แถลงการณ์ของแอมเนสตี้ฯ ระบุถึงการออกหมายจับนักศึกษา 16 คน ที่รวมตัวกันเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องในโอกาสครบรอบหนึ่งปีของรัฐประหารที่บริเวณหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร และที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งหากมีการฟ้องคดีและตัดสินว่ามีความผิด คนเหล่านี้อาจถูกจำคุกไม่เกินหนึ่งปีและถูกปรับ
แอมเนสตี้ฯ ยังเรียกร้องให้ทางการสอบสวนเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ใช้กำลังโดยไม่จำเป็นหรือเกินกว่าเหตุต่อผู้ประท้วงอย่างสงบในเหตุการณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า มีประจักษ์พยานในเหตุการณ์ชุมนุมที่หอศิลป์ฯ ให้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบและเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังทำร้ายร่างกายนักศึกษา ทั้งที่ กฎหมายและมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ กำหนดให้เจ้าพนักงานผู้บังคับใช้กฎหมายมีหน้าที่ที่ต้องหลีกเลี่ยง และหากจำเป็นต้องใช้กำลัง ก็ต้องใช้กำลังให้น้อยสุด
ทั้งนี้ ในวันนี้นักศึกษากลุ่มดาวดินและนักศึกษาที่ดำเนินกิจกรรมเมื่อวันที่ 22 พ.ค. และเมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) ที่หน้า สน.ปทุมวัน ได้เปิดแถลงข่าวในกรุงเทพฯ ระบุว่าไม่ต้องการยอมรับอำนาจที่ไม่ชอบธรรมของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และจะต่อสู้ตามแนวทางสันติวิธี แต่หากถูกจับกุมก็จะไม่ขัดขืนและขอประกันตัว นักศึกษาระบุด้วยว่าจะเดินทางไปที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในเวลา 17.00 น.
เมื่อวานนี้ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. กล่าวกับบีบีซีไทยว่า ขณะนี้ตำรวจยังดูสถานการณ์และจะดำเนินการอย่างเหมาะสมที่สุด โดยใช้วิธีปฏิบัติอย่างละมุนละม่อม และอดทน อย่างไรก็ดี เห็นว่านักศึกษาตั้งใจยั่วยุเจ้าหน้าที่และโน้มน้าวสถานการณ์เพื่อให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสม
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar