จักรภพ เพ็ญแข: อยู่เฉยไม่ใช่ยุทธศาสตร์
โดย จักรภพ เพ็ญแข
December 28, 2013
เราสรุปสถานการณ์ประจำวันกันเสียหน่อยนะครับว่า “คณะกรรมการโค่นล้มระบอบประชาธิปไตยก่อนผลัดแผ่นดิน” ที่มอบ กปปส. และ คปท. มาออกแขกก่อนไปพลางๆ นั้น เขาวางยุทธศาสตร์และยุทธวิธีของเขาอย่างไรขณะนี้ ว่ากันสั้นๆ ชัดๆ เพื่อให้พลเมืองประชาธิปไตยทั้งหลาย ช่วยตรวจสอบและขยายพรมแดนการสืบสวนสอบสวนออกไปอีก
๑. เขาให้ธงกับนายสุเทพฯ ไว้ว่า ต้องเผด็จศึกให้ได้ไม่เกินวันศุกร์ที่ ๓ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๗
๒. ถ้านายสุเทพฯ ทำไม่ได้ เขาจะหันกลับมาใช้คำสั่งศาลแทน เพื่อระงับการเลือกตั้ง
๓. ถ้าปัญหาด้านศาลมีมากจนฝ่าด่านไม่ไหว ก็จะหันกลับมาใช้การล้มเลือกตั้งแบบอันธพาลข้างถนนอีก
๔. ไม่ว่าจะเป็นยุทธวิธีอันธพาลข้างถนนหรือใช้คำสั่งศาล ก็มุ่งผลเดียวกันคือ ทำให้นายกรัฐมนตรีหมดจากอำนาจ หรือเสมือนหมดจากอำนาจ แล้วประกาศยึดอำนาจการปกครองแผ่นดิน ผู้ที่ยึดตัวจริงไม่ใช่ตัวนายสุเทพฯ แต่ให้นายสุเทพฯ ออกหน้าไปก่อนชั่วระยะหนึ่ง
รู้อย่างนี้แล้ว รัฐบาลควรทำอะไรบ้าง ก็ขอแนะนำกันดังๆ ไปทางนี้เลยนะครับ วันนี้คงไม่ต้องมาทำอะไรหลบเร้นกระมิดกระเมี้ยนอีกแล้ว โดยเฉพาะผมซึ่งอยู่นอกพระราชอาณาเขต ก็สมควรจะพูดตรง และทำตรงกว่าคนอื่น
๑. นายกรัฐมนตรีได้โปรดต่อสาย (หรือสั่งให้ต่อสาย) หาสมาชิก ๕ ประเทศของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ที่ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐรัสเซีย สาธารณรัฐประชาชนจีน ราชอาณาจักรอังกฤษ และสาธารณรัฐฝรั่งเศส แล้วขอให้มิตรประเทศผู้เป็นประชาธิปไตยทั้ง ๕ รัฐนี้ออกแถลงการณ์สนับสนุนจุดยืนของรัฐบาลไทยในการเดินหน้าเลือกตั้งในวัน ที่ ๒ กุมภาพันธ์นี้ ระหว่างนี้ หากมีเอกอัครราชทูต อธิบดี รองปลัดกระทรวง หรือเจ้าหน้าที่คนใดของฝ่ายไทย “ล็อบบี้” แข่งขันกับรัฐบาลเพื่อให้เขาสนับสนุนฝ่ายตรงข้าม ให้ประกาศปลดและลงโทษฐานทรยศชาติทันที
๒. ไม่จำเป็นต้องได้เสียงครบทั้ง ๕ ชาติ (แต่ถ้าได้ก็วิเศษ) เพราะขณะนี้สถานการณ์ยังห่างไกลต่อการที่ไทยจะต้องได้เสียงเอกฉันท์จากคณะ มนตรีความมั่นคงฯ เพื่อกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งที่แรงกว่าในอนาคต เวลานี้แค่หว่านเมล็ดพืชเอาไว้ในแปลงสากล ก็เป็นการเพียงพอ วันหลังค่อยย่องมาต่อยอดได้อีก
๓. จัดการประชุมระหว่างประเทศเรื่อง สถานการณ์ไทยขึ้นในกรุงเทพฯ โดยเชิญผู้แทนรัฐบาล องค์การระหว่างประเทศที่มีบทบาทในระดับโลก สื่อมวลชนสากล ฯลฯ มาร่วมรับรู้สถานการณ์แปลกประหลาดในประเทศไทย ความกลัวเรื่องสาวไส้ให้กากินนั้นคงผ่านพ้นไปนานแล้ว ไม่ต้องนำมาคิดให้เสียเวลาอีก ถ้าฝ่าย “คณะกรรมการโค่นล้มประชาธิปไตยก่อนผลัดแผ่นดิน” อยากเข้าร่วมด้วย ก็ขอให้จัดคนมา จะได้นำเสนอต่อที่ประชุมประชาธิปไตยระดับโลกว่าทำไมตัวจึงค้านการเลือกตั้ง อย่างบ้าคลั่ง ถึงขนาดฆ่าคนไทยด้วยกันได้ลงคอ
๔. รัฐบาลต้องระวังเรื่องบุคลากรของตัวเองไว้ให้ดี อย่าเหนียมอายเรื่องการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ที่แอบใช้ทรัพยากรของรัฐเพื่อฝ่าย ตรงข้าม สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เราสอบดูแล้วว่า มีจุดยืนแน่ชัดสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยทั้งต่อหน้าและลับหลังเรา โดยใช้อำนาจตามกฎหมาย จัดสลับสับเปลี่ยนบุคลากรเสียในบัดนี้เลย อย่ากลัวเขาจะโกรธแล้วไปขึ้นเวทีฝ่ายตรงข้ามเหมือน นายกษิต ภิรมย์ เลยครับ เราน่าจะกระตุ้นให้เกิดการแบ่งสายพันธุ์กันให้ชัดเสียเลยเดี๋ยวนี้ จะเป็นประโยชน์ในระยะต่อไปมากกว่า.
December 28, 2013
เราสรุปสถานการณ์ประจำวันกันเสียหน่อยนะครับว่า “คณะกรรมการโค่นล้มระบอบประชาธิปไตยก่อนผลัดแผ่นดิน” ที่มอบ กปปส. และ คปท. มาออกแขกก่อนไปพลางๆ นั้น เขาวางยุทธศาสตร์และยุทธวิธีของเขาอย่างไรขณะนี้ ว่ากันสั้นๆ ชัดๆ เพื่อให้พลเมืองประชาธิปไตยทั้งหลาย ช่วยตรวจสอบและขยายพรมแดนการสืบสวนสอบสวนออกไปอีก
๑. เขาให้ธงกับนายสุเทพฯ ไว้ว่า ต้องเผด็จศึกให้ได้ไม่เกินวันศุกร์ที่ ๓ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๗
๒. ถ้านายสุเทพฯ ทำไม่ได้ เขาจะหันกลับมาใช้คำสั่งศาลแทน เพื่อระงับการเลือกตั้ง
๓. ถ้าปัญหาด้านศาลมีมากจนฝ่าด่านไม่ไหว ก็จะหันกลับมาใช้การล้มเลือกตั้งแบบอันธพาลข้างถนนอีก
๔. ไม่ว่าจะเป็นยุทธวิธีอันธพาลข้างถนนหรือใช้คำสั่งศาล ก็มุ่งผลเดียวกันคือ ทำให้นายกรัฐมนตรีหมดจากอำนาจ หรือเสมือนหมดจากอำนาจ แล้วประกาศยึดอำนาจการปกครองแผ่นดิน ผู้ที่ยึดตัวจริงไม่ใช่ตัวนายสุเทพฯ แต่ให้นายสุเทพฯ ออกหน้าไปก่อนชั่วระยะหนึ่ง
รู้อย่างนี้แล้ว รัฐบาลควรทำอะไรบ้าง ก็ขอแนะนำกันดังๆ ไปทางนี้เลยนะครับ วันนี้คงไม่ต้องมาทำอะไรหลบเร้นกระมิดกระเมี้ยนอีกแล้ว โดยเฉพาะผมซึ่งอยู่นอกพระราชอาณาเขต ก็สมควรจะพูดตรง และทำตรงกว่าคนอื่น
๑. นายกรัฐมนตรีได้โปรดต่อสาย (หรือสั่งให้ต่อสาย) หาสมาชิก ๕ ประเทศของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ที่ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐรัสเซีย สาธารณรัฐประชาชนจีน ราชอาณาจักรอังกฤษ และสาธารณรัฐฝรั่งเศส แล้วขอให้มิตรประเทศผู้เป็นประชาธิปไตยทั้ง ๕ รัฐนี้ออกแถลงการณ์สนับสนุนจุดยืนของรัฐบาลไทยในการเดินหน้าเลือกตั้งในวัน ที่ ๒ กุมภาพันธ์นี้ ระหว่างนี้ หากมีเอกอัครราชทูต อธิบดี รองปลัดกระทรวง หรือเจ้าหน้าที่คนใดของฝ่ายไทย “ล็อบบี้” แข่งขันกับรัฐบาลเพื่อให้เขาสนับสนุนฝ่ายตรงข้าม ให้ประกาศปลดและลงโทษฐานทรยศชาติทันที
๒. ไม่จำเป็นต้องได้เสียงครบทั้ง ๕ ชาติ (แต่ถ้าได้ก็วิเศษ) เพราะขณะนี้สถานการณ์ยังห่างไกลต่อการที่ไทยจะต้องได้เสียงเอกฉันท์จากคณะ มนตรีความมั่นคงฯ เพื่อกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งที่แรงกว่าในอนาคต เวลานี้แค่หว่านเมล็ดพืชเอาไว้ในแปลงสากล ก็เป็นการเพียงพอ วันหลังค่อยย่องมาต่อยอดได้อีก
๓. จัดการประชุมระหว่างประเทศเรื่อง สถานการณ์ไทยขึ้นในกรุงเทพฯ โดยเชิญผู้แทนรัฐบาล องค์การระหว่างประเทศที่มีบทบาทในระดับโลก สื่อมวลชนสากล ฯลฯ มาร่วมรับรู้สถานการณ์แปลกประหลาดในประเทศไทย ความกลัวเรื่องสาวไส้ให้กากินนั้นคงผ่านพ้นไปนานแล้ว ไม่ต้องนำมาคิดให้เสียเวลาอีก ถ้าฝ่าย “คณะกรรมการโค่นล้มประชาธิปไตยก่อนผลัดแผ่นดิน” อยากเข้าร่วมด้วย ก็ขอให้จัดคนมา จะได้นำเสนอต่อที่ประชุมประชาธิปไตยระดับโลกว่าทำไมตัวจึงค้านการเลือกตั้ง อย่างบ้าคลั่ง ถึงขนาดฆ่าคนไทยด้วยกันได้ลงคอ
๔. รัฐบาลต้องระวังเรื่องบุคลากรของตัวเองไว้ให้ดี อย่าเหนียมอายเรื่องการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ที่แอบใช้ทรัพยากรของรัฐเพื่อฝ่าย ตรงข้าม สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เราสอบดูแล้วว่า มีจุดยืนแน่ชัดสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยทั้งต่อหน้าและลับหลังเรา โดยใช้อำนาจตามกฎหมาย จัดสลับสับเปลี่ยนบุคลากรเสียในบัดนี้เลย อย่ากลัวเขาจะโกรธแล้วไปขึ้นเวทีฝ่ายตรงข้ามเหมือน นายกษิต ภิรมย์ เลยครับ เราน่าจะกระตุ้นให้เกิดการแบ่งสายพันธุ์กันให้ชัดเสียเลยเดี๋ยวนี้ จะเป็นประโยชน์ในระยะต่อไปมากกว่า.
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar