fredag 27 september 2013

....๒๘ ก.ย.๕๖ "แรงปรารถนา"....อันสูงสุดของประชาชนต้องเป็นจริง... โดย รัฐสภา รัฐบาล ผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนไทยตามระบอบประชาธิปไตย ต้องกล้าทำหน้าที่ในสิ่งที่ถูกต้องอย่าทรยศประชาชนและประเทศชาติปล่อยให้ความไม่ถูกต้องหรืออำนาจเถื่อนใดๆมาอยู่เหนือความถูกต้องยุติธรรมเหมือนในอดีตที่ผ่านมา โปรดอย่าลืมว่าประชาชนไทยไม่ต้องการอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการอีกต่อไป... ประชาชนไทยตั้งตารอคอยฝากความหวังอนาคตของชาติไว้กับรัฐบาลและระบบรัฐสภาไทย ...ขอให้โชคดีเอาชนะฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆให้สำเร็จไปด้วยดี.....



โดย ICT........ปชท
เมื่อ ศุกร์, 27/09/2013 - 14:59

"สุรนันทน์"มั่นใจ รบ.ทำถูกต้องไม่สนศาล รธน. โหวตผ่านวาระ 3 ทูลเกล้าฯ ทันที

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1380263110&grpid=&catid=01&subcatid=0100
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 27 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเรียกทีมกฎหมาย เพื่อหารือหาทางออกต่อการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมติรับคำร้องไว้พิจารณาว่า ไม่ได้มีการเรียกทีมกฎหมายมาหารือแต่อย่างไร เพราะฝ่ายกฎหมายเขามีการหารือและศึกษาข้อกฎหมายต่างๆ ตามปกติอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้ต้องยอมรับว่า ในเชิงข้อกฎหมายมีหลากหลายความคิดเห็น ขณะเดียวกัน หากเรายึดตามหลักประชาธิปไตยที่มี 3 เสาหลักคือฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติและตุลาการ ซึ่งฝ่ายนิติบัญญัตินั้นอำนาจชัดเจนการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีบทบัญญัติที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของรัฐสภา ดังนั้น เมื่อรัฐสภาดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่าน 3 วาระ มีการลงคะแนนเรียบร้อย ซึ่งรัฐธรรมนูญมาตรา 291 (7) บัญญัติไว้ว่า เมื่อการลงมติได้เป็นไปตามที่กล่าวแล้ว ให้นำร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายและให้นำบทบัญญัติมาตรา 150 และมาตรา 151 มาใช้บังคับโดยอนุโลม โดยกำหนดให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ที่นำขึ้นทูลเกล้าฯ ภายใน 20 วัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ

นายสุรนันทน์กล่าวว่า ดังนั้น ต้องรอดูว่าในวันที่ 28 กันยายนนี้ สภาจะมีมติออกมาอย่างไร ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่มีการถ่วงเวลา เพราะการดำเนินการถูกบัญญัติไว้ตามรัฐธรรมนูญแล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องมีการทูลเกล้าฯ ดังนั้น หากการโหวตลงมติใน วันที่ 28 กันยายน ทุกอย่างผ่านตามกระบวนการ นายกรัฐมนตรีก็พร้อมที่จะทำงานตามกระบวนการที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีก็ไม่สามารถขัดรัฐธรรมนูญได้ และในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญไม่ได้ระบุว่าต้องรอเวลาให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก่อน

"ดังนั้น เมื่อนายกรัฐมนตรีปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ แล้วมีผู้เห็นแย้งอย่างไร หรือศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินออกมาอย่างไร ก็เป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐบาลต้องทำตามรัฐธรรมนูญที่มีบทบัญญัติไว้ แต่เมื่อมีการวินิจฉัยหรือตีความออกมาอย่างไร เราก็พร้อมปฏิบัติตาม แต่วันนี้ทิศทางของรัฐบาล นายกรัฐมนตรีก็ต้องทำตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ในมาตรา 291(7) ส่วนการตีความของรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ใช่อำนาจของฝ่ายบริหาร แต่เป็นเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องวินิจฉัย" เลขาธิการนายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า กรณีที่นายกรัฐมนตรีนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯไปแล้ว แต่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าเป็นการขัดรัฐธรรมนูญ จะเกิดอะไรขึ้น นายสุรนันทน์กล่าวว่า รัฐบาลถือว่าเราทำตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญทุกประการ เป็นเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องตีความว่า สิ่งไหนทำได้หรือทำไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่ทำนั้นผิด เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นในระบอบประชาธิปไตยเสมอในกรณีที่มีความเห็นไม่ลงรอยกันระหว่างอำนาจต่างๆ และเมื่อมีการตีความทางกฎหมายรัฐบาลก็พร้อมปฏิบัติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในมาตรา 154 บัญญัติไว้ว่า หากเรื่องยังอยู่ระหว่างการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีควรระงับการนำขึ้นทูลเกล้าฯ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากวันที่ 28 กันยายน กระบวนการของรัฐสภาแล้วเสร็จ โดยตัดสินมาแล้วโดยผ่านความเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือเป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งในรัฐธรรมนูญมาตรา 291(7) บัญญัติให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯภายใน 20 วัน เพราะฉะนั้น นายกรัฐมนตรีก็ต้องปฏิบัติตาม และหากมีคนเห็นต่าง ก็มีการร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อมีการวินิจฉัยออกมาก็ต้องมาดูว่าจะแก้ไขกันอย่างไร สมมุติวินิจฉัยว่า ทำถูกต้องทั้งหมด ก็จบ แต่ถ้าวินิจฉัยว่าไม่ได้มีขั้นตอนขัดกับรัฐธรรมนูญ ก็ต้องมาดูกัน วันนี้อย่าเพิ่งไปตัดสินล่วงหน้า

"ส่วนที่มีบางฝ่ายมีความเห็นว่า อาจเกิดปัญหากับรัฐบาล เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 154 บัญญัติไว้ชัดเจนนั้น เราต้องแยกกัน ถ้ารัฐสภาบอกว่า ต้องรอคำวินิจฉัยก็เป็นอำนาจของรัฐสภา แต่ถ้ารัฐสภาบอกว่า มีอำนาจกระบวนการทุกอย่างเสร็จสิ้นตามกระบวนการแล้ว นายกรัฐมนตรีก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากนำร่างฯขึ้นทูลเกล้าฯ ทุกคนต่างทำหน้าที่อย่าเอามาปนกันระหว่างอำนาจ 3 เสาหลัก ส่วนนายกรัฐมนตรีจะนำขึ้นทูลเกล้าฯเมื่อไหร่ ก็ต้องมาพิจารณากันอีกครั้ง เพราะวันนี้ยังไม่ทราบว่าจะผ่านมติของสภาในรูปแบบไหน ต้องรอดูวันที่ 28 กันยายน ดูทั้งเรื่องเอกสารที่เกี่ยวข้องก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอน การทูลเกล้าฯ ก็ต้องอยู่ภายในระยะเวลา 20 วัน อาจจะเป็นวันรุ่งขึ้นหรือในวันที่ 19 ก็ได้ ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี"นายสุรนันทน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า นักกฎหมายบางคนมองว่า หากเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นนายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบและถึงอาจต้องติดคุก นายสุรนันทน์กล่าวย้อนถามว่า แล้วถ้านายกรัฐมนตรีไม่นำขึ้นทูลเกล้าฯ นายกรัฐมนตรีก็ต้องรับผิดชอบเช่นกัน ดังนั้น นายกรัฐมนตรีก็ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ นายกรัฐมนตรีไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย วันนี้รับผิดชอบในฐานะนายกรัฐมนตรีที่มีหน้าที่ต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ม่ใช่ว่าต้องรับผิดชอบว่าผิดหรือไม่ผิด เพราะนายกรัฐมนตรีไม่ได้มีหน้าที่ต้องวินิจฉัย

เมื่อถามว่า การดำเนินการควรทำให้ทันเวลาในการเลือกตั้งของ ส.ว.หรือไม่ นายสุรนันทน์กล่าวว่า กระบวนการจะทันหรือไม่เป็นเรื่องฝ่ายการเมืองต้องไปคิดกัน นายกรัฐมนตรีไม่สามารถกำหนดได้ว่าต้องเสร็จเมื่อไหร่

เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมสภาในวันที่ 28 กันยายน เพื่อไปร่วมโหวตลงมติผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่ นายสุรนันทน์กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้แทนราษฎรก็คงไป แต่ช่วงเช้าวันที่ 28 กันยายน นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ปทุมธานีไปตรวจน้ำท่วมก่อน
 

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar