ได้ผลจนล้นถ้วย คือประชาสัมพันธ์ของ สมศักดิ์ ขาวฯ
ไปเร็วยังกะไฟลามทุ่ง ไปกว้างไกลกว่าไวรัล ‘viral’ ได้ผลจนล้นถ้วย คือประชาสัมพันธ์ของ สมศักดิ์ ขาวฯ รองปลัดกระทรวงดิจิทัล
ที่ออกประกาศไม่ให้ติดตามโพสต์เฟชบุ๊ค สมศักดิ์ เจียมฯ ปวิน และแอนดรูว์
“ขอให้ประชาชนโดยทั่วไปงดการติดตาม ติดต่อ และเผยแพร่
เนื้อหา ข้อมูล ของบุคคลตามประกาศนี้บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สื่อสังคมออนไลน์
ทั้งทางตรงและทางอ้อม”
เป็นใจความหลักในประกาศของ น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์
เมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน ซึ่งอ้าง พรบ. ความผิดทางคอมพิวเตอร์ ๒๕๕๐ ที่ ‘พลเมืองต่อต้าน
Single Gateway เพื่อเสรีภาพและความยุติธรรม’ เผยแพร่โดยระบุบุคคลต้องห้าม ดังนี้
1. นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
https://www.facebook.com/somsakjeam
https://www.facebook.com/somsakjeam
2. นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธุ์
https://www.facebook.com/pavinchachavalpongpun
https://www.facebook.com/pavinchachavalpongpun
3. Andrew MacGregor Marshall
https://www.facebook.com/zenjournalist
https://www.facebook.com/zenjournalist
ทั่นรองฯ รักษาการแทนปลัดกระทรวง
ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสว่า
“ประกาศดังกล่าวเป็นเพียงการประชาสัมพันธ์ทั่วไป
“เพื่อให้ประชาชนได้ใช้วิจารณญาณในการใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างถูกต้อง
ใช้สติในการแชร์ข้อมูลข่าวสาร”
“งานนี้
ตลกแล้วละครับ...” #OpSingleGateway #OpStopArticle44 คอมเม้นต์ “ถือว่าเป็นการขู่ประชาชน
โดยไม่ระบุฐานความผิดใดๆ โดยไม่มีอำนาจตามกฎหมายมารองรับ เป็นตลก จำอวดนะครับ”
เขายังยกเอาความเห็นของ
มีชัย ฤชุพันธุ์ เมื่อตอน ตุลา ๕๓ มากำกับไว้ “โดยปกติ ‘ประกาศ’ จะเป็นเรื่องที่อยากให้คนทั่วไปรู้เรื่องราวต่าง
ๆ ส่วน ‘ระเบียบ’
เป็นเรื่องที่กำหนดให้คนที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด ในวิธีใด”
อีกทั้งความเห็นจากกลุ่ม
NetiZen
ด้วยว่า
“ไม่ได้ระบุว่าทุกโพสต์ของบุคคลทั้งสามเข้าข่ายผิดกฎหมายทุกโพสต์หรือเฉพาะบางโพสต์...ไม่ได้อธิบายว่าการกระทำโดยไม่มีเจตนาจะเป็นความผิดอาญาได้อย่างไร”
เช่นเดียวกับปฏิกิริยาจากเจ้าตัว ดร.สมศักดิ์
ที่ตอบโต้ทันควัน “ประกาศนี้
ไม่มีลักษณะเป็นประกาศทางกฎหมายเลย...อ่านดีๆ มีลักษณะมั่วมากๆ...
แล้วผมกับอีกสองคนในประกาศ
มีความผิดข้อไหน? มีข้อหาอะไรที่ทำให้ประกาศชนิดครอบจักรวาลแบบนี้ได้”
โดยที่
วัฒนา เมืองสุข ‘Watana
Muangsook’ ระบุในการสนทนาบนเฟชบุ๊คต่อโพสต์ของ
ดร.ปวินในเรื่องนี้ว่า “ ศาลมีคำสั่งแค่ห้ามเผยแพร่ข้อมูลอันไม่เหมาะสม
แต่รองปลัดกลับห้ามเกินศาล
ห้ามติดตาม
ติดต่อ ฯลฯ อ้างความหวังดีว่าเพื่อป้องกันประชาชนจะทำผิดตาม พรบ. คอมฯ ทั้งเจตนาและไม่เจตนา
ผมเลยได้ความรู้ว่าความผิดอาญาเรื่องนี้แม้ไม่มีเจตนาก็ผิด...
“ศาลไม่ได้ห้ามเข้าไปอ่านหรือติดตามนะครับ
ศาลห้ามเผยแพร่ข้อความที่ไม่เหมาะสมเท่านั้น
ถ้าไม่ติดตามอ่านจะรู้มั้ยว่าอะไรเหมาะไม่เหมาะ ใช่มั้ยครับอาจารย์”
ขณะที่แอนดรูว์โพสต์เฟชบุ๊คแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า
“จะว่าไป ผมไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องประเทศไทยมากเท่าอาจารย์สมศักดิ์ และอาจารย์ปวิน
ผมเป็นเพียงผู้สื่อข่าวฝรั่งที่พยายามทำดีที่สุดในการรายงานความจริง
เพราะผมเชื่อว่าคนไทยควรจะได้รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ไม่ใช่เพียงการโกหกและโฆษณาชวนเชื่อ
คนไทยฉลาดพอที่จะคิดได้ด้วยตนเอง
และตัดสินว่าอะไรถูกต้องอะไรไม่ใช่
ไม่มีใครหรอกจะเอาชนะได้ด้วยการเก็บกดความจริงเอาไว้”
ด้าน ดร.ปวิน
เปิดเผยทางเฟชบุ๊คด้วยว่า “ช่วงเช้า (๑๒ เมษา) มีคนส่งข่าวว่า ‘พี่คนนั้น’ โกรธมาก
และสั่งให้หาต้นตอเรื่องความลับส่วนตัวว่าใครเป็นคนส่งให้เราสามคน...
“พวกเค้ากลัวเรา
เค้า desperate ถ้าเค้าคิดว่าเค้าสตรอง...เค้าก็จะไม่ออกประกาศแบบนี้
ผมจะทำหน้าที่นักวิชาการต่อไปครับ...”
ส่วนนักวิชาการไซน์โป
เออเจนี่ เมอริโอ คนใกล้ชิดของ อจ.ปิยบุตร แสงกนกกุล แสดงความเห็นว่า
“นี่เป็นสัญญานของการอ่อนแอ”
เธออ้างทฤษฎีกรัมซี
(Gramsci) ว่า “คณะทหารฮุนต้าไทยดูเหมือนว่าจะเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่า
กำลังพ่ายแพ้ ‘สงครามจุดยืนทางอุดมการณ์’”
คลับคล้ายกับที่ทนายน้อย
‘อานนท์
นำภา’ โพสต์ไว้ว่า “ปัญหาคือ
รัฐไทยไม่มีปัญญาจะไปเถียงด้วยเหตุผลกับเพจ Somsak Jeamteerasakul Pavin Chachavalpongpun Andrew MacGregor Marshall
ต่างหาก”
แบบเดียวกับประกาศของ
‘Akawutt Ake
Auttagorn’ “ถึง:
เพื่อนห้องม.๑/๑๒ ทุกคน...ตั้งแต่วันจันทร์นี้เป็นต้นไป
เราขอให้พวกเธอทุกคนอย่าไปนั่งเรียน ไปคุย ไปโดดยาง หรือกินข้าวกลางวันกับ ‘ปิ๋ว สมจีน และแอน’
เป็นอันขาด
เพราะทั้ง
๓ คนชอบเอาเรื่องนอกห้องมาพูดในห้อง เอาเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับ ผอ.มาเล่า
ชอบตั้งแง่วิธีการสอนของครูสายหยุด ชอบถามเรื่องโน้นเรื่องนี้เกี่ยวกับโรงเรียน
เอาโรงเรียนเราไปเปรียบเทียบกับโรงเรียนประจำตำบล ชมโรงเรียนโน้นนี่ดีงั้นงี้
หรือแม้กระทั่งตั้งข้อสงสัยการใช้เงินของห้องเราอยู่ตลอด
พวกเธอคงเคยได้ยินครูสายหยุดด่าทั้ง
๓ คนนั้น ซึ่งคงจำได้ที่ครูโมโหจนจะทุ่มโต๊ะเรียนใส่ ตอนที่ ๓
คนนั้นเอาตำราฝรั่งมาแย้งว่าครูสอนผิด (ถึงขั้นขู่ไล่ ๓
คนนั้นออกนอกโรงเรียนแล้วด้วย)...
ไม่ได้บังคับอะไรนะ
แค่อยากให้เอาไปคิดดู แล้วถ้าวันจันทร์เรายังเห็นใครคุยกับ ๓ คนนั้นอีก
เราจะไปฟ้องครูสายหยุด...
(จาก
หัวหน้าห้อง ม.๑/๑๒ แต่งตั้งพิเศษมา ๔ ปีซ้อน)
ปล.ครูสายหยุดไม่ได้สั่งให้เราเขียนถึงพวกเธอนะ
แต่เราจะเขียนชื่อคนไม่เชื่อเราส่งครู เรื่องนี้ถึงครูสายหยุดแน่!”
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar