เรื่องราวชีวิตจริง พวกเขาไม่ได้พูดโกหก. " ชั่วชีวิตมีทรัพย์สมบัติติดตัวมา 2 อย่าง" คือร่างกายกับจิตสำนึกของความเป็นคน "..คุณค่าความเป็นมนุษย์ "แต่ก็ถูกย่ำยี.ถูกเหยียดหยามว่าไร้การศึกษา โง่ ต่ำทราม ขายสิทธิ์ขายเสียง" และ "สิทธิและเสรีภาพภายใต้ระบบประชาธิปไตย" แต่ถูกปล้นทั้งทางตรงและทางอ้อมตลอดมาจนไม่เหลืออะไร ชีวิตจริงของพวกรากหญ้าซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ....

ไม่ใช่ความผิดที่พวกเขาเกิดมาเป็นคนรากหญ้าชาวชนบท
แต่เป็นความโชคร้ายที่เกิดมาอยู่ในยุคที่ประเทศปกครองด้วย
ระบอบเผด็จการอำมหิตที่ทำการขัดขวางความเจริญของประเทศ

โดย ลุงธรรม
เมื่อ จันทร์, 16/12/2013 - 19:46

 

** หนาวแน่!...ถึงขั้นประกาศ...ขอยอมตายกันแล้ว **

 

ไปไหนๆ..พอถามถึงเรื่องการเมืองในปัจจุบัน..

รากหญ้าผู้รักประชาธิปไตยบอกว่า

ชั่วชีวิตมีทรัพย์สมบัติติดตัวมา 2 อย่าง คือ

 

1. คุณค่าความเป็นมนุษย์ 

 

แต่ก็ถูกย่ำยีต่างๆนาๆ..กลายเป็นพลเมืองชั้น 2

ภายใต้บาทาของอำมาตย์ นายทุน ขุนศึก ศักดินาตุลาการ   

- ถูกเหยียดหยามว่าไร้การศึกษา โง่ ต่ำทราม ขายสิทธิ์ขายเสียง

- ถูกกดขี่เป็นข้าทาสแรงงาน เป็นกรรมกร

- ถูกกดราคาผลผลิต ถูกโกงตาชั่งทั้งเวลาขายและเวลาซื้อ

- ถูกหลอกลวงทั้งคุณภาพและราคาวัตถุดิบที่แสนแพง

- ถูกล้างสมองตั้่งแต่เกิด..ให้บูชานับถือและพึ่งพาแต่เทวดา

- ถูกอลัชชีหลอกให้เสียแต่เงิน..ทำแต่บุญ..เงินทองก็ไม่ค่อยจะมี

  รอให้บุญหล่นทับ..แต่ก็ไม่เคยถูกทับซักที 

- ถูกหลอกให้เชื่อกฎแห่งกรรมในอดีตชาติ....

  ให้ยอมทนรับชั้นวรรณะความต้อยต่ำของตนเอง

- ถูกหลอกให้พอเพียงไม่ต้องลุกขึ้นมาสู้ขวนขวายอะไรมากมาย

   มีชีวิตเพื่อรอแต่วันเจ็บวันตาย

     

 แต่พอมีคนเข้ามาแก้ไข เพิ่มราคาค่าแรง เพิ่มราคาสินค้าเกษตร

 จัดกองทุนหมู่บ้านให้ ส่งเสริมลูกหลานให้ได้รับทุนการศึกษา

 กลับถูกทำรัฐประหาร...มันช่างทำลายจิตใจกันเหลือเกิน

 แล้วอนาคตจะไปพึ่งพาใครได้อีกนี่..

 

คุณค่าความเป็นมนุษย์แทบหมดสิ้น

สุนัขบางตัวยังมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่า

 

2. สิทธิและเสรีภาพภายใต้ระบบประชาธิปไตย

 

    ซึ่งแทบจะไม่เหลือสิทธิเรียกร้องใดๆ เพราะจะถูกย่ำยีถูกยึด

    ถูกปล้นทั้งทางตรงและทางอ้อมตลอดมา

    โดยเหล่าอำมาตย์ กองทัพ และตุลาการ

    และท้ายสุดโดยเหล่าคนบ้า ขี้แพ้ชวนตี  บ้าอำนาจโหนสถาบัน

ในเมื่อทรัพย์สมบัติ 2 ชิ้นสุดท้ายถูกปล้นถูกแย่ง

จนแทบไม่มีชิ้นดีแล้ว...เหลือแต่ลมหายใจและร่างกาย

ที่อ่อนล้ารอวันตายเท่านั้น...

ไหนๆก็ไหนแล้ว..คนเราเกิดมาก็ตายเพียงครั้งเดียว

จะแก่ตายหรือจะตายอย่างสมศักดิ์ศรีของเสรีชน

เหล่าคนที่รักประชาธิปไตยพร้อมใจกันพูดว่า

“เที่ยวนี้ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับระบอบประชาธิปไตยของไทย

จะไม่ทนจำยอมต่อไปอีกแล้ว..ไม่ว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

ขอสู้ตาย...”

 

นี่เป็นเรื่องจริงที่ได้ฟังมาจากชาวบ้าน

ที่มาร่วมชุมนุมที่เมืองทองและที่ราชมังคลา

ผมภาวนาขอให้ทุกภาคส่วนเกิดสติปัญญาไตร่ตรอง

เกิดหิริโอตตัปปะ..เกิดความละอายในการทำบาปกรรมใดๆ

ที่จะก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

ของประเทศชาติและของประชาชน

 

ท่านผู้บ้าอำนาจทั้งหลายย่อมมีทางเลือก

ท่านจะตายดีและได้รับการสรรเสริญแบบแมนเดล่า

หรือจะตายด้วยความทุกข์ทรมานเจ็บป่วยจากการถูกสาปแช่ง

จากประชาชนคนไทยทั้งประเทศ

 

ขออย่าให้ไทยเป็นอย่างอียิปต์

และร้ายแรงถึงขั้นซีเรีย...ที่มีคนตายเรือนแสน