ข่าวจากราชสำนักตั้งฟ้าหญิงจุฬาภรณ์เป็นโฆษก...

ข่าวลับกรองแล้ว

โดย กลุ่มเสียงประชาชนไทย (สปท.)  15  ก.ย. 56

      - สำนักพระราชวังตั้งฟ้าหญิงจุฬาภรณ์เป็นโฆษกหรือโฆหกที่คอยโกหกประชาชนเกี่ยวกับเรื่องราวในวังกันแน่................ล่าสุดจัดฉากปั้นหน้าในรายการวูดดี้เกิดมาถุยเมื่อ 18 สิงหาคม 56 ว่ากษัตริย์ภูมิพลมีสุขภาพแข็งแรงสามารถนั่งสนทนาได้ยาวนานเป็นชั่วโมง   ประชาชนจับโกหกคำโตได้เพราะหลังจากนั้น สุลต่านและราชินีจากมาเลเซียอุตสาห์เดินทางไปพบกษัตริย์ภูมิพลถึงหัวหินตามหมายกำหนดการ  ปรากฏว่าแค่จะยันตัวเข็นรถออกมาพบยังไม่ได้ต้องให้ลูกชายและลูกสาวออกมาพบแทนที่พระราชวังไกลกังวล

      - 2 ปีที่แล้วโฆหกจุฬาภรณ์ก็ทำบิ๊กเซอร์ไพรส์โกหกคำโตว่าอีกสองเดือนกษัตริย์ภูมิพลจะออกมาเดินให้ดู  แต่ปรากฏว่าเหตุการณ์ผ่านไป 2 ปีแล้วยังไม่เคยมีใครเห็นกษัตริย์ภูมิพลลุกขึ้นยืนเลยอย่าว่าแต่เดิน

      - การออกแถลงข่าวของโฆหกจุฬาภรณ์ เมื่อ 18 สิงหาคม กับวูดดี้  เป็นเรื่องที่ไม่ทำไม่ได้เพราะแม้จะมีกฎหมายปิดปาก ม.112 แต่คนไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศก็บอกปากต่อปากกันทั้งโลกว่าราชินีเกิดอาการป่วยเส้นเลือดในสมองแตกมีภาวะฟั้นเฟือนเสียสติมาเป็นเวลานานกว่าปีแล้วโดยไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณะชน   และล่าสุดภาพที่นั่งในรถขณะเดินทางออกจากศิริราช  ใบหน้าก็แสดงอาการทรงพระเอ๋ออย่างเห็นได้ชัด ด้วยเหตุนี้ โฆหกจุฬาภรณ์จึงต้องออกมาแถกับสังคม โดยยอมรับว่าราชินีป่วยด้วยโรคเส้นเลือดสมองแตกแต่หายดีแล้วเป็นปกติพูดรู้เรื่อง  แต่แปลกที่ 12 สิงหา เธอกลับไม่ยอมออกมาพบหน้าใครเลย  นับว่าโฆหกเธอต้องทำงานหนักจริงๆ

       - การเดินทางออกจากศิริราชไปอยู่หัวหินของสองตายายคงไม่ต้องสงสัยให้มากเรื่องมากความเพราะรายงานข่าววงในจากแพทย์ผู้ใกล้ชิดว่าเป็นผลมาจากความดื้อรั้นของคนไข้ผู้มีอำนาจเหนือประชาชนและเหนือความเจ็บป่วยที่หงุดหงิดไม่ยอมอยู่ในโรงพยาบาลอีกต่อไปด้วยเหตุสำคัญสองประการคืออยู่นานเกินไปจนรำคาญกับถูกลูกชายยึดฐานที่มั่นจนเกิดอาการเซ็ง  ทั้งๆที่หมอไม่อยากให้ไปเพราะอันตรายมากแต่ห้ามความดื้อของคนไข้ไม่ได้  จึงกลายเป็นภาระหนักของหมอเพราะถ้าเกิดอาการลมหายใจขาดกะทันหันบาปก็จะมาตกกับหมอ  เพราะการอยู่หัวหินเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ก็ไม่ดีพอที่จะดูแลคนไข้พิเศษเช่นนี้  จะยกระบบอุปกรณ์จากศิริราชไปตั้งที่หัวหินก็เป็นไปไม่ได้จึงต้องวางแผนว่าหากเกิดเหตุร้ายกะทันหันก็จะต้องนำคนไข้ขึ้น ฮ. จากหัวหินกลับไปศิริราชทันที  แต่ปัญหามีว่าหากเกิดเหตุร้ายแรงระหว่างทางบน ฮ. จะทำอย่างไร  ดังนั้นจึงต้องเตรียมการร่อน ฮ. ลงฉุกเฉินทั้งกลางวันและกลางคืน  ซึ่งการใช้ ฮ.ในเวลากลางคืนก็อันตรายมากแต่ก็ต้องทำไม่มีทางหลีกเลี่ยงเพราะไม่รู้ว่าอาการจะทรุดหนักลงเมื่อไร  ด้วยเหตุนี้ระหว่างปลายเดือนสิงหาถึงต้นเดือนกันยาจึงมีการซ้อมใหญ่เตรียมการเหตุฉุกเฉินเอา ฮ.ขึ้นลง ทั้งกลางวันและกลางคืนระหว่างเส้นทางวังหัวหินกับศิริราช  โดยสมมุติเหตุฉุกเฉินจะต้องร่อนลงกลางทางโดยวางจุดที่โรงพยาบาลราชบุรีกับโรงพยาบาลนครปฐมจึงมีการซ้อมใหญ่ทั้งสองจังหวัด  จึงเป็นข่าวเอิกเกริกกับผู้ที่พบเห็นรอบโรงพยาบาล

       - นับจากสองตายายออกจากศิริราชไปหัวหิน  และความฟั่นเฟือนของราชินี  เมื่อพิจารณาประกอบกับเหตุการณ์ความป่วยหนักของ พล.อ.เปรม  ที่แอบเข้าโรงพยาบาลผ่าตัดปอดนานนับเดือน  จึงทำให้เราเข้าใจถึงสถานการณ์ที่ลูกสมุน ปชป. ประสานงานกับองคมนตรี สุรยุทธ  จุฬานนท์ พยายามก่อเหตุความรุนแรงทั้งในสภาและนอกสภาจากต้นปีนี้มาจนถึงปัจจุบันว่าเป็นความพยายามดิ้นรนที่จะล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์  เพื่อจะเข้าสู่โหมดการแต่งตั้งรัชกาลที่10  ให้ผู้หญิงเป็นพระเจ้าแผ่นดินให้เรียบร้อยแต่เป็นภาวะการณ์ที่สายเสียแล้ว  เพราะภาวะการณ์ใกล้ลงโลงของ พล.อ.เปรม  และเจ้านายใหญ่จากข่าวภายในเป็นเรื่องที่ใกล้ถึงแล้ว  ภาวะการณ์เช่นนี้ดูได้จากการประกาศยุบตัวเองของกลุ่มพันธมิตร  โดยสนธิลิ้ม เป็นนกรู้ตัวจริง  รู้ดีว่าการต่อสู้ในภาวะการณ์เช่นนี้มีแต่ตายกับหมดตัวจริงๆ  ซึ่งคู่หูตัวแสบจำลองก็รู้ดีแต่ยังดื้อด้านจึงแยกตัวไปสุมหัวกับกองทัพประชาชนที่สวนลุมฯ ของนายไทกรเตรียมการก่อกวน ต่อไป

       - ปชป.วันนี้กำลังโดดเดี่ยวเพราะกลุ่มพันธมิตรไม่ยอมเป็นเครื่องมือให้แต่ต้องดิ้นรนเพราะหากให้กระแสการเมืองไหลลงเช่นนี้ตัวเองก็มีแต่ตายกับตาย  และที่จะต้องตายจริงแน่ๆ ก็คือต้องรับเละข้อหาฆ่าประชาชนโดยปลายเดือนกันยาอย่างช้าไม่เกินต้นตุลาจะได้รับเกียรติสมอยากถูกฟ้องเป็นจำเลยในศาลอย่างแน่นอน  ดังนั้นจึงเกิดอาการแสดงบทพล่านทั้งนอกสภาและในสภาโดยทำการต่อต้านเพื่อล้มรัฐบาลทุกรูปแบบให้ได้  จึงเกิดบทแสดงแนวอุบาทว์ของ ปชป. ที่ชกต่อยกับตำรวจ โห่ฮาเหมือนคนป่า และทุ่มเก้าอี้ในสภา รวมทั้งออกปลุกระดมม็อบจากสวนลุมฯถึงม็อบสวนยางปิดถนน ปิดทางรถไฟปั่นป่วนไปทั่ว

       - สถานการณ์ดวงตกของฝ่ายอำมาตย์ออกอาการชัดตามความเสื่อมถอยของสังขาร พล.อ.เปรม นั้นก็คือตอนตี1 เศษของเช้ามืด วันที่ 12 กันยายน  ที่ประชุมรัฐสภาได้มีมติแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สมาชิกวุฒิสภามาจากการเลือกตั้งทั้งหมดและถอนยวงอำนาจ สว. จากการแต่งตั้งให้หมดอำนาจลงทันทีไม่เกิน มีนาคม ปีหน้าเป็นการดับฝันอำมาตย์และ ปชป.ที่จะมี สว.แต่งตั้งเป็นตัวช่วยครองอำนาจนาน 9ปี  ทันทีที่รัฐสภาลงมติดับฝันอำมาตย์ สส.ปชป.สงบนิ่งเหมือนไว้ทุกข์  ส่วน สว.แต่งตั้งหัวใจหล่นไปที่ตาตุ่มเดินคอตกออกนอกห้องประชุมทั้งหมดเหลือไว้แต่ สว. ลากตั้งบ้าดีเดือด สมชาย  แสวงการ  ณ. พันธมิตร(ตัวพ่อ)  ยังไม่หายบ้าลุกขึ้นอัดทักษิณแบบไม่ยั้ง จึงเจอ สส.ครูมานิต  ลุกขึ้นประท้วงไล่ออกนอกสภาให้หัดไปเรียนรู้การเลือกตั้งซะบ้างว่ากว่าจะได้รับการเลือกตั้งมาเป็น สว. มันเป็นอย่างไง ถ้าใครไม่รู้ว่าไข่ต้มสีอะไร  ก็ขอให้ดูสีหน้าของ สว.ลากตั้งอย่าง นายสมชาย ในเวลาที่ถูกไล่ออกนอกสภาก็จะรู้สีของไข่ต้มว่าเป็นอย่างไง

       - สดๆร้อนๆวันนี้ 15 ก.ย. แนวร่วมสนับสนุนการรัฐประหารที่แปลงกายใส่ชื่อสารพัดได้เปิดตัวในนามชื่อใหม่ว่าสภาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย นำโดยเจ้าเก่าสุริยะใสเปิดประชุม  ดูทิศทางแล้วไม่มีอะไรมากไปกว่าการจัดองค์กรเตรียมฉวยโอกาสจากสถานการณ์ความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงการเปลี่ยนผ่านรัชกาลที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้

       - เครือข่ายคณะทำงานของเสียงประชาชนไทย (สปท.) จะได้เล็ดลอดรั้ววังสืบสภาพข่าวลับข่าวลวงมาตวงใส่เครื่องกรองรายงานให้พี่น้องเสื้อแดงและผู้รักประชาธิปไตยทั่วโลกทราบต่อไปเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ใหม่ให้ทันท่วงที............



ว    วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 18:04 น.  ข่าวสดออนไลน์

    ( ตัวอย่างการโกหกของ โฆหก จุฬาภร )


ในหลวง-ราชินี ทรงพระสำราญ  วันที่ 17 ก.ย. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จฯ ทรงบันทึกแถบวีดิทัศน์พระราชทานสัมภาษณ์เนื่องในวันมหิดล ประจำปี 2556 ณ อาคารศรีสวรินทรา ชั้น 3 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งจะออกอากาศในวันที่ 21 ก.ย.นี้ เวลา 22.30-00.20 น. ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ในโอกาสนี้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี มีพระดำรัสถึงพระอาการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ว่า ทั้งสองพระองค์ทรงพระสำราญ รู้สึกว่าทรงมีความสุขที่ได้ประทับอยู่ที่วังไกลกังวล

 ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงพระอาการของทั้งสองพระองค์ว่าตนเพิ่งกลับมาจากวังไกลกังวลเมื่อเช้าวันเดียวกันนี้ ทั้งสองพระองค์ทรงพระสำราญเหมือนได้อยู่บ้าน และบรรยากาศดีมากเพราะติดทะเล มีสวน ตอนเย็นๆ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระดำเนินมายังศาลาเริงทุกเย็น ทรงพระดำเนินได้ดีแล้วและทรงพระดำเนินทุกวัน อยากบอกประชาชนที่ห่วงใยว่าทรงพระดำเนินได้ดี ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จลงไปชายหาดบ้าง และเสด็จฯ ทะเลสาบในวังไกลกังวล ทรงให้อาหารปลา ทรงพระสำราญมาก อยากให้ประชาชนสบายใจ