Somsak Jeamteerasakul
ถ้าบ้านเรามีสื่อมวลชนสมัยใหม่จริง เรื่องศรีรัศมิ์จะต้องมีการไปสืบสวนว่าเธอถูกลงโทษ กล้อนผม-กักตัว จริงหรือไม่ http://goo.gl/2lUqsR
ถ้าบ้านเรามีสื่อมวลชนสมัยใหม่จริง
เรื่องศรีรัศมิ์จะต้องมีการไปสืบสวนหาความจริง ว่าเธอถูกลงโทษ "กล้อนผม
กักตัวในบ้าน" จริงหรือไม่ (ก็เหมือนต้องมีการสืบสวนกรณีอย่างพิสิฐศักดิ์
ฯลฯ)
ผมลังเลมาหลายวัน ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีบทความของนักวิชาการฝรั่ง 2 ท่าน เกี่ยวกับการประเมินรัชสมัยของกษัตริย์วชิราลงกรณ์ ที่เริ่มต้นมาประมาณ 5-6 เดือน คือบทความใน เดอะนิวยอร์คไทมส์ ของ ดร.เดวิด สเตร็กฟัสส์ ชื่อ "ในประเทศไทย, รัฐประหารของกษัตริย์?" https://goo.gl/mUIj5x และบทความที่เผยแพร่โดย "อัลจาซิร่า" ของ ดร.คลอดิโอ โซปรานเซตติ ชื่อ "จากรักถึงกลัว: การขึ้นสู่อำนาจของกษัตริย์วชิราลงกรณ์" https://goo.gl/GH5ZEs
ผมมีประเด็นสำคัญที่ไม่เห็นด้วยกับทั้งสองบทความ แต่ลังเลว่าจะเขียนดีหรือไม่ เพราะเป็นประเด็นที่ต้องอภิปรายกันยืดยาวซับซ้อน แล้วหลังๆ ผมรู้สึกว่า เฟซบุ๊คไม่ใช่เครื่องมือที่ดีในการนำเสนอประเด็นอะไรที่มีลักษณะต้องอภิปราย ถกเถียงอย่างละเอียด เสียเวลาร่างเป็นวันๆ แต่ก็จะมีคนอ่านละเอียดจริงๆ และนำไปสู่การถกเถียงที่ต่อเนื่องจริงๆน้อย วันสองวันกระทู้ก็ผ่านเลยไปแล้ว - ผมว่าจะเขียนถึงปัญหาเฟซบุ๊คที่ว่านี้อยู่เหมือนกัน หลายเดือนที่ผ่านมา มีเรื่องใหญ่ๆ 2-3 เรื่อง ที่ผมตามใกล้ชิด แต่ไม่ได้เขียนถึงเพราะสาเหตุที่รู้สึกทำนองนี้ เช่นเรื่องธรรมกาย, เรื่องโกตี๋และแดงใต้ดิน และเรื่องทักษิณมีแถลงการณ์ ผมรู้สึกว่าเฟซบุ๊ค เหมาะสำหรับเพียงกระจายข่าว หรือพูดถึงข่าวหรือเหตุการณ์รูปธรรมเป็นเรื่องๆ มากๆกว่าจะนำเสนอ อภิปรายปัญหาที่ละเอียด และต้องต่อเนื่อง
...............
กระทู้นี้ ก็ยังไม่ใช่จะเปลี่ยนใจพูดถึงบทความของ ดร.เดวิด และ ดร.คลอดิโอ ข้างต้น เพียงแต่จะหยิบประเด็น "เล็กๆ" ที่ ดร.คลออิโอ พูดถึงแบบผ่านๆในบทความของเขา ซึ่งถ้าใครอ่าน ก็อาจจะผ่านตาโดยไม่สะดุดใจอะไรได้ง่ายๆ (แต่บังเอิญ มี "มิตรสหายท่านหนึ่ง" ตาไว ถามผมมา ความจริง ผมได้อ่านเองและสะดุดใจกับข้อความดังกล่าว ก่อนเขาจะถามมาแล้ว แต่อย่างน้อย ก็สะท้อนว่าอาจจะมีบางคนมากกว่านี้ ที่อ่านแล้ว บังเอิญสะดุดใจก็ได้)
คือในบทความของ ดร.คลอดิโอ มีอยู่ตอนหนึ่ง ที่เล่าถึงการกวาดล้างของกษัตริย์ใหม่ โดยเฉพาะกรณี จุมพล มั่นหมาย (ซึ่งผมเองเขียนถึงหลายครั้ง เสียดายว่า ดร.คลอดิโอ พูดถึงการกวาดล้างของกษัตริย์ใหม่ที่สร้างความหวาดกลัว แต่ "ตกหล่น" กรณีที่กษัตริย์ใหม่ให้สร้างคุกส่วนตัวไว้ในวังตัวเอง - เรื่องนี้จนบัดนี้ สื่อต่างชาติยังไม่มีการกล่าวถึง เท่าที่ผมเคยอ่านผ่านตา)
แล้ว ดร.คลอดิโอ ได้พูดย้อนไปถึงกรณีศรีรัศมิ์ว่า ถูกลงโทษในลักษณะคล้ายๆกับจุมพล คือ หลังจากถูกหย่าแล้ว เธอ "ถูกกล้อนผม และถูกกักตัวไว้ไม่ให้ปรากฏตัวต่อสาธารณะ" (ดูรูปประกอบกระทู้ ผมตัดข้อความประโยคดังกล่าวมาขยายให้ดูชัดๆ ประโยคที่ผมขีดเส้นใต้สีแดงไว้)
..................
ความจริง เรื่องที่มีข่าวลือว่า คุณศรีรัศมิ์ถูกลงโทษ "กล้อนผม" และถูกบังคับให้อยู่แต่ในบ้าน (ในลักษณะที่เป็นการกักขัง หรือที่ฝรั่งเรียกว่า house arrest) นั้น ผมและคงจะอีกหลายคน เคยได้ยินมาสักพัก
แต่เร็วๆนี้ มี "แหล่งข่าว" ที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือรายหนึ่ง บอกผมและอีกบางคนว่า ได้เห็นภาพถ่ายของคุณศรีรัศมิ์ในลักษณะถูกกล้อนผมจริงๆ ปัญหาที่ทำให้เขาไม่สามารถออกมาเผยแพร่เรื่องนี้ได้คือ (ก) ครอบครัวคุณศรีรัศมิ์เอง ได้ขอร้องไว้ ว่าจะทำให้สถานการณ์ของเธอและครอบครัวลำบากยิ่งขึ้น และ (ข) ครอบครัวของ "แหล่งข่าว" ดังกล่าวเอง ได้รับการข่มขู่โดยตรงจากคนของกษัตริย์ใหม่
สิ่งที่ทำให้ "เรื่องเล่า" จาก "แหล่งข่าว" ที่ว่านี้ มีความสำคัญมากกว่าการ "เล่า-ลือ" อื่นๆก่อนหน้านี้ นอกจากว่า "แหล่งข่าว" จะมีความน่าเชื่อถือแล้ว ที่สำคัญยังมีรายละเอียดเยอะมาก (ถูกขอร้องและข่มขู่มายังไง ใครเป็นคนขอร้อง-ข่มขู่ ฯลฯ)
แน่นอน ผมเองในฐานะคนที่ไม่ได้เห็นรูป หรือไม่ได้ถูก "ขอร้อง" หรือข่มขู่ในเรื่องดังกล่าวเอง (แล้วยังอยู่ถึงปารีสอีกต่างหาก) ก็ไม่สามารถยืนยันได้
แต่นี่แหละปัญหาดังที่ผมจั่วหัวกระทู้ไว้ เรื่องแบบนี้ ถ้าเป็นสังคมอารยะ ที่มีสื่อมวลชนสมัยใหม่อยู่จริง ก็เป็นเรื่องที่สื่อมวลชนควรจะต้องทำหน้าที่ไปสืบสวนหาความจริงมา
.................
ไม่กี่วันนี้ ที่คุณแอนดรูเผยแพร่ภาพและคลิป "เดินกินไอติม" เขาได้เขียนถึงประเด็นที่ว่า เขาไม่ได้แคร์หรือมีปัญหากับ "รสนิยม" ในการ "ฉลองพระองค์" ของพระบรม/กษัตริย์ใหม่ หรือเรื่องไปเดินเป็นกิ๊กกับใคร โดยตรง แต่เขาพูดถึง "แบ๊กกราวน์" ว่า ในขณะที่พระบรม/กษัตริย์ใหม่ ทรงสำราญพระทัยใช้ชีวิตเช่นนั้นในต่างประเทศ ก่อนหน้านี้ในเมืองไทย พระองค์ได้กวาดล้างลงโทษ ที่ทำให้มีคนตาย (หมอหยอง-ปรากรม-พิสิฐศักดิ์) และยังมีข่าวว่า จนทุกวันนี้ "เมียเก่า" ของพระองค์ ก็ยังถูกลงโทษอยู่
คือถ้าผมจะพูดแทนหรือเสริมคุณแอนดรูคือ ลำพังว่า จะทรงไปแฮ้ปปี้มีกิ๊กกับใครที่เมืองนอก ไม่ใช่ปัญหาโดยตรง ถ้าไม่ใช่เพราะว่า เบื้องหลังเรื่องดังกล่าว คือการที่เคยกวาดล้างจนมีการตายกันขึ้น และอาจจะยังมีการลงโทษ "เมียเก่า" อย่างไม่ชอบด้วยกฎหมายอยู่
นั่นคือ #ถ้า คุณศรีรัศมิ์เคยถูกหรือยังคงถูกลงโทษในลักษณะดังกล่าวจริง (กล้อนผม-กักขังในบ้าน) ก็เป็นอะไรที่ผิดกฎหมายและไม่ชอบธรรมแน่นอน เช่นเดียวกับการสั่งลงโทษ ("ซ่อม") พี่น้องวัชโรทัย จุมพล ฯลฯ ไปถึงเรื่องการตายของพิสิฐศักดิ์ หมอหยอง ปรากรม (4-5 กรณีหลังนี้ เรารู้ว่าเกิดขึ้นจริงแน่ๆ)
นี่คือ "ปริบท" หรือภาพที่กว้างออกไป ว่าทำไม ภาพที่ "หลุด" ออกมาจากมิวนิค จึงเป็นอะไรที่ควรจะชวนให้ "สะดุดใจ" ขนาดไหน
(ใครยังคิดไม่ได้ เสนอให้ลองคิดถึงภาพไปเที่ยวรอบโลกของ "บอส กระทิงแดง" - รายนั้น เป็นการไปเที่ยว "ส่วนตัว" ใช้เงินตัวเองล้วนๆด้วย - เรื่องค่าใช้จ่ายมิวนิคที่เกี่ยวข้องกับเงินของรัฐ ผมจะโพสต์แยกเป็นอีกกระทู้หนึ่ง - ว่าขัดความรู้สึกขนาดไหน นี่คือประเด็นที่แอนดรูเขาชวนให้คิด)
..................
ไหนๆพูดถึงกรณีสื่อมวลชน ขอพูดสักนิดเถอะว่า ทุกครั้ง ที่ผมนึกถึงกรณีพิสิฐศักดิ์ ผมอดไม่ได้ ต้องรู้สึกขยะแขยง ที่บ้านเรา ยังมีบางคนได้ชื่อว่าเป็น "นักข่าวสายทหาร" ที่ว่า "เก่ง มีชื่อเสียง รู้เรื่องทหารดี" อะไรแบบนั้นอยู่ แต่กรณีการตายของนายทหารระดับพันเอก ที่มีตำแหน่งสำคัญขนาดนั้น แม้แต่แค่เอ่ยถึงว่าตาย ก็ยังไม่กล้าเอ่ยสักคำ
ผมลังเลมาหลายวัน ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีบทความของนักวิชาการฝรั่ง 2 ท่าน เกี่ยวกับการประเมินรัชสมัยของกษัตริย์วชิราลงกรณ์ ที่เริ่มต้นมาประมาณ 5-6 เดือน คือบทความใน เดอะนิวยอร์คไทมส์ ของ ดร.เดวิด สเตร็กฟัสส์ ชื่อ "ในประเทศไทย, รัฐประหารของกษัตริย์?" https://goo.gl/mUIj5x และบทความที่เผยแพร่โดย "อัลจาซิร่า" ของ ดร.คลอดิโอ โซปรานเซตติ ชื่อ "จากรักถึงกลัว: การขึ้นสู่อำนาจของกษัตริย์วชิราลงกรณ์" https://goo.gl/GH5ZEs
ผมมีประเด็นสำคัญที่ไม่เห็นด้วยกับทั้งสองบทความ แต่ลังเลว่าจะเขียนดีหรือไม่ เพราะเป็นประเด็นที่ต้องอภิปรายกันยืดยาวซับซ้อน แล้วหลังๆ ผมรู้สึกว่า เฟซบุ๊คไม่ใช่เครื่องมือที่ดีในการนำเสนอประเด็นอะไรที่มีลักษณะต้องอภิปราย ถกเถียงอย่างละเอียด เสียเวลาร่างเป็นวันๆ แต่ก็จะมีคนอ่านละเอียดจริงๆ และนำไปสู่การถกเถียงที่ต่อเนื่องจริงๆน้อย วันสองวันกระทู้ก็ผ่านเลยไปแล้ว - ผมว่าจะเขียนถึงปัญหาเฟซบุ๊คที่ว่านี้อยู่เหมือนกัน หลายเดือนที่ผ่านมา มีเรื่องใหญ่ๆ 2-3 เรื่อง ที่ผมตามใกล้ชิด แต่ไม่ได้เขียนถึงเพราะสาเหตุที่รู้สึกทำนองนี้ เช่นเรื่องธรรมกาย, เรื่องโกตี๋และแดงใต้ดิน และเรื่องทักษิณมีแถลงการณ์ ผมรู้สึกว่าเฟซบุ๊ค เหมาะสำหรับเพียงกระจายข่าว หรือพูดถึงข่าวหรือเหตุการณ์รูปธรรมเป็นเรื่องๆ มากๆกว่าจะนำเสนอ อภิปรายปัญหาที่ละเอียด และต้องต่อเนื่อง
...............
กระทู้นี้ ก็ยังไม่ใช่จะเปลี่ยนใจพูดถึงบทความของ ดร.เดวิด และ ดร.คลอดิโอ ข้างต้น เพียงแต่จะหยิบประเด็น "เล็กๆ" ที่ ดร.คลออิโอ พูดถึงแบบผ่านๆในบทความของเขา ซึ่งถ้าใครอ่าน ก็อาจจะผ่านตาโดยไม่สะดุดใจอะไรได้ง่ายๆ (แต่บังเอิญ มี "มิตรสหายท่านหนึ่ง" ตาไว ถามผมมา ความจริง ผมได้อ่านเองและสะดุดใจกับข้อความดังกล่าว ก่อนเขาจะถามมาแล้ว แต่อย่างน้อย ก็สะท้อนว่าอาจจะมีบางคนมากกว่านี้ ที่อ่านแล้ว บังเอิญสะดุดใจก็ได้)
คือในบทความของ ดร.คลอดิโอ มีอยู่ตอนหนึ่ง ที่เล่าถึงการกวาดล้างของกษัตริย์ใหม่ โดยเฉพาะกรณี จุมพล มั่นหมาย (ซึ่งผมเองเขียนถึงหลายครั้ง เสียดายว่า ดร.คลอดิโอ พูดถึงการกวาดล้างของกษัตริย์ใหม่ที่สร้างความหวาดกลัว แต่ "ตกหล่น" กรณีที่กษัตริย์ใหม่ให้สร้างคุกส่วนตัวไว้ในวังตัวเอง - เรื่องนี้จนบัดนี้ สื่อต่างชาติยังไม่มีการกล่าวถึง เท่าที่ผมเคยอ่านผ่านตา)
แล้ว ดร.คลอดิโอ ได้พูดย้อนไปถึงกรณีศรีรัศมิ์ว่า ถูกลงโทษในลักษณะคล้ายๆกับจุมพล คือ หลังจากถูกหย่าแล้ว เธอ "ถูกกล้อนผม และถูกกักตัวไว้ไม่ให้ปรากฏตัวต่อสาธารณะ" (ดูรูปประกอบกระทู้ ผมตัดข้อความประโยคดังกล่าวมาขยายให้ดูชัดๆ ประโยคที่ผมขีดเส้นใต้สีแดงไว้)
..................
ความจริง เรื่องที่มีข่าวลือว่า คุณศรีรัศมิ์ถูกลงโทษ "กล้อนผม" และถูกบังคับให้อยู่แต่ในบ้าน (ในลักษณะที่เป็นการกักขัง หรือที่ฝรั่งเรียกว่า house arrest) นั้น ผมและคงจะอีกหลายคน เคยได้ยินมาสักพัก
แต่เร็วๆนี้ มี "แหล่งข่าว" ที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือรายหนึ่ง บอกผมและอีกบางคนว่า ได้เห็นภาพถ่ายของคุณศรีรัศมิ์ในลักษณะถูกกล้อนผมจริงๆ ปัญหาที่ทำให้เขาไม่สามารถออกมาเผยแพร่เรื่องนี้ได้คือ (ก) ครอบครัวคุณศรีรัศมิ์เอง ได้ขอร้องไว้ ว่าจะทำให้สถานการณ์ของเธอและครอบครัวลำบากยิ่งขึ้น และ (ข) ครอบครัวของ "แหล่งข่าว" ดังกล่าวเอง ได้รับการข่มขู่โดยตรงจากคนของกษัตริย์ใหม่
สิ่งที่ทำให้ "เรื่องเล่า" จาก "แหล่งข่าว" ที่ว่านี้ มีความสำคัญมากกว่าการ "เล่า-ลือ" อื่นๆก่อนหน้านี้ นอกจากว่า "แหล่งข่าว" จะมีความน่าเชื่อถือแล้ว ที่สำคัญยังมีรายละเอียดเยอะมาก (ถูกขอร้องและข่มขู่มายังไง ใครเป็นคนขอร้อง-ข่มขู่ ฯลฯ)
แน่นอน ผมเองในฐานะคนที่ไม่ได้เห็นรูป หรือไม่ได้ถูก "ขอร้อง" หรือข่มขู่ในเรื่องดังกล่าวเอง (แล้วยังอยู่ถึงปารีสอีกต่างหาก) ก็ไม่สามารถยืนยันได้
แต่นี่แหละปัญหาดังที่ผมจั่วหัวกระทู้ไว้ เรื่องแบบนี้ ถ้าเป็นสังคมอารยะ ที่มีสื่อมวลชนสมัยใหม่อยู่จริง ก็เป็นเรื่องที่สื่อมวลชนควรจะต้องทำหน้าที่ไปสืบสวนหาความจริงมา
.................
ไม่กี่วันนี้ ที่คุณแอนดรูเผยแพร่ภาพและคลิป "เดินกินไอติม" เขาได้เขียนถึงประเด็นที่ว่า เขาไม่ได้แคร์หรือมีปัญหากับ "รสนิยม" ในการ "ฉลองพระองค์" ของพระบรม/กษัตริย์ใหม่ หรือเรื่องไปเดินเป็นกิ๊กกับใคร โดยตรง แต่เขาพูดถึง "แบ๊กกราวน์" ว่า ในขณะที่พระบรม/กษัตริย์ใหม่ ทรงสำราญพระทัยใช้ชีวิตเช่นนั้นในต่างประเทศ ก่อนหน้านี้ในเมืองไทย พระองค์ได้กวาดล้างลงโทษ ที่ทำให้มีคนตาย (หมอหยอง-ปรากรม-พิสิฐศักดิ์) และยังมีข่าวว่า จนทุกวันนี้ "เมียเก่า" ของพระองค์ ก็ยังถูกลงโทษอยู่
คือถ้าผมจะพูดแทนหรือเสริมคุณแอนดรูคือ ลำพังว่า จะทรงไปแฮ้ปปี้มีกิ๊กกับใครที่เมืองนอก ไม่ใช่ปัญหาโดยตรง ถ้าไม่ใช่เพราะว่า เบื้องหลังเรื่องดังกล่าว คือการที่เคยกวาดล้างจนมีการตายกันขึ้น และอาจจะยังมีการลงโทษ "เมียเก่า" อย่างไม่ชอบด้วยกฎหมายอยู่
นั่นคือ #ถ้า คุณศรีรัศมิ์เคยถูกหรือยังคงถูกลงโทษในลักษณะดังกล่าวจริง (กล้อนผม-กักขังในบ้าน) ก็เป็นอะไรที่ผิดกฎหมายและไม่ชอบธรรมแน่นอน เช่นเดียวกับการสั่งลงโทษ ("ซ่อม") พี่น้องวัชโรทัย จุมพล ฯลฯ ไปถึงเรื่องการตายของพิสิฐศักดิ์ หมอหยอง ปรากรม (4-5 กรณีหลังนี้ เรารู้ว่าเกิดขึ้นจริงแน่ๆ)
นี่คือ "ปริบท" หรือภาพที่กว้างออกไป ว่าทำไม ภาพที่ "หลุด" ออกมาจากมิวนิค จึงเป็นอะไรที่ควรจะชวนให้ "สะดุดใจ" ขนาดไหน
(ใครยังคิดไม่ได้ เสนอให้ลองคิดถึงภาพไปเที่ยวรอบโลกของ "บอส กระทิงแดง" - รายนั้น เป็นการไปเที่ยว "ส่วนตัว" ใช้เงินตัวเองล้วนๆด้วย - เรื่องค่าใช้จ่ายมิวนิคที่เกี่ยวข้องกับเงินของรัฐ ผมจะโพสต์แยกเป็นอีกกระทู้หนึ่ง - ว่าขัดความรู้สึกขนาดไหน นี่คือประเด็นที่แอนดรูเขาชวนให้คิด)
..................
ไหนๆพูดถึงกรณีสื่อมวลชน ขอพูดสักนิดเถอะว่า ทุกครั้ง ที่ผมนึกถึงกรณีพิสิฐศักดิ์ ผมอดไม่ได้ ต้องรู้สึกขยะแขยง ที่บ้านเรา ยังมีบางคนได้ชื่อว่าเป็น "นักข่าวสายทหาร" ที่ว่า "เก่ง มีชื่อเสียง รู้เรื่องทหารดี" อะไรแบบนั้นอยู่ แต่กรณีการตายของนายทหารระดับพันเอก ที่มีตำแหน่งสำคัญขนาดนั้น แม้แต่แค่เอ่ยถึงว่าตาย ก็ยังไม่กล้าเอ่ยสักคำ
สมศักดิ์ เจียม @somsakjeam
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar