torsdag 5 december 2013

"ภาพนี้ชัดเจน" ดูให้ดีการเข้าเยี่ยมเยือนบอกอะไรแก่คนในสังคมไทย..หยุดก่อความวุ่นวายได้แล้ว ช่วยกันนำความสงบสุขคืนสู่สังคม...มองโลกให้กว้างอย่าลืมว่าประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมอยู่กับสังคมโลกอันกว้างใหญ่ไพศาล ดังนั้นจึงต้องรับฟังกฎกติกาที่ทุกประเทศใช้ร่วมกันเพื่อความสงบสุขของภูมิภาคทั้งหมด.. หยุดคิดรับฟังบ้างว่าขณะนี้ทั่วโลกเขามองสถานการณ์บ้านเมืองอย่างไร ...ด้วยความปรารถนาดี..



                 
เวลา 09.00 น. พลเรือเอก Samuel Locklear (แซมมวล เจ. ล็อคเลียร์) ผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐอเมริกาประจำภาคพื้นแปซิฟิก (United States Command – USPACOM) เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล




[Image: 1480699_10152050279400211_255719214_n.jpg]
โดย  ลููกชาวนาไทย

สหรัฐส่ง ผบ.กองทัพแปซิฟิกเข้าพบนายกฯปู ท่ามกลางควันปืน มันย่อมมีนัยยะมาก
ภาพ ผบ.ทหารสหรัฐภาคพื้นแปซิฟิก เข้าเยี่ยมคารวะ นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร มันมีนัยยะทางการเมืองมากมาย เพราะมีสภาพเหมือนเดินฝ่าควันปืนในสงครามกลางเมือง เข้าพบอีกฝ่าย

หากเรามองให้ลึกคือ การแสดงภาพเพื่อ ปรามฝ่ายขวาจัดในไทย ไม่ให้ทำรัฐประห...าร เพราะหากไม่ต้องการยุ่งในสถานการณ์ ที่ยากลำบากของไทยแล้ว อเมริกันคงไม่โง่พอที่จะเลือกส่ง ผบ.กองทัพสหรัฐ ชั้นนำแบบนี้เข้ามา เขาคงรอดูมากกว่า

เราเห็นชัดเจนว่า มหาอำนาจหลายประเทศ ทั้งจีน อเมริกา อียู แสดงท่าทีทางการเมืองไทยอย่างชัดเจน แม้เขาจะพูดได้เพียงว่า ต้องการให้เจรจา เพราะทางการทูตย่อมพูดได้แค่นั้น แต่นัยยะคือ ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ โดยการใช้กำลัง

ทุกฝ่ายทราบดีว่า หากเมืองไทยไร้สเถียรภาพทางการเมือง มันจะกระทบสเถียรภาพทางการเมืองในอาเซียนอย่างแน่นอน มันจะทำให้ภูมิภาคนี้ไร้เสถียรภาพยิ่งขึ้น

อาเซียนที่กำลังรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ เป็นจุดหนึ่งของโลกที่กำลังเติบโตทั้งการค้าและการลงทุน ผ่าน "ประชาคมเศรษฐกิจ AEC " ทุกประเทศได้ประโยชน์ แต่มันจะสะดุดทันที หากมีการทำรัฐประหารในไทย ที่ทุกคนรู้ว่า รัฐประหารครั้งนี้ไม่มีทางจบแบบสันติแน่

การปรามฝ่ายทหารไม่ให้คิดเลยเถิด จึงต้องเกิดขึ้น เมื่อไม่มีรัฐประหาร การแก้ไขปัญหา การใช้กำลัง นองเลือดจะไม่เกิดขึ้น สุดท้ายก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย Rule of law ในที่สุด

อันที่จริงหากจะดูท่าทีอเมริกัน เราต้องดูที่ทูตสหรัฐประจำประเทศไทยคือ ทูตคริสตี้ ที่ย้ายมาจากฟิลิปปินส์ มาประจำประเทศไทย ทูตคริสตี้เคยมีประสบการณ์ ช่วงความยุ่งยากในฟิลิปปินส์ ที่เธอสามารถช่วย Calm Down สถานการณ์ได้มาก

ดังนั้น เมื่อมีปัญหาในไทยและทูตคนเก่าของสหรัฐที่มีภรรยาเป็นคนไทย พูดไทยได้ นั้นเลือกข้างฝ่ายชนชั้นนำมากเกินไป ทำให้ฝ่ายบริหารอเมริกันประเมินสถานการณ์ผิดพลาด การส่งทูตคริสตี้มา คือ การเปลี่ยนนโยบาย เป็น ถอยห่างออกไปจากชนชั้นนำไทย ไปหลายก้าว แม้จะไม่เลือกข้างชัดเจน แต่อเมริกันก็ยืนตรงกลางมากขึ้น


Inga kommentarer:

Skicka en kommentar