๑๔เม.ย.วันครอบครัว " โดดเดี่ยว...เดียวดาย" ขันทีเฒ่าไร้ครอบครัวดูแลยามชรา ไร้ลูกหลาน ไร้คนรัก ... ไม่มีคำอวยพร มีแต่คำก่นด่าสาปแช่่งจากประชาชน เพราะทำตัวเองตามืดบอดมัวเมาหลงไหลในอำนาจ.....

โดน...   มีความสำคัญน้อยกว่าตีน


-คนทำงาน พลาดท่า ในหน้าที่
เฒ่ากาลี รอลูกหลาน คลานกราบไหว้
คนสำคัญ นั่นนู่นนี่ ที่ต้องไป
ปูเสียใจ เจ็บข้อตีน บินไปเวียง...
อูยยย..ชีช้ำ หน้าคว่ำหงิก
อีเปรมิก สุดแค้น แร้นคำเถียง
เหมือนส้นตีน ปีนขึ้นมา ยันหน้าเอียง
ถีบดังเปรี้ยง เข้าหน้าป๋า อี ห่า เปรม...


-ตุ๊ดเฒ่าบอกให้กองทัพ...รวมตัวกันอย่างเข้มแข็ง
จะได้ดูน่าเกรงขาม...เป็นคำแนะนำที่ส่อให้เห็นถึงความเป็นเผด็จการ
.แทนที่จะแนะนำกองทัพ...วางตัวให้น่าเคารพนับถือ
ดันบอกให้ทหารทำตัวให้คนอื่นเกรงกลัว...ทำไมประชาชนต้องกลัวด้วย
ในเมื่อทหารก็แค่ข้าราชการ...กินเงินเดือนจากภาษีประชาชนเหมือนคนอื่น



-ฮิฮิ ไอ้บ้าเอ๊ย ทำไมเอ็งมีต๊ะคนรักใคร่สังกะเสินมากมายยังงี้หนอ

-"เป็นเพราะ "พวกมัน" มองคน ไม่เป็น "คน" ที่มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกันนั่นเอง...การกระทำอย่าง "หน้าไหว้-หลังหลอก" , "ปากปราศรัย แต่น้ำใจเชือดคอ" ของพวกมัน...จึงส่งผล ให้ "พวกมัน" ด้อยค่าซะยิ่งกว่า "ข้อตีน" และ "ส้นตีน" ที่อยู่ติดกันนั่นเแง...คนเหื้ยอะไรวะ???...ยิ่งอยู่ ยิ่งมีแต่คนสาปแช่ง...ถ้า "กู" เป็น "มึง" นะ...กูไม่ทนอยู่ให้คนเค้าสาปแช่งอยู่อย่างนี้หรอกว่ะ...จัญไรจุงเบยว่ะ...มึงน่ะ!!!"...

-มันถึงน้อยใจว่า ไม่มีใครฟังมัน ไอ้เทวดาตกสวรรค์

-สะใจสงกรานต์นี้นายกปูให้ควาสำคัญของการเจ็บข้อเท้ามากกว่าหน้านังเฒ่ากาลีรอไปงานเดียวคือรดน้ำศพ เปิดหน้ากันแล้วไม่ต้องเกรงใจหนังหน้ามัน ถูกต้องแล้ว ได้ใจจริงๆและผมก็พร้อมแล้วที่จะรบร่วมกับกองทัพนารีขี่ม้าขาว
รู้ไว้ซะนังเฒ่ากว่าลีสี่เสาแกมีควาสำคัญน้อยกว่าตีน เข้าใจใหม

-เมื่อตุ๊ดแก่แม่ไก่เก่ากับเหล่าทัพ

ทีขยับปากเอื้อนเยื้อนแย้มให้
งานที่สั่งยังไม่เสร็จติดเบ็ดใคร
เร็วๆไวรีบเผด็จให้เสร็จการ

 นี่ก็กลางเดือนเมษาเข้ามาแล้ว
จะกินปูดูมันแห้วแล้วส่งสาร
ช่างไม่เห็นหัวคนไทยด้วยใจพาล
ถ่อสังขารมันหวั่นใจด้วยใกล้โลง