lördag 21 december 2013

... บอยคอตประชาธิปัตย์ ประชาธิปัตย์คว่ำบาตร... รู้นะพรรคไดโนเสาร์ทำเพื่อให้ใครสั่งเป็นโมฆะใช่ไหม?.. แล้วตั้งรัฐบาลพระราชทานขึ้นมายริหารประเทศเองเหมือนทุกครั้งจนเคยตัว อย่าคิดทำอะไรโง่ๆ ว่าทุกอย่างจะสมปรารถนาเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาเป็นอันขาด เพราะครั้งนี้ประชาชนคงไม่ยอมให้อำมาตย์เผด็จการมาสั่งขัดขวางทำลายล้มล้างการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยอีกต่อไป ....


พรรคไดโนเสาร์ประชาธิปัตย์จะหมุนเวลาให้ประเทศไทยกลับไปเริ่มต้นใหม่เหมือนสมัยปี๒๔๙๕  ก่อนไอ้โง่"อภิสิทธิ์"เกิดเมื่อห้าสิบปีที่ผ่านมา  พรรคที่มีความคิดอัปปรีย์จัญไรเช่นนี้  ยังต้องการให้พวกมันมาบริหารประเทศอีกหรือ?
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แถลงประชาธิปัตย์ไม่ส่งผู้สมัครเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 เพื่อหยุดภาวะการเมืองล้มเหลว-กระบวนการประชาธิปไตยบิดเบือนโดยคนบางกลุ่มมา 8-9 ปี โดยพรรคเคยทำแบบนี้สมัย 2495 และ 2549 ซึ่งพิสูจน์ว่าไทยรักไทยแข่งกับตัวเองยังทุจริตถึงขั้นยุบพรรค ท้าพรรคอื่นลงเลือกตั้งให้ประกาศด้วยว่ามาต่ออายุระบอบทักษิณ

21 ธ.ค. 2556 - เมื่อเวลา 17.20 น. วันนี้ ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดเก่า-ใหม่ รวมทั้งอดีต ส.ส.พรรคถึงท่าทีของพรรคเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 ก.พ. 2557 โดยระบุว่าที่ประชุมร่วมของคณะกรรมการบริหารและอดีต ส.ส.ของพรรคมีมติว่า พรรคจะไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. มตินี้เป็นข้อสรุปที่เกิดขึ้นจากการพิจารณาและกระบวนการที่มีความรอบคอบ และการมีส่วนร่วมของสมาชิกพรรค อย่างแท้จริง โดยในการประชุมนั้น มีการรายงานจากเลขาธิการพรรค ที่มีการสอบถามความคิดเห็นของสาขาพรรคทั่วประเทศต่อกรณีการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น รวมไปถึงการให้รองหัวหน้าพรรคในทุกภาค ที่มีการประชุมหารือกับอดีตสส.แต่ละภาค ความเห็นของทุกฝ่ายไปในทางเดียวกันว่าพรรคไม่สมควรส่งผู้สมัคร
สำหรับเหตุผลที่จะคว่ำบาตรเลือกตั้ง คือเพราะพรรคประชาธิปัตย์ได้มองเห็นว่าการเมืองของประเทศไทยได้อยู่ในภาวะที่ล้มเหลว มาเป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 8 – 9 ปี สืบเนื่องจากระบอบประชาธิปไตย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบวนการทางประชาธิปไตยได้ถูกบิดเบือนโดยบุคคลบางกลุ่ม และทำให้วันนี้พี่น้องประชาชนนั้นขาดความศรัทธาในระบบพรรคการเมือง และในระบบการเลือกตั้ง  หากสภาพดังกล่าวยังดำรงต่อไป บ้านเมืองไม่มีการปฏิรูป ก็จะตกอยู่ในสภาพที่ปัญหาการเมืองที่ล้มเหลว ความขัดแย้ง สุ่มเสี่ยงต่อความรุนแรง และความสูญเสีย และการทุจริตคอร์รัปชั่น เบียดบังผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนจะดำรงไปอย่างต่อเนื่อง พรรคประชาธิปัตย์ต้องการหยุดภาวะการเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบันแบบนี้
อภิสิทธิ์ระบุด้วยว่าได้พยายามค้นหาบุคคลที่ประชาชนจะให้ความเชื่อมั่นมานำการปฏิรูป เสนอแนวทางว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่บุคคลที่ไปพูดค้ย และความรู้สึกของประชาชนที่ได้ไปสอบถาม ยืนยันว่าแม้กระทำการดังกล่าวก็ไม่สามารถทำให้ประชาชนเชื่อมั่นในการปฏิรูปที่จะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งได้
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ระบุด้วยว่า พรรคเคยคว่ำบาตรการเลือกตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ. 2495 (การเลือกตั้ง 26 กุมภาพันธ์ 2495) สมัยหัวหน้าพรรคคนแรก ส่วนตัวเขานำการคว่ำบาตรมาแล้วเป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2549 (การเลือกตั้ง 2 เมษายน 2549) ซึ่งพิสูจน์มาแล้วว่าแม้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ลงเลือกตั้ง พรรคไทยรักไทยแข่งกับตัวเองยังทุจริตจนโดนยุบพรรค จนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าพรรคไทยรักไทยนั้นบ่อนทำลายการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างไร และยืนยันด้วยว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ขัดขวางการเลือกตั้ง แต่พรรคการเมืองอื่นที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ให้ประกาศให้ชัดเจนว่ามาต่ออายุระบอบทักษิณ และการเมืองที่ล้มเหลว
สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ก่อตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ 2489 ในวิกิพีเดียระบุว่า เป็นพรรคการเมืองจดทะเบียนที่เก่าแก่ที่สุดของไทยที่ยังดำเนินการอยู่ พรรคมีสมาชิกที่ได้แจ้งต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองไว้ จำนวน 2,884,574 คน นับเป็นพรรคการเมืองที่มีสมาชิกมากที่สุดในประเทศไทย และมีสาขาพรรคจำนวน 179 สาขา
โดยในเว็บไซต์พรรคประชาธิปัตย์มีรายละเอียดของการแถลงดังนี้



ฟังการตัดสินใจบอยคอตการเลือกตั้ง แล้วไม่เหนือความคาดหมายราวกับอ่านต่วยตูนครับ มันชั่งประชาธิปั๊ด ประชาธิปัตย์ คุณอภิสิทธิ์ได้สร้างสถิติใหม่ทางการเมืองคือ 2 บอยคอต 1 ลาออกยกพรรค
ผมจะแถลงพรุ่งนี้ครับ

พรรคประชาธิปัตย์ มีมติเอกฉันท์ "ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง" ทุกเขตทุกจังหวัดทั่วประเทศ....
1) ผมขอให้รัฐบาลอย่าได้แคร์ ที่สำคัญกว่านั้น ประชาชนทั่วไปอย่าได้แคร์ บอยคอตก็บอยคอตไป ให้มันรู้ไปว่า พรรคการเมืองที่มีหน้าที่ส่งเสร
ิมระบอบประชาธิปไตยที่ตั้งบนการเลือกตั้งกลับใช้วิธี "อประชาธิปไตย" ในการแสดงจุดยืนทางการเมือง
2) จะบอยคอตหรือไม่ พรรคคุณก็ไม่มีทางชนะ เพราะจนถึงทุกวันนี้ พรรคนี้ไม่มีนโยบายเข้าถึงคนในต
่างจังหวัด แต่กลับเป็นพรรคที่เป็นอีลีทมากๆ (ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิด) เพราะฉะนั้น ตามสบายครับ.... จะลงสมัครหรือไม่ลง จะเล่นการเมืองต่อหรือไม่ หรือจะรอให้บุญหล่นทับกลับมาเป็นรัฐบาลเพราะรัฐประหารอีกก็แล้วแต่ครับ
....
กุขอให้มรึงโชคดี
..........
ประวัติการบอยคอตเลือกตั้งโดยพรรคประชาธฑิปัตย์

1.ครั้งแรก ในการเลือกตั้ง 26 กุมภาพันธ์ 2495 -พรรคฝ่ายค้าน คือประชาธิปัตย์มีมติบอยคอตการเลือกตั้ง แต่สมาชิกพรรคหลายคนลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคอื่น

ผลของการบอยคอท-จอมพลป.พิบูลสงครามกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี จัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง และรัฐบาลของจอมพล ป.พิบูลสงคราม ก็สามารถบริหารประเทศได้ยาวนานจนครบวาระของสภาผู้แทนราษฎรและมีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 และถูกขนานนามว่าเป็น"การเลือกตั้งสกปรก" และจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์ ได้ทำรัฐประหารโค่นล้มจอมพลป.ลง

2.ครั้งที่สอง ในการเลือกตั้ง 2 เมษายน 2549-พรรคฝ่ายค้าน 3 พรรค คือประชาธิปัตย์ มหาชน พรรคชาติไทย คว่ำบาตรการเลือกตั้ง

ผลของการบอยคอท-พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งท่วมท้น ท่ามกลางการต่อต้านของพรรคประชาธิปัตย์ สุดท้ายศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้การเลือกตั้งครั้งนั้นเป็นโมฆะ และตามมาด้วยการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549

3.ครั้งที่สาม ในการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557-พรรคประชาธิปัตย์ประกาศคว่ำบาตรเป็นหนที่ 3


ผลของการบอยคอท-??!








   
 

By big60

ก็ไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่อยู่แล้ว ยังไงก็ได้ จะปรับตัวอยู่ร่วมกับพวกเราก็ได้ ไม่ปรับก็ได้ ที่เริ่มโวยวายอาละวาด จะเอาโน่นจะเอานี่ ก็เขาทั้งนั้น จะไม่ปรับลงมา แยกไปต่างหากก็ไม่เดือดร้อน ยิ่งดีด้วยซ้ำ หมดคนกดขี่เอาเปรียบ ชีวิตคงจะมีความสุขขึ้นมาก
 
แต่ท่าจะคิดทำเหมือนเดิม เอาทุกอย่าง ทำมาหากินบนหลังคน เอาเปรียทุกเม็ดทุกดอก รังแกกันทุกซ๊อต นั่นก็ต้องคุยกันแล้ว เราไม่ได้อ่อนแอเหมือนเมื่อก่อน จะมีสีเสื้อหรือไม่มันไม่สำคัญ ตอนนี้พวกเราเป็นกลุ่มก้อน ที่แข็งแรงมั่นคง ยากต่อการทำลายแล้ว
 
แน่นอน รัฐบาลก็จะเป็นรัฐบาลของเราตลอดไป เรามีแต่จะแกร่งขึ้น เขานับวันจะอ่อนแอลง จะกลัวอะไร ม็อบนี่ก็เหมือนกัน จะถอยไม่ถอยก็ไม่สนใจ มันเผาบ้านมันเอง เราอาจเดือดร้อนจากผลกระทบทางเศรษฐกิจบ้าง แต่พวกเราอยู่รอดได้ ที่อยู่ไม่รอดน่าจะเป็นพวกเขามากกว่า

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar