lördag 19 april 2014

ฝ่ายธรรมะ (อำนาจรัฐ) vs ฝ่ายอธรรม(รัฎฐาธิปัตย์) เป็นการต่อสู้ที่มีประชาชนและประเทศชาติเป็นเดิมพัน...


ประลองกำลัง ยกที่ ๑ ศอรส. เป็นต่อหลายขุม     

โดย   สายลมรัก
ในฐานะที่เป็นข้าราชการประจำ มองในฐานะที่คร่ำหวอด ในอาชีพมากกว่ายี่สิบปี
การนัดหมายเช๊คกำลัง เอาเป็นว่า "ขาด" ยับ และเยิน กรณี สอรส. เชิญ ปลัดกระทรวง มาซักซ้อมความเข้าใจ 
ซึ่งเนื้อหาสาระไม่สำคัญเท่ากับจะดูว่า อำนาจในการบริหาราชการแผ่นดินยังมีอยู่อีกไหม
ภาพที่เห็น ทั้งปลัด และรองปลัด ที่ได้รับมองหมายมา ออกมาอย่างที่เห็น
ยกที่ ๑ กำนัน แพ้ TKO แบบ RSC Out class แม้นจะมีลุ้นจาก การยุยงให้กระด้างกระเดื่อง จาก พรรคประชาธิปัตย์ และ กปปส. แต่ข้าราชการประจำ ก็ทราบถึงหน้าที่ ความรับผิดชอบ ในฐานะผู้ปัดเป่าความทุกข์ร้อนของราษฏร์

ภาพที่ออกมาจึงเป็นอย่างที่เห็น จะมีก็เพียงปลัดขิก ของกระทรวงสาธารณสุข เพียงกระทรวงเดียว ที่ฝันหวานถึงการได้รับอวยยศ อวยชัย นั่งเก้าอี้เสนาบดี เอาไว้อวดลูกหลานว่า ครั้งนึง เคยเป็นเสนาบดี โดยมาจากระบบลากตั้ง ซึ่งก็ไม่รู้ว่า ลูกหลานจะยินดี กับตำแหน่งนี้หรือเปล่า

ผมเห็นแล้วก็ ให้นึกถึง ระวังกรรม จะตามทัน ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาตามกฏหมาย ท่านปฏิเสธ ระบบบริหารราชการแผ่นดิน ระวัง ผู้ใต้บังคับบัญชา จะเสนองานข้ามหัวท่านไปที่เจ้ากระทรวงโดยตรงบ้าง ท่านอย่าไปด่า พวกเขานะครับ เพราะตัวท่านเองก็ทำให้เห็นเป็นตัวอย่างแล้วว่า ไม่จำเป็นต้องเห็นหัวผู้บังคับบัญชาตามกฏหมายก็ได้ แล้วท่านจะทำเยี่ยงไร เมื่อตัวเอง ก็ไม่ต่างกับหัวหลักหัวตอในกระทรวงเช่นกัน

ถามว่ามีนัยสำคัยอะไร ผมขอตอบตามตรงว่า รัฐบาลตอนนี้ ไม่มีสิทธิจะย้ายข้าราชการระดับปลัดกระทรวง การวัดกำลังโดยการเชิญมาขอซักซ้อมทำความเข้าใจจึง สื่อนัยสำคัญอย่างยิ่ง

ปลัด รองปลัด และ ซี ๑๑ อีกหลายท่าน ตัดสินใจแล้วว่า ไม่เอารัฐถาธิปัตย์แน่ ๆ เพราะรู้ตัวดีว่า วันนี้ กปปส. ก็ส่งสายมาเช๊คชื่อเช่นกัน
งานนี้ หลาย คนจมูกไว คงรับทราบอะไรบางอย่างว่า นายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้ยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยว
ปลัดกลาโหม พูดเต็มปากว่า ผมได้รับคำสั่ง ให้ดูแลความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี ผมจะทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้ดีที่สุด
ลองเหลียวมองมาที่ ธาริต ออกแถลงการณ์ชนิด ตะลึงไปทั้งวงการ ไม่คิดกันบ้างหรือว่า ธาริต ได้ไฟเขียวมาจากใคร จากรัฐบาลรักษาการหนะเหรอ ขออนุญาต "ขรรม" รับรอง คนอย่างนายธาริต ไม่ซื่อบื้อ แน่ ๆ  เอาเถอะ เพิ่งจะยกแรก ๆ

ยกที่สามที่สี่ จะเข้มข้นและชัดกว่านี้
ช่วงนี้อยู่ระหว่าง ต่างฝ่าย ต่างก็เช๊คกำลัง

นึกถึง เหตุการณ์ อนุพงษ์ ออกมาแถลง ไม่ทำตามคำสั่งรัฐบาล ตอนนายกสมัคร อันนั้นชัด
แต่ครั้งนี้ สภาพยิ่งลักษณ์ ต่างกับนายกสมัคร อย่างรุนแรง (สมัคร มีคดีเดียว)
แต่ไม่มีแม้แต่เสียงกระแอม จากกองทัพ ซักแอะ ?
ผมมองเห็นอนาคต ของ องค์รัฐถาธิปัตย์ รำไร รำไร เต็มทีแล้วครับ
คนใกล้ชิดจับตาดูแกหน่อยนะ ว่าจะหนีออกนอกประเทศ ไปอยู่กับทักษิณหรือเปล่า



............................................................


ฝ่ายธรรมะ (อำนาจรัฐ) vs ฝ่ายอธรรม(รัฎฐาธิปัตย์) 
โดย   ราษฎรไทย


เป็นการต่อสู้ที่มีประชาชนและประเทศชาติเป็นเดิมพัน...ศึกครั้งนี้นับเป็นการต่อสู้เข้มข้นของทั้งสองฝ่าย    เพราะยุคนี้ยุคไฮเธคประชาชนมีความตื่นตัวติดตามรับรู้เรื่องการเมืองสูงมาก   ทำให้รู้ว่าการเมืองก็คือเรื่องเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของตนเองทุกด้านคือเรื่องปัจจัยสี่ของมนุษย์ตั้งแต่เกิดจนตาย...  
โดยประชาชนได้รับบทเรียนจากภายใต้การปกครองด้วยรัฐธรรมนูญเผด็จการโจรปี๕๐   หลังการยึดอำนาจรัฐจากปี ๒๕๔๙ -ปี๒๕๕๗   ทำให้ประชาชนได้รับรู้ความจริงหูตาสว่าง  ได้รู้ได้เห็นเห็นตัวตนสันดานที่แท้จริงของ"ระบอบเผด็จการอำมาตย์ทรราชราชาธิปไตย"  ที่โหดร้ายใจดำอำมหิตเห็นแก่ตัว  มัวเมาหลงไหลในอำนาจ  ปกครองใช้สองมาตรฐาน ให้อำนาจพิเศษแก่คนของพระราชา( องคมนตรี ทหาร ศาล  นักการเมือง ข้าราชการ องค์กรอิสระต่างๆ ฯลฯ) กดขี่ข่มเหงเอารัดเอาเปรียบทำร้ายเข่นฆ่าประชาชน   ขัดขวางทำลายความเจริญของประเทศชาติ  โดยไม่มีความผิดได้รับโทษใดๆ...   


นอกจากนี้ระบอบอำมาตย์เผด็จการทรราชราชาธิปไตย   ยังเอื้อประโชยน์ให้อำมาตย์และพวกสมุนรับใช้โอกาสฉกฉวยกอบโกยหาผลประโยชน์เอาทรัพยากรของชาติไปเป็นของตนเองและพรรคพวก ....  


วันนี้ประชาชนมีการตื่นตัวมากเมื่อเทียบกับอดีต  มีการศึกษาหาความรู้  มีการสื่อสารติดต่อถึงกันและกัน   ทันต่อสถานการณ์มีการส่งข่าวสารความจริงแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน   มีการตื่นตัวจับมือรวมพลังกันเพื่อใช้เป็นอำนาจต่อรอง   ในประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย  ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพพลังบริสุทธิ์ "หนึ่งสิทธิหนึ่งเสียง"ของประชาชนคือเสียงสวรรค์ที่สำคัญ ดังนั้นการต่อสู้ครั้งนี้พลังอำนาจความรักความศรัทธาอันแข็งแกร่งของประชาชนคือตัวแปรอันสำคัญในการตัดสิน.....


ท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจให้ประชาชนพี่น้องเพื่อนร่วมชาติที่มีหัวใจประชาธิปไตยทุกท่าน  ทุกชนชั้น  ทุกหมู่เหล่า ทุกสาขาอาชีพ ทุกเพศทุกวัย  จงมีสติช่วยกันคิดไต่ตรองอย่าประมาท  มีจิตใจที่เข้มแข็ง แน่วแน่ไม่หวั่นไหว  สามัคคีรวมพลังร้อยใจเป็นหนึ่งเดียว  จับมือกันก้าวเดินฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆไปด้วยกัน  นำพาตัวเองและประเทศชาติให้พ้นจากวงจรอุบาทว์ของระบอบเผด็จการอำมาตย์ทรราชราชาธิปไตย  เพื่อนำพาประเทศชาติเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงให้ได้....ชัยชนะเป็นของประชาชน  ประชาชนจงเจริญ....ด้วยจิตคารวะ

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar