เป้าหมายประชาธิปัตย์ "สงครามกลางเมือง"

 
โดย ม้านํ้า
พรรคประชาธิปัตย์หรืออีกนัยหนึ่งก็คือตัวแทนของฝ่ายอำนาจเก่าที่หวังจะ “ฝากผีฝากไข้” ในบั้นปลายของชีวิต
อยู่ในสภาพขาลงมาอย่างต่อเนื่องยาวนานหลายสิบปี และปัจจุบันนี้พรรคประชาธิปัตย์และอำนาจเก่ากำลังจะถึงขาลงต่ำสุด
นั่นก็คือ การปฏิเสธแนวทางการต่อสู้ด้วยระบบรัฐสภา แล้วลงไปต่อสู้บนท้องถนนแทน
ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ถูกกลุ่มพันธมิตรฯ ปฏิเสธ เลยต้องลงไปนำเอง
ส่วนการต่อสู้ด้วยโวหารในสภาจากที่เคยรุ่งเรืองในอดีต ก็พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วหลายครั้งหลายหนว่า
เมื่อมีโอกาสได้เป็นฝ่ายบริหารจริง ๆ กลับทำอะไรได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน
ความพยายามในการป่วนและทำลายภาพของรัฐสภาตามที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้
ก็เพื่อปูทางเร่งเร้าอารมณ์แนวร่วมนอกสภาเพื่อให้ขึ้นสู่จุดเดือดสูงสุดก่อนที่จะโดดออกจากสภาลงสู่ท้องถนนอย่างเต็มตัว
เพื่อจุดกระแสสู่แนวทาง “สงครามกลางเมือง” เพราะสถานภาพปัจจุบันของพรรคประชาธิปัตย์และฝ่ายอำนาจเก่า
ไม่สามารถฟื้นคืนกลับมาดังเดิมได้อีกแล้ว ส่วนการรักษาสถานะปัจจุบันให้คงไว้ก็นับว่ายากยิ่งแล้ว
เพราะโดยสภาพแท้จริงที่เป็นอยู่นี้ก็มีแต่จะถดถอยลงไปเรื่อย ๆ
ความพยายามร่วมมือกันครั้งสุดท้ายกับองค์กรอิสระที่ยังพอจะรักษาสภาพได้อยู่จึงเกิดขึ้นในช่วงนี้
เพื่อราดน้ำมันจุดไฟโยนใส่มวลชนฝ่ายรัฐบาล ซึ่งก็คือ “คนเสื้อแดง” นั่นเอง


โดยมีดีเดย์กำหนดไว้ที่ 8ตค ที่จะถึงนี้

เพื่อโหมกระแสไปสู่สถานการณ์ที่กำหนด นั่นก็คือ “สงครามกลางเมือง”
ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์และฝ่ายอำนาจเก่าเปลี่ยนแนวทาง
จากใช้ทหารทำการ “ยึดอำนาจ” มาเป็นจุดกระแส “สงครามกลางเมือง”
สาเหตุก็เพราะมีข้อพิสูจน์ในช่วงชุนนุมของ “องค์กรพิทักษ์สยาม” ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาแล้วว่า ไม่ประสบผลสำเร็จ
ไม่สามารถพึ่งพาทหารออกมาทำการ “ยึดอำนาจ” ดังเช่น 19กย49 ได้อีก(แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต)
เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้เปลี่ยนมาใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจแทนการใช้กองกำลังทหาร
ส่วนการที่ฝ่ายทหารมีการขยับเคลื่อนกำลังกันอย่างคึกคักในช่วงระยะเวลานั้นพอดีโดยมีการอ้าง “คำสั่งฝึก”
ก็ถูกยันด้วยกองกำลังของ ศอ.รส. ที่ประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกระดมมาจากทั่วประเทศหลายหมื่นนาย
ทำให้เหตุการณ์ไม่เป็นไปตามที่ฝ่ายอำนาจเก่าคาดหวังและม็อบแผ่วบางกว่าที่คาดไว้
ประกอบกับ “ดีล” ที่ระดับคีย์แมนทั้งฝ่ายรัฐบาลและเหล่าทัพมีต่อกันนั้น “ลงตัว”
ทำให้เกิดการ “คาน” กับฝ่ายอำนาจเก่าได้เป็นอย่างดี กล่าวคือ
“มูลนิธิรัฐบุรุษ” กำลังถูกเทียบรัศมีด้วย “มูลนิธิป่ารอยต่อห้าจังหวัด”
ดังนั้น ข่าวที่จะมีการผ่องถ่ายอำนาจจาก “ป๋า” สู่ “แอ๊ด” ในระยะเวลาอันใกล้นี้
เพื่อสกัด “มูลนิธิป่ารอยต่อ” จึงมีความเป็นไปได้สูง


หมากเกมส์ต่าง ๆ ทั้งนี้ก็เพราะมีเดิมพันที่สูงที่สุด นั่นก็คือ ผู้จัดการมรดก นั่นเอง