tisdag 14 januari 2014

"กรุงเทพฯชนะสุเทพ" ชาวกรุงเทพฯส่วนใหญ่จึงปรับตัวอยู่ต่อได้ในภาวะ "ชัตดาวทาวน์" ทำงานจากบ้าน หยุดงานชั่วคราว เหมือนที่เคยทำในภาวะใกล้เคียงกันหลายปีหลังนี้ ยกเว้นธุรกิจใหญ่ที่ต้องประสบภาวะขาดการค้าขายรายได้มากหน่อย











"ถึงจะเป็นกบถ ก็เป็นกบถที่รักชาติน๊ะจ๊ะ" อ.ปวิน

pic.twitter.com/zBU8p21f5v







อ.พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ แห่งรัฐศาสตร์ จุฬาฯฟันธงวันแรกชัตดาวน์กรุงเทพฯ "กรุงเทพฯชนะสุเทพ" และ วิเคราะห์วงจรขึ้นลงของม็อบสุเทพ ณ กปปส

คลิป อ. พิชญ์




รายการ Wake Up Thailand ทาง Voice TV เช้าวันนี้ อ.พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์วิเคราะห์การชัตดาวน์กรุงเทพฯของม็อบสุเทพ ณ กปปส.ไว้น่าคิดตามและคิดต่อมาก ๒ ประเด็นหลักด้วยกัน (พูดจากความจำ http://shows.voicetv.co.th/wakeup-thailand/93962.html)


๑) กรุงเทพมหานครฯ แผ่กว้างใหญ่โตมหาศาล และไม่มีผังเมืองที่เชื่อมต่อเป็นระบบเรียบร้อย ในภาวะภูมิทัศน์เมืองในทางเป็นจริงแบบนี้ ม็อบชัตดาวน์กรุงเทพฯของสุเทพ ณ กปปส. จึงส่งผลชัตดาวน์จริง ๆ จำกัด คือปิดจริง ๗ - ๘ จุดได้แค่ downtown หรือส่วนศูนย์กลางธุรกิจการค้าใจกลางกรุงเท่านั้น กรุงเทพฯส่วนที่เหลือซึ่งแผ่กว้างออกไปสู่เมืองปริมณฑลทั้งที่อยู่อาศัย ย่านการค้าย่อย สถานที่ราชการ ฯลฯ ไม่กระทบเท่าไหร่ สามารถดำรงชีวิตปกติสุขได้ เพราะใช้ที่ดินเพื่อหลายอย่างผสมปนเปกันไม่เป็นระบบมาแต่เดิม (mixed land use) มีตลาดของสด ซูเปอร์มาร์เก็ต ชอปปิ้ง มอลในละแวกย่านใกล้เคียงให้พึ่งพาดำรงชีวิตปกติสุขต่อไปได้ตามสมควร

ชาวกรุงเทพฯส่วนใหญ่จึงปรับตัวอยู่ต่อได้ในภาวะ "ชัตดาวทาวน์" ทำงานจากบ้าน หยุดงานชั่วคราว เหมือนที่เคยทำในภาวะใกล้เคียงกันหลายปีหลังนี้ ยกเว้นธุรกิจใหญ่ที่ต้องประสบภาวะขาดการค้าขายรายได้มากหน่อย

ในทางกลับกัน เมื่อกปปส.ขยายที่ชุมนุมไป ๗ - ๘ จุด ก็เท่ากับเพิ่มค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาโสหุ้ยม็อบขึ้น ๘ เท่า สิ้นเปลืองมาก ถ้ารับบริจาคจากผู้คน ก็ต้องบริจาคเพิ่มกัน ๘ เท่า น่าสงสัยว่าจะอยู่ได้ยืดเยื้อนานเพียงใดในทางเป็นจริง?จะอึดทนกว่าคนกรุงที่ปรับตัวหรือไม่อย่างไร?

๒) อ.พิชญ์ตั้งข้อสังเกตว่า ม็อบยืดเยื้อสุเทพ ณ กปปส.ซึ่งมี "สงครามครั้งสุดท้าย" มาแล้วหลายรอบ ไม่สิ้นสุดยุตินั้น ดูจะมีวงจรพลวัตของมันอยู่ ๓ ขั้นตอน คือ 

ก) ช่วงฮึกเหิม ระดมคนมาได้มากมหาศาล จะถีบข้อเรียกร้องจากรัฐบาลขึ้นสูง เร่งเร้ามวลชนให้ตั้งความหวังในชัยชนะและผลสำเร็จสูงลิบลิ่ว แต่ไม่มีผลเป็นชัยชนะชัดเจน เพราะไม่อาจแปรพลังมวลชนบนท้องถนนไปหยุดการทำงานของสถาบันรัฐและหน่วยราชการต่าง ๆ ที่เดินหน้าของมันไปตามระบบอย่างรูตีนอัตโมมัติทุกเมื่อเชื่อวันได้ (ชัตดาวน์กรุงเทพฯกำลังอยู่ในขั้นตอนนี้)

ข) ช่วงยึดสถานที่ราชการ ฉะนั้นในที่สุดก็ต้องพามวลชนไปบุกยึดสถานที่ราชการ ซึ่งก็พอทำได้จำนวนหนึ่งชั่วคราวหรือนานหน่อยก็ตาม ผลของมันก็คือเริ่มลดทอนความชอบธรรมของการชุมนุมลง สร้างความไม่พอใจของทั้งข้าราชการและประชาชนที่ต้องการรับบริการสาธารณะจากรัฐให้คุกรุ่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ยังไม่นับพฤติกรรมเหนือการควบคุมเช่นทำลาย ลักทรัพย์สินของราชการและเจ้าหน้าที่ ฯลฯ


ค) ช่วงปะทะด้วยกำลัง เพื่อหยุดการทำงานของหน่วยราชการยุทธศาสตร์บางแห่งให้ได้เพื่อผลทางการเมืองเฉพาะหน้าสำคัญ ในที่สุดม็อบกปปส.ก็จะใช้กำล้งเข้าบุกโจมตีปะทะกับเจ้าหน้าที่อย่างซึ่งหน้ารุนแรง นำไปสู่การทำลายทรัพย์สินสาธารณะ ทำร้ายผู้คนเจ้าหน้าที่ ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนทั่วไป กระทั่งเกิดกรณีเสียชีวิตขึ้น ถึงจุดนั้น ความชอบธรรมของการชุมนุมก็จะลดฮวบ ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมและสื่อ ต้องขยับถอยออก แล้ววกกลับไปเริ่มต้นแคมเปน ก) รอบใหม่




[​IMG]
https://www.facebook.com/photo.php?...87567834.57499.100004088423143&type=1&theater
 


Inga kommentarer:

Skicka en kommentar