นิยายโรงงานปลากระป๋อง "ฉบับลูกชาวนาไทย" เสี่ยลูกชายเข้าดูแลครอบครัวไปแล้ว
โดย ลูกชาวนาไทย
นิยายโรงงานปลากระป๋องนั้น เป็นเรื่องยอดฮิตในตอแหลแลนด์มากพอสมควร มีหลายฉบับหลายคนแต่ง ก็แล้วแต่จินตนาการ เพราะไม่ได้ผูกพันกับเรื่องจริงใดๆ มีแต่เรื่องแต่งทั้งสิ้น
เรื่องภายในครอบครัวของเจ้าของกิจการโรงงานปลากระป๋องนั้น ลุง กับป้านั้น มีปัญหาด้านสุขภาพมากพอสมควร โดยเฉพาะป้านั้นมีปัญหามากกว่าลุง เพราะเป็นเรื่องของคลอเรสเตอรอล โดยแท้ ทำให้ไขมันบางส่วนมันไปอาศัยอยู่ในทางเดินของเลือด จนป้าต้องเข้าเข้าไปพักผ่อนที่บ้านริมน้ำที่เดียวกับลุงเป็นเวลานานพอสมควร แม้ตอนนี้จะสามารถออกจากบ้านริมน้ำไปพักที่บ้านริมหาดได้แล้ว แต่ภาวะสุขภาพของคนชรานั้นยากที่จะฟื้นตัวมามีกิจกรรมอย่างเก่าได้ แค่สุขภาพดีขึ้นเท่านั้น แต่หมายความว่า ป้านั้นต้องออกจากกิจการภายในโรงงานปลากระป๋องทุกอย่าง ไม่อยู่ในวิสัยที่จะติดตามสถานการณ์ต่างๆ ในโรงงานปลากระป๋องได้แล้ว
ส่วนลุงนั้นเล่า ลุงก็เป็นของลุงมาอย่างนี้โดยตลอด คือ เดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ไปพักบ้านริมน้ำ แม้จะดีกว่าป้าบ้าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าลุงจะปึ๋งปั๋ง เข้าไปดูแลาสถานการณ์ในโรงงานปลากระป๋องได้อย่างใกล้ชิดอีก ที่จริงลุงก็ไม่ได้ดูแลใกล้ชิดมานานแล้ว มีคุณป้ากับ "กุนซือเฒ่าฉายานักฆ่าลุมแม่น้ำบางประกง" เป็นคนดูแลใกล้ชิดมาโดยตลอด ดูแลจน "เสี่ย"ลูกชายคนเดียวของลุง ถูกจำกัดบทบาทไป ถึงกับมีข่าวว่า พวกที่ปรึกษา กุนซือใหญ่ๆ ทั้งหลายจะเปลี่ยนตัวเอาทอมครูส ขึ้นมาแทนเลยทีเดียว คิดการใหญ่ถึงขนาดนั้น ที่โรงงานปลากระป๋องมันวุ่นวาย ก็เพราะการคิดการใหญ่ของพวกกุนซือทั้งหลายนี่แหละ ซึ่งกับเสี่ยเองแล้วก็ถือเป็นอันตรายอย่างยิ่ง จะเปลี่ยนตัวได้เสี่ยต้องออกไปทัวร์อวกาศก่อน
โชคดีของเสี่ยที่ป้าแกมีอันต้องออกจากเกมไป เพราะปัญหาสุขภาพ ทำให้เสี่ยสามารถเข้ามาดูแลเรื่องภายในครอบครัวของตนเองได้ อาเสี่ยลูกชายเจ้าของโรงงานปลากระป๋อง ก็เลยพาพ่อแม่ไปปรนนิบัติดูแลที่บ้านชายหาดเป็นอย่างดี ไม่ให้พวกลูกน้องเก่า กุนซือที่ปรึกษาทั้งหลายเข้าถึงได้ ก็เป็นอันว่า การเข้าถึงครอบครัวลุงกับป้านั้น ตอนนี้เสี่ยควบคุมช่องทางหมดแล้ว คนนอกครอบครัวอย่าหวังว่าจะแทรกเข้าไป เอาเรื่องราวต่างๆ ในโรงงานปลากระป๋องไปยุยงให้ลุงกับป้าแกปวดหัวเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
ลุงกับป้าแกก็เลยมีความสุขตามอัตภาพ เพราะลูกเต้าดูแลไม่ต้องให้คนอื่นมาวุ่นวายยุยง ให้ลุงกับป้าเหไปตามแรงยุต่างๆ จนโรงงานฯวุ่นวายไปหมด
มีข่าวมาว่า เสี่ยกับน้องชายคือ ทอมครูสนั้น มีความเข้าใจกันอย่างดีแล้ว เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ ว่ากันแบบนั้น
ตอนนี้เอกสารอะไรที่จะให้ลุงเซ็นนั้น ไม่ได้มีเส้นทางที่ต้องให้กุนซือดูก่อนอย่างแต่ก่อนแล้ว เอกสารจะต้องผ่านไปทางเสี่ยนั่นแหละในตอนนี้ (มีข่าวว่าหน้าห้องลุงมันลงแทน)
โชคดีของโรงงานปลากระป๋องอย่างยิ่ง ที่ "กุนซือใหญ่นักฆ่าลุ่มน้ำบางปะกง" เกิดมีปัญหาสุขภาพ ต้องตัดปอดด้านขวาบนไปกลีบหนึ่ง ข่าวว่าเป็นมะเร็งปอด ซึ่งมีข่าวลึกอีกว่า แม้ไม่พบการแพร่กระจายของเซลมะเร็ง แต่แพทย์ทั่วไปก็ทราบดีว่า มะเร็งปอดนั้นมักแพร่กระจายอยู่แล้ว เป็นอันว่าชีวิตของ "กุนซือเฒ่า" นี้มีเวลาจำกัดในโลกนี้แล้ว เมื่อตัดปอดไป การไอการจาม ก็คงเจ็บปวดอย่างยิ่ง นับว่าต้องใช้กรรมที่ไปยิงสมองชาวบ้านเขา แม้ร่างกายแข็งแรง แต่อายุขนาดนั้นจะเป็นมะเร็งหรือไม่ ก็ต้องจากไปอยู่ดี ความกระตือรือล้นที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวเหตุการณ์ในโรงงานปลากระป๋อง ของกุนซือเฒ่าจึงลดลงไปอย่างมาก ดูเหมือนว่า อาจพอปลงได้บ้างแล้ว คือปลงได้หรือไม่ได้สังขารมันก็ไม่ให้
ความวุ่นวายในโรงงานปลากระป๋อง ในวันนี้จึงอยู่แค่ระดับของ "ไอ้อัลคาโปน" กับพวก เช่น ไอ้ซีไอเอหลงยุค และพวกเด็กแก็งค์ไอติม "คณะจำอวดประชาธิเปรต" นั่นเอง
ไอ้อัลคาโปน (ฉายาว่าไอ้ตาโปน) นั้นเป็นหัวขบวนใหญ่ แต่อัลคาโปน มันไม่ได้มีบารมีกับพวกยามบริษัทมากนัก ดูเหมือนว่าจะมีบารมีกับพวกมือปืนบ้าง แต่ต้องเป็นภารกิจใช้ "สไนเปอร์ยิงหัวชาวบ้าน" แบบนั้น แต่การระดมผู้ถือหุ้นโรงงานปลากระป๋องมาก่อความวุ่นวายนั้น ไอ้ตาโปนมันมือไม่ถึงขนาดนั้น มันพยายามระดมมาสองสามรอบแล้วในปีนี้ แต่ได้แค่พวกตัวตลกพวก "ผักกาดเค็มหลงยุค" สองสามร้อยคน เอาพวกใส่หน้ากากมาออกโรง ก็ไม่ได้น้ำได้เนื้ออะไร ไม่มีคนเข้าร่วมสักกี่คน
พวก "คณะจำอวดประชาธิเปรต" นั้น ก็ระดมคนมาชุมนุม แต่ยิ่งตลกคือ ออกเดินสายขายความเท็จทั่วประเทศเป็นร้อยครั้ง นึกว่าวันเป่านกหวีดจะมีคนมาร่วมเป็นล้าน แต่เอาเข้าจริงๆ มาหลักพันต้นๆ เท่านั้น คณะจำอวด จึงต้องถอยไปก่อความวุ่นวายในซ่องของตนเองทางใต้ ประกอบกับแก็งค์ไอติมของคณะจำอวด ปชป. (ประชาธิเปรต) นี้หมดทางไป ก็เลยต้องแสดงความถ่อย กักฬละ หยาบคายในที่ประชุมตัวแทนผู้ถือหุ้น มียกเก้าอี้ทุ่ม ขวางปาสิ่งของ หัวหน้าแก็งค์ของคณะจำอวดนี้ ก็แสดงอาการถ่อย ออกมาใช้คำหยาบ ประเภทอีโง่ กระหรี่ เผยให้เห็นจิตใจ กำพืดที่ปกปิดมานานว่า จริงๆ แล้วมี "สันดานต่ำช้าหยาบคาย"
ตอนนี้เรื่องแก้ไขกฎบริษัทก็ผ่านคณะที่ประชุมตัวแทนผู้ถือหุ้นแล้ว พวกแก๊งค์ชอบตีความ ก็รับไว้ตีความ แต่เราต้องมองให้ออกว่า ตอนนี้ ลุง ป้า กุนซือนั้น "เดี้ยง" ออกจากสถานการณ์รายวันไปหมดแล้ว ตัวช่วยของพวกเหล่านี้ไม่ได้มีพลังที่แท้จริงแล้ว
พวกหัวเก่าในโรงงานปลากระป๋องนี้ขาดตัวช่วยสำคัญ แต่ก็ยังพอรวมสมัครพรรคพวก ในกลุ่ม "นักตีความ" ได้อยู่บ้าง แต่พลังคุ้มครองนั้นไม่มีแล้ว ก็ต้องเล่นเกมกันเอง
พวกยามบริษัท นั้นดูเหมือนจะแฮปปี้ดี้ด้ากับผู้จัดการสาวสวยอย่างดี อีกอย่างผู้จัดการสาวสวย ก็ลงไปคุมฝ่ายยามเองแล้ว พวกยามก็ไม่ต้องไปวิ่งผ่านกุนซือ หรืออะไรอีกแล้ว ดูเหมือนว่าพวกยามจะไม่มีผลประโยชน์อะไรที่ขัดแย้งกับผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่มากนัก พวกที่มีบารมีต่อยาม ตอนนี้ "เข้าบ้านพักคนชรา" ให้ลูกหลานดูแลอย่างใกล้ชิดหมดแล้ว ไม่ออกมาวุ่นวายมากเหมือนก่อนแล้ว
สถานการณ์โรงงานปลากระป๋อง ดูเหมือนจะยังไม่สงบราบคาบ สะเด็ดน้ำดี แต่ไม่มีจุดพลิกกลับของสถานการณ์แบบกลับหน้ามือเป็นหลังเท้าอีกแล้ว พวกผู้ถือหุ้นที่เคยสนับสนุนพวกหัวเก่า แม้จะยังสนับสนุนอยู่ แต่ก็ไม่มีกำลังใจจะออกมาก่อความวุ่นวายแล้ว ดูเหมือนจะยอมรับเสียงข้างมากของผู้ถือหุ้นกลายๆ
โรงงานปลากระป๋องยังไม่สงบดีนัก แต่ไม่วุ่นวายตีกันเละอย่างเมื่อสามปีที่แล้ว
ก็ต้องรอดูอีกนิดว่า "การแก้ไขกฎโรงงาน" ที่เพิ่งผ่านไปสดๆ ร้อนๆ นั้น ลุงจะเซ็นไหม มีความวุ่นวายไหม หากวุ่นวายสถานการณ์ก็คงวุ่นสับสนอีกแน่
แต่เมื่อดูโครงสร้างอำนาจของโรงงานปลากระป๋องที่ "เลื่อนไป" แล้ว คงไม่มีความวุ่นวายใหญ่อีก คาดว่าคงเป็นอย่างนั้น สงสารผู้ถือหุ้น
เรื่องภายในครอบครัวของเจ้าของกิจการโรงงานปลากระป๋องนั้น ลุง กับป้านั้น มีปัญหาด้านสุขภาพมากพอสมควร โดยเฉพาะป้านั้นมีปัญหามากกว่าลุง เพราะเป็นเรื่องของคลอเรสเตอรอล โดยแท้ ทำให้ไขมันบางส่วนมันไปอาศัยอยู่ในทางเดินของเลือด จนป้าต้องเข้าเข้าไปพักผ่อนที่บ้านริมน้ำที่เดียวกับลุงเป็นเวลานานพอสมควร แม้ตอนนี้จะสามารถออกจากบ้านริมน้ำไปพักที่บ้านริมหาดได้แล้ว แต่ภาวะสุขภาพของคนชรานั้นยากที่จะฟื้นตัวมามีกิจกรรมอย่างเก่าได้ แค่สุขภาพดีขึ้นเท่านั้น แต่หมายความว่า ป้านั้นต้องออกจากกิจการภายในโรงงานปลากระป๋องทุกอย่าง ไม่อยู่ในวิสัยที่จะติดตามสถานการณ์ต่างๆ ในโรงงานปลากระป๋องได้แล้ว
ส่วนลุงนั้นเล่า ลุงก็เป็นของลุงมาอย่างนี้โดยตลอด คือ เดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ไปพักบ้านริมน้ำ แม้จะดีกว่าป้าบ้าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าลุงจะปึ๋งปั๋ง เข้าไปดูแลาสถานการณ์ในโรงงานปลากระป๋องได้อย่างใกล้ชิดอีก ที่จริงลุงก็ไม่ได้ดูแลใกล้ชิดมานานแล้ว มีคุณป้ากับ "กุนซือเฒ่าฉายานักฆ่าลุมแม่น้ำบางประกง" เป็นคนดูแลใกล้ชิดมาโดยตลอด ดูแลจน "เสี่ย"ลูกชายคนเดียวของลุง ถูกจำกัดบทบาทไป ถึงกับมีข่าวว่า พวกที่ปรึกษา กุนซือใหญ่ๆ ทั้งหลายจะเปลี่ยนตัวเอาทอมครูส ขึ้นมาแทนเลยทีเดียว คิดการใหญ่ถึงขนาดนั้น ที่โรงงานปลากระป๋องมันวุ่นวาย ก็เพราะการคิดการใหญ่ของพวกกุนซือทั้งหลายนี่แหละ ซึ่งกับเสี่ยเองแล้วก็ถือเป็นอันตรายอย่างยิ่ง จะเปลี่ยนตัวได้เสี่ยต้องออกไปทัวร์อวกาศก่อน
ลุงกับป้าแกก็เลยมีความสุขตามอัตภาพ เพราะลูกเต้าดูแลไม่ต้องให้คนอื่นมาวุ่นวายยุยง ให้ลุงกับป้าเหไปตามแรงยุต่างๆ จนโรงงานฯวุ่นวายไปหมด
มีข่าวมาว่า เสี่ยกับน้องชายคือ ทอมครูสนั้น มีความเข้าใจกันอย่างดีแล้ว เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ ว่ากันแบบนั้น
โชคดีของโรงงานปลากระป๋องอย่างยิ่ง ที่ "กุนซือใหญ่นักฆ่าลุ่มน้ำบางปะกง" เกิดมีปัญหาสุขภาพ ต้องตัดปอดด้านขวาบนไปกลีบหนึ่ง ข่าวว่าเป็นมะเร็งปอด ซึ่งมีข่าวลึกอีกว่า แม้ไม่พบการแพร่กระจายของเซลมะเร็ง แต่แพทย์ทั่วไปก็ทราบดีว่า มะเร็งปอดนั้นมักแพร่กระจายอยู่แล้ว เป็นอันว่าชีวิตของ "กุนซือเฒ่า" นี้มีเวลาจำกัดในโลกนี้แล้ว เมื่อตัดปอดไป การไอการจาม ก็คงเจ็บปวดอย่างยิ่ง นับว่าต้องใช้กรรมที่ไปยิงสมองชาวบ้านเขา แม้ร่างกายแข็งแรง แต่อายุขนาดนั้นจะเป็นมะเร็งหรือไม่ ก็ต้องจากไปอยู่ดี ความกระตือรือล้นที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวเหตุการณ์ในโรงงานปลากระป๋อง ของกุนซือเฒ่าจึงลดลงไปอย่างมาก ดูเหมือนว่า อาจพอปลงได้บ้างแล้ว คือปลงได้หรือไม่ได้สังขารมันก็ไม่ให้
ความวุ่นวายในโรงงานปลากระป๋อง ในวันนี้จึงอยู่แค่ระดับของ "ไอ้อัลคาโปน" กับพวก เช่น ไอ้ซีไอเอหลงยุค และพวกเด็กแก็งค์ไอติม "คณะจำอวดประชาธิเปรต" นั่นเอง
ไอ้อัลคาโปน (ฉายาว่าไอ้ตาโปน) นั้นเป็นหัวขบวนใหญ่ แต่อัลคาโปน มันไม่ได้มีบารมีกับพวกยามบริษัทมากนัก ดูเหมือนว่าจะมีบารมีกับพวกมือปืนบ้าง แต่ต้องเป็นภารกิจใช้ "สไนเปอร์ยิงหัวชาวบ้าน" แบบนั้น แต่การระดมผู้ถือหุ้นโรงงานปลากระป๋องมาก่อความวุ่นวายนั้น ไอ้ตาโปนมันมือไม่ถึงขนาดนั้น มันพยายามระดมมาสองสามรอบแล้วในปีนี้ แต่ได้แค่พวกตัวตลกพวก "ผักกาดเค็มหลงยุค" สองสามร้อยคน เอาพวกใส่หน้ากากมาออกโรง ก็ไม่ได้น้ำได้เนื้ออะไร ไม่มีคนเข้าร่วมสักกี่คน
พวก "คณะจำอวดประชาธิเปรต" นั้น ก็ระดมคนมาชุมนุม แต่ยิ่งตลกคือ ออกเดินสายขายความเท็จทั่วประเทศเป็นร้อยครั้ง นึกว่าวันเป่านกหวีดจะมีคนมาร่วมเป็นล้าน แต่เอาเข้าจริงๆ มาหลักพันต้นๆ เท่านั้น คณะจำอวด จึงต้องถอยไปก่อความวุ่นวายในซ่องของตนเองทางใต้ ประกอบกับแก็งค์ไอติมของคณะจำอวด ปชป. (ประชาธิเปรต) นี้หมดทางไป ก็เลยต้องแสดงความถ่อย กักฬละ หยาบคายในที่ประชุมตัวแทนผู้ถือหุ้น มียกเก้าอี้ทุ่ม ขวางปาสิ่งของ หัวหน้าแก็งค์ของคณะจำอวดนี้ ก็แสดงอาการถ่อย ออกมาใช้คำหยาบ ประเภทอีโง่ กระหรี่ เผยให้เห็นจิตใจ กำพืดที่ปกปิดมานานว่า จริงๆ แล้วมี "สันดานต่ำช้าหยาบคาย"
ตอนนี้เรื่องแก้ไขกฎบริษัทก็ผ่านคณะที่ประชุมตัวแทนผู้ถือหุ้นแล้ว พวกแก๊งค์ชอบตีความ ก็รับไว้ตีความ แต่เราต้องมองให้ออกว่า ตอนนี้ ลุง ป้า กุนซือนั้น "เดี้ยง" ออกจากสถานการณ์รายวันไปหมดแล้ว ตัวช่วยของพวกเหล่านี้ไม่ได้มีพลังที่แท้จริงแล้ว
พวกหัวเก่าในโรงงานปลากระป๋องนี้ขาดตัวช่วยสำคัญ แต่ก็ยังพอรวมสมัครพรรคพวก ในกลุ่ม "นักตีความ" ได้อยู่บ้าง แต่พลังคุ้มครองนั้นไม่มีแล้ว ก็ต้องเล่นเกมกันเอง
พวกยามบริษัท นั้นดูเหมือนจะแฮปปี้ดี้ด้ากับผู้จัดการสาวสวยอย่างดี อีกอย่างผู้จัดการสาวสวย ก็ลงไปคุมฝ่ายยามเองแล้ว พวกยามก็ไม่ต้องไปวิ่งผ่านกุนซือ หรืออะไรอีกแล้ว ดูเหมือนว่าพวกยามจะไม่มีผลประโยชน์อะไรที่ขัดแย้งกับผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่มากนัก พวกที่มีบารมีต่อยาม ตอนนี้ "เข้าบ้านพักคนชรา" ให้ลูกหลานดูแลอย่างใกล้ชิดหมดแล้ว ไม่ออกมาวุ่นวายมากเหมือนก่อนแล้ว
สถานการณ์โรงงานปลากระป๋อง ดูเหมือนจะยังไม่สงบราบคาบ สะเด็ดน้ำดี แต่ไม่มีจุดพลิกกลับของสถานการณ์แบบกลับหน้ามือเป็นหลังเท้าอีกแล้ว พวกผู้ถือหุ้นที่เคยสนับสนุนพวกหัวเก่า แม้จะยังสนับสนุนอยู่ แต่ก็ไม่มีกำลังใจจะออกมาก่อความวุ่นวายแล้ว ดูเหมือนจะยอมรับเสียงข้างมากของผู้ถือหุ้นกลายๆ
โรงงานปลากระป๋องยังไม่สงบดีนัก แต่ไม่วุ่นวายตีกันเละอย่างเมื่อสามปีที่แล้ว
ก็ต้องรอดูอีกนิดว่า "การแก้ไขกฎโรงงาน" ที่เพิ่งผ่านไปสดๆ ร้อนๆ นั้น ลุงจะเซ็นไหม มีความวุ่นวายไหม หากวุ่นวายสถานการณ์ก็คงวุ่นสับสนอีกแน่
แต่เมื่อดูโครงสร้างอำนาจของโรงงานปลากระป๋องที่ "เลื่อนไป" แล้ว คงไม่มีความวุ่นวายใหญ่อีก คาดว่าคงเป็นอย่างนั้น สงสารผู้ถือหุ้น
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar