lördag 11 januari 2014

ข่าวด่วน... ฝันที่เป็นจริงกับฝันค้างช่างมีผลที่แตกต่างกันเกินบรรยาย.....






ฝันที่เป็นจริงกับฝันค้างช่างมีผลที่แตกต่างกันเกินบรรยาย.....
January 11, 2014 ฝันและใฝ่ วันนี้มีเรื่องความฝันมาเล่าครับ ใครไม่เชื่อเรื่องฝันและไม่นิยมทำนายฝันจะข้ามไปเสียก็ได้ ไม่ว่ากัน

อยู่ดีๆ ผมก็เกิดฝันขึ้นว่า เหตุการณ์ในขณะนี้กำลังกลับตาลปัตรอย่างที่ใครๆ ก็ไม่คาดคิด ผู้มีอำนาจอันล้นเหลือในบ้านเมือง ใช้ให้คนใกล้ชิดไปบอกกับผู้คุมกำลังหลักของกองทัพว่าห้ามก่อการรัฐประหารตามที่ได้วางแผนไว้แล้ว  และกำลังนับถอยหลังสู่การปฏิบัติ คนที่ส่งสารก็ไม่ได้ชี้แจงว่า เหตุใดจึงเกิดท่าทีแบบนี้ขึ้นมาได้ ทั้งที่ก่อนหน้านั้น ได้ใช้ความเงียบสลับกับการแสดงโชว์เล็กๆ น้อยๆ ส่งสัญญาณอนุญาตให้เขาไปเตรียมการกันแท้ๆ   สุเทพก็จะปิดเมือง องค์กรอิสระอีกสองหน่วยจะบอกว่าการปิดเมืองอย่างนี้ไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิด   คณะกรรมการการเลือกตั้งก็จะถือโอกาสเลื่อนการเลือกตั้งออกไปโดยไม่มีกำหนด ชี้ว่าสถานการณ์บ้านเมืองสำคัญกว่าข้อกฎหมาย    ข้าราชการบางคนจะหยุดทำงานผสานกับการปิดเมือง การปะทะเล็กๆ น้อยๆ จะเกิดขึ้นระหว่างมวลชนสองฝ่าย แล้วทหารก็เข้ามาอย่างพระเอก


สัญญาณใหม่จึงสร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้เตรียมก่อการรัฐประหารกันถ้วนหน้า ไล่ตั้งแต่พรรคประชาธิปัตย์ องค์กรอิสระ เอ็นจีโอกลุ่มหนึ่ง สมาชิกวุฒิสภากลุ่มหนึ่ง นักธุรกิจกลุ่มหนึ่ง ไปจนถึงผู้บัญชาการเหล่าทัพ กำลังไล่ถามกันวุ่นวายไปทีเดียวว่าเกิดอะไรขึ้น
ไม่ต้องถามใครก็ได้ครับ เพราะผมฝันต่ออีกยาวนานทีเดียว มีคำอธิบายอยู่เสร็จสรรพ คนใหญ่โตที่เขาเปลี่ยนใจนั้น ไม่ได้เกิดจากการเจรจาใดๆ ไม่ได้เกิดจากสำนึกผิดชอบชั่วดีใดๆ (เพราะต่อมหิริโอตตัปปะหดหายไปนานมากแล้ว) แต่เกิดจากคำประกาศกร้าวของผู้ที่ใหญ่กว่าเขา ผู้ที่เขากลัว และผู้ที่เขากราบไหว้เอาเป็นที่พึ่งมาตลอดชีวิต ได้แก่ สหรัฐอเมริกา และ สาธารณรัฐประชาชนจีน   สหรัฐอเมริกานั้นบอกไว้ชัดเมื่อต้นเดือนธันวาคม โดยส่งนายพลผู้คุมกำลังในภาคพื้นนี้มาบอกว่า ถ้ารัฐประหาร ความผูกพันอันยาวนานจะขาดสะบั้น เพราะเขาจะตัดความสัมพันธ์ในด้านที่เป็นกล่องดวงใจในทันที ส่วนจีนออกจะคลาสสิคหน่อย ให้ผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์ฯ มาบอกกับผู้หญิงคนหนึ่งที่จีนใกล้ชิดสนิทสนมด้วยว่า ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารที่เธอผู้นั้นกำลังสนับสนุนอยู่  


ถึงแม้จีนไม่ได้ก้าวไปถึงขั้นขู่เข็ญ หรือมีเงื่อนไข แต่ท่าทีอย่างนี้แทบไม่เคยมีใครเคยเห็นจากจีนเลย ท่าทีที่ไม่ต้องตีความใดๆ ของมหาอำนาจหมายเลขหนึ่งของโลกและมหาอำนาจผู้คุมเอเชีย ทำให้ผู้มีอำนาจไทยต้องคิดหนัก เท่าที่ผ่านมาคิดว่า จะบำเพ็ญตนเป็นหมูไม่กลัวน้ำร้อนสักครา แต่เมื่อถึงคราวเข้าจริงๆ ทั้งสองรัฐเขาก็ยิ่งตอกย้ำสิ่งที่เขาส่งสัญญาณ มาก่อนให้ชัดเจนยิ่งขึ้น แถมคราวนี้ ยังมิได้สื่อสารผ่านกระทรวงการต่างประเทศ แต่ตรงไปยัง ลูกค้าที่อุดหนุนกันมาตั้งแต่ครั้งสงครามเย็นเลยด้วย ก็ทำให้ความหนาวเย็นแล่นผ่านจากเมืองหลวงสองแห่งจนไปถึงเมืองที่จะมีราคาแพงที่สุดของโครงการเซาท์เทิร์นซีบอร์ด และนำมาสู่การกลับหลังหันดังกล่าว


นับเป็นความฝันที่พิศวง งงงวย มาก เพราะผมเคยนึกว่า คนไทยผู้ใหญ่โตคับฟ้า กับราษฎรรากหญ้าของเราไม่มีช่องว่างระหว่างกัน ใครจะใหญ่โตขนาดไหนก็เกรงใจและเห็นใจราษฎร ถ้าจะคิดอะไรที่เป็นบวกต่อประเทศชาติหรือลดการทำลายล้างกันลง ก็น่าจะมาจากความเกรงใจและความเห็นใจนั้นเป็นสำคัญ รวมทั้งในคราวนี้ด้วย แต่เมื่อรู้ว่าความเกรงใจนั้น กลับไพล่ไปมีความรู้สึกกับประเทศอื่น และเป็นความกลัวอำนาจและอิทธิพลของเขามากกว่าความเกรงใจ ก็ทำให้เกิดผิดหวังอยู่ไม่น้อย ทำให้ต้องย้อนกลับไปคิดถึงความสัมพันธ์เมื่อเก่าก่อน ที่เราอาจเผลอเข้าใจผิดไปเองว่ารักกันและมีความสัมพันธ์พิเศษ ในที่สุดเขาก็มิได้เห็นหัวเราเอาเลย แถมยังกดหัวเอาไว้ให้ต่ำและเดินก้าวข้ามหัวเราไปในแทบทุกเรื่อง แม้คนในบ้านจะลุกขึ้นมาฆ่ากันตาย ก็ยังนั่งบอกใบ้ให้หวยจนต้องตีความไปต่างๆ นานา แทนที่จะเข้ามามีบทบาทระงับปัญหาอย่างผู้ใหญ่ที่คนทั่วไปเคยเคารพนับถือ ความไม่เห็นหัวกันนี่เอง ที่ทำให้ความรักที่เคยมีให้กันจืดจางลงไปตามลำดับ จนถึงขั้นหมดไปได้ และความจริงก็หมดไปแล้วสำหรับคนหลายคน
ผมตื่นขึ้นมาก็รู้สึกสะบัดร้อนสะบัดหนาว เพราะมันฝันร้ายและฝันดีปะปนกันอยู่จนสรุปไม่ได้ว่าร้ายหรือดี. 






ถ้าฝันนั้นเป็นจริง คนสนับสนุนสั่งไอ้สุเทพต้องคิดหนัก

by Bannokogna


ประชาชนก็ต้องแสดงพลังและมีความหนักแน่นที่จะเข้าสู่การเลือกตั้ง.. นั่นแหละจุดกำเนิดของโชคชะตา โชคชะตาของประเทศนี้ ประชาชนเป็นคนคุม อย่าให้ใครมาสนตะพาย



การเปลี่ยนหันกลับนั้น น่าจะมีต้นเหตุมาจากความมีสติและความยึดมั่นในปชตของ ปชช

คนสั่งการเกรง มหาอำนาจ

มหาอำนาจเกรง ความต้องการ ปชต ของประชาชน

มหาอำนาจ อเมริกา กลัวไทยจะกลายเป็นประเทศที่ไม่เป็น ปชต และมีการปฏิวัติประชาชน
เมื่อ ปชช ลุกขึ้นสู้ ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อาจมีโรคแทรกแซงจากอิธิพลของลัทธิก่อการร้าย
และอื่นๆ (ตัวอย่างเช่น คิวบา คาสโตร และ อิหร่าน ชาร์) จีนเองก็อาจเห็นว่าถ้าไทย
มีสงครามกลางเมือง ก็อาจเป็นการต่อสู้ระยะยาวและ ไม่รู้อะไรจะกิดขึ้น และอาจมีผลกระทบ
กับเศรษฐกิจโลกด้วย

ถ้ามี รปห เขาคงประเมินแล้วว่ามีแนวโน้มสูงที่ ปชช จะลุกขึ้นสู้.. เมื่อมีการต่อสู้
ผลประโยชน์ของมหาอำนาจจะเสียหาย และมหาอำนาจจะถูกดึงให้เลือกข้าง

ประเมินจากไหน... ก็ประเมินจาก การชุมนุมใน ตจว ของ นปช การจุดเทียน เรียกร้องให้
respect my votes และคนส่วนใหญ่ในสังคมที่ต้องการ ปชต และตาสว่างแล้ว

ถ้าฝันนั้นจริง... ก็ต้องขอบคุณประชาชนผู้รัก ปชต และกล้าแสดงออกให้โลกเห็น
และโลกก็เห็นแล้วจริงๆ

...แต่นั่นก็คือความฝันของคุณจักรภพ และผมก็เชื่อว่าเป็นความฝันจริงๆเพราะน่าจะมีส่วนที่
น่าจะจริงและรายละเอียดบางอย่างคุณจักรภพอาจดราม่า(กระซิบผู้หญิง บลาๆๆ ซึ่งไม่น่าจะรู้ได้)
และเป็นฝันที่คุณจักรภพมอง.. อย่างไรก็ตาม

ปชช ก็ต้องแสดงพลังและมีความหนักแน่นที่จะเข้าสู่การเลือกตั้ง.. นั่นแหละจุดเนิดของโชคชะตา
โชคชะตาของประเทศนี้ ประชาชนเป็นคนคุม ไม่ให้ใครมาสนตะพาย



Inga kommentarer:

Skicka en kommentar