lördag 26 april 2014

เชิญฟัง ถ้า"วรเจตน์ ภาคีรัตน์" เป็น "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" จะหาทางออกให้ประเทศไทย อย่างไร ? (ชมคลิป)



https://www.youtube.com/watch?v=0XRr_cHdqHA&feature=player_embedded


ทีมข่าวมติชนออนไลน์ ถามความเห็นของ รองศาสตราจารย์ ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่า หากอาจารย์วรเจตน์ เป็น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะมีวิธีการหาทางออกให้กับประเทศอย่างไร ขณะที่ในโลกแห่งความเป็นจริง นายอภิสิทธิ์ กำลังเดินสายพูดคุยกับทุกภาคส่วนเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ

ถาม : หากอ.วรเจตน์ เป็น คุณอภิสิทธิ์ จะมีวิธีการหาทางออกให้กับประเทศอย่างไร ?

อ.วรเจตน์ : ง่ายมากครับ ก็ลงสมัครรับเลือกตั้งครับ จบเลย ในแง่หนึ่งจะคลี่คลายความตึงเครียกของสังคมไปเลย อย่าไปกลัวว่าจะแพ้การเลือกตั้ง เสนอนโยบายให้ประชาชน และเคารพการตัดสินใจของประชาชน เท่านี้เอง ง่ายๆ ส่วนว่าจะปฏิรูปอะไรกันหลังจากนั้นคุณก็กำหนดประเด็นการปฏิรูป

ถาม : นักวิชาการ รั้วเดียวกันกับอาจารย์ (ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. กิตติศักดิ์ ปรกติ) เห็นว่า ความไว้วางใจของสังคมที่จะกลับไปสู่ระบบของการเลือกตั้งนั้นยังไม่เกิดขึ้น หลังจากเสียงข้างมากได้ทำลายกฎเกณฑ์สำคัญของระบบการเมืองเสียเอง จะเห็นได้จากการพยายามออกกฎหมายพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ

อ.วรเจตน์ : แล้วจะต้องทำอย่างไรถึงจะไว้วางใจ ? ก็เมื่อตอนนี้คืนอำนาจกลับมาให้คนทุกคน ส่วนตัวเห็นว่าความเห็นนี้เป็นการไม่เคารพตัวคนที่จะตัดสินใจด้วยตัวเขาเอง คุณไปตัดสินว่าคนกี่คนไม่ไว้วางใจ  ในเมื่อคนส่วนมากเขาเห็นด้วยว่าต้องปฏิรูป แต่ยังไว้วางใจระบบแบบนี้อยู่ ทำไมเอาตัวคุณเองคนเดียวแล้วไปบอกว่าคนทั้งสังคมก็ไม่ไว้วางใจ

ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ รับวินิจฉัยสถานภาพของนายกรัฐมนตรี จากกรณีการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี พ้นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นั้น อ.วรเจตน์เห็นว่า นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว จึงไม่สามารถรับพิจารณาคดีนี้ได้ เพราะปัจจุบันนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี อยู่ในฐานะรักษาการเพื่อรอรัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าตามสภาพคดีจะไม่มีทางไปสู่สุญญากาศทางการเมืองได้ แต่ถ้าศาลจะวินิจฉัยไปเป็นแบบอื่นก็ต้องคำนึงว่า ต้องไม่ให้เกิดสุญญากาศ และเกิดนายกรัฐมนตรีคนกลางเข้ามา เพราะคนจำนวนมากจะไม่ยอมแน่นอน เมื่อไหร่ก็ตามที่เป็นอำนาจจากนอกระบบเข้ามา ความอดทนของคนจำนวนมากในประเทศจะถึงจุดสิ้นสุดลง และก็จะไม่ฟังแล้ว ทั้งนี้เงื่อนไขที่จะนำไปสู่สงครามกลางเมืองมีอยู่แล้ว เพราะหลังการรัฐประหารเมื่อปี พ.ศ. 2549 มีการลงทุนใช้กลไกต่างๆเข้าบดขยี้ปรปักษ์ทางการเมืองมาโดยตลอด คำถามง่ายๆคือถ้าวิธีการนี้ถูก สังคมต้องดีขึ้น สงบสันติขึ้น แต่ระยะเวลาที่ผ่านมาสังคมมันสงบสุขมากขึ้นหรือไม่ ซึ่งถ้าไม่ก็ต้องเปลี่ยนวิธี

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar