การสิ้นเนื้อประดาตัว ความทุกข์ระทม แต่ทว่าความยากลำบากที่ปรากฏอยู่ในเวลานี้คงเทียบไม่ได้กับการที่ต้องวิ่งหนีลูกกระสุนปืนในวันที่ 10 เมษายน 2553 ที่สะพานผ่านฟ้า หรือการที่ต้องหลบอยู่แต่ในสนามกีฬาราชมังคลาฯ ท่ามกลางเสียงปืนเสียงระเบิดเป็นระยะๆ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556 ทนรอคอยอีกสักหน่อยคงไม่ถึงตายกระมัง แต่ถ้ามันจะต้องตายก็ให้มันรู้ไป
By Big 60
ไม่ได้อ่านจบหรอก อ่านแต่หัวข้อก็พอสรุปเจตนาได้เลย ที่จริง ไม่ได้เรียกร้องให้ประยุทธลงจากอำนาจอยู่แล้ว เพราะมันเสี่ยง หลังจากลงจากอำนาจแล้วไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้น เผด็จการทหารคนใหม่หรือ อำนาจเผด็จการสืบทอดกลุ่มใหม่ขึ้นมาแทน อาจเลวร้ายกว่าเก่าก็ได้ ... แต่ที่เรียกร้องและกดดันอยู่นี่ก็คือ เมื่อขึ้นมามีอำนาจก็อย่าทำให้เสียของ ใช้อำนาจที่มีอยู่ทำให้มันถูกและประเทศไปรอด ใช้อำนาจ คมช.ที่มี หยิบเอา รธน. 40 หรือ 50 ก็ยังดี ขึ้นมาประกาศใช้ จัดการเลือกตั้งทันที จะปฏิรูปก็ให้ทำหลังจากเลือกตั้งมี รบ.ของประชาชนแล้ว ... ทำเป็นสัญญาประชาคมก็ได้ว่า เลือกตั้งแล้วพรรคการเมืองใหนได้เป็น รบ.แล้ว ต้องจัดการปฏิรูป โดยตั้งกรรมการจากคนสองฝ่าย แบบนั้นคนในประเทศก็ยอมรับ ต่างประเทศก็รับได้ ประเทศก็ไปรอด ถ้ารักประเทศจริงต้องกล้าทำ แรงต้านจากฝ่ายโน้นก็คงมี แต่ไม่หนักมาก ... สามารถบริหารจัดการได้โดยไม่ยากแบบนี้ แบบนี้มันเกินกำลังที่จะจัดการได้ ต่อให้จัดการในประเทศได้ แต่ต่างประเทศจะทำยังไง นี่ขนาดในประเทศก็ยังจะไม่รอด ไม่ต้องไปพูดถึงต่างประเทศ ดันไปแบบนี้ไม่ได้ ประเทศไม่รอด ถ้ารักประเทศจริงเหมือนปากพูดต้องทำทันที -
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar