söndag 20 april 2014


เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2557 นายจาตุรนต์ ฉายแสง ปฏิบัติหน้าที่รมว.ศึกษาธิการ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัววิจารณ์คำแถลงของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ดังนี้

วิจารณ์คำแถลงของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ

เห็นคำแถลงของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญแล้วรู้สึกว่าเป็นคำ แถลงที่สับสน สืบเนื่องมาจากบทบาทที่สับสนของศาลรัฐธรรมนูญเองในการวินิจฉัยเรื่องสำคัญๆ หลายเรื่องที่ผ่านมา คำแถลงนี้ยังสะท้อนปัญหาการไม่เข้าใจว่าการที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่ปฏิบัติตาม รัฐธรรมนูญ ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญเสียเองและตั้งตนอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ เลือกข้างเลือกฝ่ายทางการเมืองอย่างโจ่งแจ้งต่อเนื่องกันมานั้นมีผลต่อความ มั่นคงและความสงบเรียบร้อยของสังคมมากเพียงใด

ความจริงคำแถลงของศอ.รส.ก็เป็นเพียงความเห็นเรียกร้องให้ องค์กรต่างๆ ฝ่ายต่างๆช่วยกันป้องกันไม่ให้ปัญหาความขัดแย้งบานปลายยิ่งขึ้น ในส่วนที่เกี่ยวกับบทบาทของศาลรัฐธรรมนูญก็เข้าใจได้ไม่ยากว่าเกี่ยวข้องโดย ตรงกับปัญหาความสงบเรียบร้อยของประเทศคือถ้าตัดสินไม่เป็นประชาธิปไตยหรือ ไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม บ้านเมืองก็ยิ่งไม่สงบเรียบร้อย

ดูแล้วศอ.รส.ก็ทำตามหน้าที่ของเขาอย่างถูกต้องตรงไปตรงมา ไม่เห็นจะเป็นการคุกคามหรือก้าวล่วงอย่างที่สำนักงานศาลฯแถลงชี้แจงแต่อย่าง ใด

ความจริงปัญหาความขัดแย้งในสังคมที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ต้นเหตุสำคัญที่สุดเป็นอันดับแรกๆก็มาจากบทบาทและการกระทำที่ไม่เป็น ประชาธิปไตยและไม่สอดคล้องกับหลักนิติธรรมของศาลรัฐธรรมนูญนี่เอง

ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยเรื่องสำคัญๆแบบถูกเป็นผิด ผิดเป็นถูกเต็มไปหมด การแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยรัฐสภากลายเป็นการล้มล้างการปกครองฯ ขณะที่การล้มล้างการปกครองของสุเทพกับพวกกลายเป็นการใช้เสรีภาพโดยชอบตามรัฐ ธรรมนูญเป็นต้น

ล่าสุดเมื่อสุเทพประกาศจะตั้งตนเองเป็นรัฏฐาธิปัตย์ซึ่งมี ความหมายว่าจะอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ เหนือศาลรัฐธรรมนูญ จะสั่งให้ยุบเลิกศาลรัฐธรรมนูญเสียก็ได้ ศาลรัฐธรรมนูญไม่เห็นว่าอะไร จึงน่าสงสัยว่ากับการที่ศอ.รส.ออกมาวิจารณ์ตักเตือนตามหน้าที่กลับทำเป็น ทุกข์ร้อนฟูมฟายไปทำไม

ต้องช่วยกันบอกศาลรัฐธรรมนูญว่าหากตัดสินอะไรออกมาในทาง ที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและไม่ชอบธรรมอีก บ้านเมืองจะยิ่งเสียหาย ระบบยุติธรรมจะยิ่งเสื่อมทรามลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งศาลรัฐธรรมนูญเองนั่นแหละ จะยิ่งได้ชื่อว่าเป็นองค์กรที่ทำลายประชาธิปไตยและสร้างความแตกแยกเสียหาย ให้แก่ประเทศไทยมากที่สุดองค์กรหนึ่งในหลายปีมานี้

ต่อมานายจาตุรนต์โพสต์ข้อความเพิ่มเติมว่า ...

มาถึงขณะนี้คิดว่าฝ่ายองค์กรอิสระและศาลรัฐธรรมนูญกับผู้ ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหลายคงกระอักกระอ่วนใจไม่น้อยที่ยังไม่สามารถหาทางล้ม รัฐบาลให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดเพื่อสร้างสุญญากาศทางการเมืองและตั้งนายกฯนอกรัฐ ธรรมนูญดังที่ตั้งใจไว้

ที่เป็นเช่นนี้เพราะถ้าพิจารณาตามรัฐธรรมนูญแล้วจะพบว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่มีทางที่จะวินิจฉัยให้เกิดสุญญากาศทางการเมืองไป ได้ ถึงจะฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญในการวินิจฉัยให้นายกฯพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีเฉพาะตัว แต่ครม.ทั้งคณะก็ยังต้องอยู่ในตำแหน่งต่อไป หรือถึงแม้จะวินิจฉัยให้ครม.พ้นไปทั้งคณะทั้งๆที่ครม.พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว แต่ครม.ก็ยังต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 181 จนกว่าจะมีครม.ใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งเข้ารับหน้าที่

ยังไม่เห็นมีช่องทางใดที่ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระจะทำ ให้ครม.ทั้งคณะหยุดปฏิบัติหน้าที่หรืออยู่ในสภาพไม่มีครม.อีกต่อไป ถ้าใครไปตีความกันไปเองว่าครม.ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว ก็คงได้เห็นปรากฏการณ์แปลกๆเกิดขึ้น คือที่ตีความอย่างนั้นก็ตีไป แต่ครม.ทั้งคณะก็จะยังทำหน้าที่ต่อไป รัฐมนตรีทั้งหลายก็จะยังคงไปทำงานกันตามกระทรวงต่างๆต่อไป ใครจะให้หยุดก็คงต้องไปเอาทหารหรือตำรวจมาจับรัฐมนตรีไปขังกันละครับ

ก็ให้รู้กันไปว่าเวลากปปส.ไปยึดกระทรวงต่างๆ ซึ่งถึงวันนี้ก็ยังมียึดกันอยู่ในบางกระทรวง เจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่สามารถจัดการอะไรได้เพราะเกรงว่าจะเกิดความรุนแรง กลายเป็นเงื่อนไขให้เกิดการรัฐประหาร แต่พอถึงเวลาครม.ยังทำหน้าที่ต่อไปตามมาตรา 181 แล้ว กลับมีเจ้าหน้าที่เข้าไปจับตัวรัฐมนตรีออกจากกระทรวง

ยังไงก็ต้องยืนยันครับว่าครม.ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรนูญ มาตรา 181 เท่านั้น ปฏิบัติเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ใครว่าอะไรต่างจากนี้ก็คือฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่างไปจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญก็ฝ่าฝืนรัฐธรรนูญเสียเอง(อีกแล้ว
...

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar