กลุ่มนักวิชาการตั้ง 'สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย' เห็นต่างข้อเสนอ กปปส.-ทปอ. (แถลงการณ์เต็ม)
รายละเอียดมีดังนี้
แถลงการณ์สมัชชาปกป้องประชาธิปไตยฉบับที่ 1
“สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย”
ซึ่งเป็นการรวมตัวของนักวิชาการ และประชาชนหลากหลายอาชีพ
ขอแถลงโต้แย้งประเด็นที่ กปปส. ที่ประชุมอธิการบดี (ทปอ.) และ
นักวิชาการจำนวนหนึ่งที่นำเสนอความเห็นไปในทิศทางที่ขัดกับกติกาประชาธิปไตย
ในภาวะวิกฤติของบ้านเมือง ดังนี้
1. การก่อตั้งสภาประชาชน:
ความเคลื่อนไหวที่นำมาสู่การจัดตั้งสภาประชาชน
มีที่มาจากการข้อกล่าวหาที่ว่ารัฐบาลและรัฐสภาไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ
ดังนั้นรัฐบาลและรัฐสภาจึงหมดความชอบธรรม
และจำต้องจัดตั้งสภาประชาชนด้วยการอ้างอิงมาตราที่ 3 ของรัฐธรรมนูญ 2550
โดยไม่จำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ สมัชชาฯ ขอแถลงว่า
กระบวนที่นำมาซึ่งการก่อตั้งสภาประชาชนโดยไม่เข้าสู่กระบวนการแก้ไขเพิ่ม
เติมรัฐธรรมนูญโดยวิถีทางปรกติ ถือว่าไม่สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตย
หลักนิติธรรม และถือว่าเป็นการทำรัฐประหาร
ทั้งนี้จำต้องชี้แจงว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในครั้งนี้
เป็นการขยายอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญโดยไม่มีฐานอำนาจตามรัฐธรรมนูญรองรับ
จึงไม่มีผลทางกฏหมาย นอกจากนี้ การอ้างอิงมาตรา 3
ของรัฐธรรมนูญเพื่อจัดตั้งสภาประชาชนนั้น
ไม่สามารถทำได้เพราะไม่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
เว้นแต่จะต้องเข้าสู่กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสียก่อน ประการสำคัญ
การนำเสนอเรื่องของสภาประชาชนไม่มีความชัดเจนถึงความยืดโยงกับความเป็นตัว
แทนของประชาชนไม่คำนึงถึงความเท่าเทียม และความหลากหลายทางความคิด
โดยเฉพาะต่อประชาชนที่ไม่ได้เข้าร่วมกับ กปปส.
2.
ข้อเสนอให้มีนายกรัฐมนตรีคนกลางหลังการยุบสภา
เป็นที่มาจากการตีความรัฐธรรมนูญมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญ
หรืออาจเรียกง่ายๆว่า “นายกฯคนกลางพระราชทาน”
เป็นการพยายามตีความรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นไปตามครรลองของหลักการประชาธิปไตย
และละเมิดบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ
ที่ระบุว่านายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีภายหลังจากการยุบสภาจะต้องปฏิบัติ
หน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่มารับหน้าที่เมื่อการเลือกตั้ง
เสร็จสิ้นลง อีกทั้งกระบวนการใดๆ ที่ขัดขวางกระบวนการเลือกตั้ง
เหนี่ยวรั้งให้การเลือกตั้งล่าช้า
หรือสร้างสูญญากาศทางการเมืองถือเป็นการทำลายหลักการประชาธิปไตยและรัฐ
ธรรมนูญเสียเอง
นอกจากไม่เป็นคุณต่อการอยู่ร่วมกันในสังคมที่ต้องเคารพในสิทธิมนุษยชน
เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ความเท่าเทียม สันติภาพ
และอาจนำไปสู่วิกฤติความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้นด้วย
3. การแก้ไขรัฐธรรมนูญ
สมัชชาปกป้องประชาธิปไตยขอยืนยันว่ารัฐธรรมนูญเป็นกติกาประชาธิปไตยที่ทุก
ฝ่ายต้องให้ความเคารพ
แต่รัฐธรรมนูญนั้นสามารถแก้ไขได้ด้วยเจตจำนงของประชาชนและต้องคำนึงถึงทั้ง
หลักประชาธิปไตยและหลักการที่ไม่ทำลายสังคมประชาธิปไตยเสียเอง
ทั้งนี้หากมีความไม่เห็นพ้องต้องกันถึงกติกาประชาธิปไตยฉบับนี้
ก็สมควรจะร่วมกันหาทางออกที่ได้รับการยอมรับกันทุกฝ่าย
สมัชชาฯขอเสนอว่าการร่วมกันออกแบบการทำประชามติในการแก้ไขหรือยืนยันการใช้
รัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ควรเป็นทางออกของสังคม
วันที่ 10 ธันวาคม 2556
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar