lördag 28 december 2013

๒ก.พ.๕๗ มีเลือกตั้ง ? อำมาตย์ยึดอำนาจ? ไม่มีเลือกตั้ง ? เป็นคำถามที่ประชาชนไทยทุกคนตั้งตารอคำตอบจาก.....อำมาตย์ว่าจะเลือกอันไหนต่างหาก...สำหรับประชาชนผู้ไม่มีสิทธิเลือก.... ประชาชนขอเลือกระบอบประชาธิปไตยไม่เอาอย่างอื่น "๒ ก.พ.๕๗ จะไปเลือกตั้ง" เท่านั้นจะไม่ยอมให้อำมาตย์ยึดอำนาจหรือให้อำนาจใดๆมาทำลายระบอบประชาธิปไตยอีกต่อไป ประชาชนไทยผ่านเหตุการณ์เผด็จการอำมาตย์โจรปล้นอำนาจรัฐเข่นฆ่าประชาชนมานับครั้งไม่ถ้วน มันได้สร้างความแข็งแกร่งหล่อหลอมจิตใจประชาชนไทยให้เข้มแข็งมีความเชื่อมั่นในตนเองมีความพร้อมที่จะลุกขึ้นสู้เพื่อป้องกันตัวเองได้แล้ว ดังนั้นคำขู่ว่าจะ"รัฐประหาร" จึงไม่มีความหมายใดๆสำหรับประชาชนไทยทุกคน กลัวแต่อำมาตย์จะไม่กล้าลงมือเท่านั้นเอง .สั่งทหารให้รีบทำอย่าดีแต่ขู่ประชาชน....




รอยเตอร์สชี้กองทัพเผยแนวโน้มก่อรัฐประหาร หลังสถานการณ์การเมืองรุนแรงขึ้น - มั่นใจ "ยิ่งลักษณ์" จะชนะเลือกตั้งอีกครั้ง !

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การเมืองไทยว่า ตอนนี้สถานการณ์การเมืองไทยเริ่มร้าวลึก ด้านผู้บัญชาการกองทัพบกเริ่มเผยถึงความเป็นไปได้ในการเข้าแทรกแซง หรือก่อรัฐประหารแล้ว

รายงานระบุว่า สถานการณ์การเมืองไทยขณะนี้เริ่มตึงเครียดมากขึ้น หลังจากที่รัฐบาลตัดสินใจจัดการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ท่ามกลางการประท้วงของประชาชนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลที่ไม่เห็นด้วยกับการลงเลือกตั้งครังใหม่ของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยล่าสุด การประท้วงได้รุนแรงขึ้นถึงขั้นมีการปะทะระหว่างตำรวจและผู้ประท้วง จนทำให้มีตำรวจเสียชีวิต 1 นาย และมีผู้บาดเจ็บอีกหลายสิบคน

หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวได้เพียง 1 วัน ทางด้านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการกองทัพบก ที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้เผยท่าทีว่าจะเข้าแทรกแซงหรือก่อรัฐประหาร ตอนนี้ดูเหมือนจะเผยให้เห็นความเป็นไปได้ในการแทรกแซงการเมืองแล้ว โดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความเป็นไปได้ในการก่อรัฐประหาร พลเอกประยุทธ์ก็ได้เปิดเผยว่า "กองทัพไม่ได้เปิดหรือปิดประตูในการก่อรัฐประหาร อะไรก็เกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เราพยายามทำในสิ่งที่ถูกต้อง ด้วยวิธีที่สันติ และเราอยากให้ทุกฝ่ายหันหน้าคุยกัน"
รอยเตอร์สวิเคราะห์ว่า ความเห็นของพลเอกประยุทธ์นั้น เขย่าขวัญนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ผู้ซึ่งตกเป็นเป้าโจมตีจากฝ่ายต่อต้านรัฐบาลที่ต้องการขับไล่เธอออกจากการเมืองไทยและยุติบทบาทการเป็นรัฐบาลหุ่นเชิดที่มีอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร อยู่เบื้องหลัง
ทั้งนี้ สำหรับความขัดแย้งทางการเมืองในไทย ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีจุดเริ่มต้นจากคน 2 กลุ่ม ในสมัยที่ทักษิณ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรี โดยกลุ่มหนึ่งคือผู้สนับสนุนอดีตนายกฯ ทักษิณ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประชาชนจากภาคเหนือและภาคอีสาน และอีกกลุ่มหนึ่งคือผู้ต่อต้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชนชั้นกลางและผู้ประท้วงในกรุงเทพฯ กระทั่งเมื่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ขึ้นนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ดูเหมือนว่าความขัดแย้งระหว่าง 2 ฝ่ายจะบรรเทาลงไปบ้าง จนเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รัฐบาลยิ่งลักษณ์มีความพยายามอย่างหนักในการผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้พี่ชายกลับบ้าน ทำให้ประชาชนออกมาประท้วงต่อเนื่อง โดยหลังจากที่รัฐบาลยอมพับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แล้ว ยิ่งลักษณ์ก็ถูกโจมตีอย่างหนัก และผู้ประท้วงก็ได้เปลี่ยนจุดประสงค์จากการคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มาเป็นการล้มล้างระบอบทักษิณจนถึงวันนี้
อย่างไรก็ดี นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ได้แก้ปัญหาโดยการยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ โดยกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ท่ามกลางการประท้วงที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้ประท้วงนั้นไม่พอใจการกลับมาลงเลือกตั้งอีกครั้งของเธอ ซึ่งรอยเตอร์สกล่าวว่า ยิ่งลักษณ์มีแนวโน้มจะคว้าชัยชนะอีกครั้ง
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=713141448704146&set=a.286113041406991.75491.286108934740735&type=1&theater

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar