... แก้ไข รธน. ที่มา ส.ว. ผ่านมาตรา 7 แล้ว ....

 

โดย ณ.ณ.

เมื่อ จันทร์, 09/09/2013 - 23:32

 

ห้าทุ่ม ที่รัฐสภา 09/09/2556
หลังการอภิปรายอันยืดเยื้อ ยาวนาน ในวาระที่สองแล้ว
มีสมาชิกเสนอปิดการอภิปราย จากนั้น ปธ.นิคม นับองค์ประชุม ครบองค์ประชุม
มติที่ประชุม เห็นชอบให้ปิดการอภิปรายในมาตรานี้
และจะลงมติเห็นชอบ/ไม่เห็นชอบ
มติที่ประชุม เห็นด้วยกับ กมธ.เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ว. ด้วยคะแนนเสียง 334
(334:3:13:3)
เห็นชอบมาตรา 7 ของร่างแก้ไข รธน.ฉบับนี้
ปธ.นิคม นัดประชุมร่วมสองสภา ที่รัฐสภาใน มาตรา 8 ต่อทันที พรุ่งนี้ สิบโมงเช้า

เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมร่วมรัฐสภา พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญส่วนที่มาของ ส.ว. ว่า ในการอภิปรายในช่วงเวลา 22.00 น. มีนายนิคม ไวยรัชพานิช ทำหน้าที่ประธาน เริ่มมีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นบ้างเล็กน้อย หลังจากส.ส.ประชาธิปัตย์และส.ว.สรรหา หลายคนที่สงวนคำแปรญัตติลุกขึ้นมาอภิปราย โดยมีบางช่วงพาดพิงไปถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ไม่ยอมเข้าร่วมประชุมรัฐสภา จนถูกรุมประท้วงจากส.ส.พรรคเพื่อไทย อาทิ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นมาขู่หลายครั้งในทำนองว่าหากยังอภิปรายนอกประเด็นอยู่อีกจะเสนอญัตติปิดอภิปราย แต่ก็ยังมีการประท้วงตอบโต้กันไปมาอยู่เป็นเรื่อยๆ จนกระทั่งเวลา 22.30 น. นายสหรัฐ กุลศรี ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคเพื่อไทย ได้เสนอญัตติขอปิดอภิปราย แม้นายนิคม ประธานในที่ประชุมขอร้องให้ถอนญัตติ เพื่อให้โอกาสผู้อภิปรายที่เหลืออยู่ได้พูดต่อ แต่นายสหรัฐยืนยันให้ปิดการอภิปราย ขณะที่พ.ต.ท.จิตต์ ศรีโยหะ มุกดาธนพงศ์ ส.ว.มุกดาหาร เสนอญัตติให้เปิดอภิปรายต่อ ส่วนส.ส.ประชาธิปัตย์ก็พยายามประท้วงเป็นการเสนอญัตติโดยมิชอบ ในที่สุดนายนิคมจึงขอมติจากที่ประชุม ซึ่งที่ประชุมมีมติให้ปิดอภิปรายด้วยคะแนน 336 ต่อ 11 เสียง
อย่างไรก็ตามน.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ได้วิ่งมาประท้วงหน้าบัลลังก์ว่า มีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมไม่ครบองค์ประชุม เชื่อว่าจะมีการกดบัตรแทนกัน ขอให้นับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ แต่นายนิคมยืนยันว่า มีองค์ประชุมอยู่ครบ และให้เดินหน้าลงมติโหวตมาตรา 7 ต่อทันที ทำให้ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไม่พอใจ พอกันตะโกนประท้วงลั่นห้องประชุมให้มีการลงมติด้วยการขานชื่อ และ ส.ส.ประชาธิปัตย์บางคนชูป้ายกระดาษเขียนข้อความ “ประธานสารเลว” พร้อมกับมี ส.ส.บางคนตะโกนด่ากลางห้องประชุมว่า “ประธานสารเลว” ด้วย แต่ในที่สุด ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ผ่านมาตรา 7 ด้วยคะแนน 334 ต่อ 3 เสียง โดยส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไม่ร่วมออกเสียงด้วย จากนั้นได้เริ่มเข้าสู่มาตรา 8 และนายนิคมได้ขอพักการประชุม เวลา 23.10 น. และให้ไปประชุมต่อในวันที่ 10 ก.ย.เวลา 10.00 น.
http://www.dailynews.co.th/politics/231927