fredag 11 september 2015

ข่าว บีบีซีไทย - BBC Thai -

บีบีซีไทย - BBC Thai -

บีบีซีไทย - BBC Thais foto.
(หมายเหตุ-ตำรวจไทยยืนสุภาพจัง ?ยืนกุมมือ?)
ทูตบังกลาเทศยืนยัน “อิซาน” ออกจากไทยไปบังกลาเทศก่อนวันเกิดเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์เพียงหนึ่งวัน และพักอยู่นานสองสัปดาห์ ตำรวจไทยติดต่อขอข้อมูลหลังจาก “อิซาน” เดินทางออกไปจากบังกลาเทศแล้ว โฆษกตำรวจเผยเข้าใกล้มือระเบิดแล้ว แต่ยังเปิดเผยรายละเอียดไม่ได้
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เปิดเผยว่าจากการหารือกับนางซาอิดามูนา ทัสนีม เอกอัครราชทูตบังกลาเทศประจำประเทศไทยเกี่ยวกับการสืบสวนคดีวางระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ เอกอัครราชทูตได้ให้ข้อมูลเบื้องต้นระ...บุว่านายอิซาน (นามสมมติ) เดินทางออกจากประเทศไทยเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม และเดินทางเข้าไปยังบังกลาเทศโดยใช้พาสปอร์ตของจีน พักอยู่ 14 วัน และในวันที่ สตช.ติดต่อไปทางบังกลาเทศนั้นทูตบังกลาเทศบอกว่านายอิซานได้เดินทางออกไปจากบังกลาเทศแล้วและเข้าใจว่าเดินทางต่อไปยังจีนโดยผ่านทางกรุงเดลี ประเทศอินเดีย
พล.ต.ท.ประวุฒิ ยืนยันว่าได้ตรวจสอบพบว่านายอิซานเดินทางไปบังกลาเทศจริง แต่จะยังอยู่ที่นั่นหรือเดินทางไปจีนหรือประเทศอื่นนั้นไม่สามารถตอบได้ ขณะที่ชื่อ “อิซาน” นั้นน่าจะเป็นเพียงชื่อเล่น ซึ่งไม่ตรงกับชื่อในพาสปอร์ต และขณะนี้กำลังตรวจสอบรายละเอียดการพักอาศัยและการเดินทางในบังกลาเทศของนายอิซาน แต่เบื้องต้นทราบข้อมูลว่านายอิซานไม่ได้พักตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ในเอกสารของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
ก่อนหน้านี้สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างคำพูดเจ้าหน้าที่ตำรวจบังกลาเทศว่าบุคคลที่ตำรวจไทยเชื่อว่าเป็นผู้วางแผนก่อเหตุระเบิดและหนีออกจากประเทศไปก่อนวันเกิดเหตุนั้น ได้เดินทางเข้าไปและพำนักอยู่ในบังกลาเทศเป็นเวลาสองสัปดาห์ ก่อนเดินทางโดยเครื่องบินจากกรุงธากาไปยังกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 30 ส.ค. โดยบุคคลดังกล่าวถือพาสปอร์ตภายใต้ชื่ออาบู ดัสตาร์ อับดุลเราะห์มาน
รอยเตอร์รายงานอ้างคำพูดนักการทูตระดับสูงว่ามีการออกวีซ่าไทย ให้นายอาบู ดัสตาร์ อับดุลเราะห์หมาน หรือ “อิซาน” และนายไมไรลี ยูซูฟู ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว และกุมภาพันธ์ปีนี้ ตามลำดับ โดยทั้งสองใช้พาสปอร์ตจีน
พล.ต.ท.ประวุฒิ ยืนยันเช่นกันว่านายยูซูฟูถือพาสปอร์ตจีน แต่ยังต้องรอการยืนยันจากจีนอีกครั้ง
โฆษก สตช. กล่าวด้วยว่านายอิซาน เป็นผู้ที่อยู่ในห้องพักเดียวกันกับผู้ต้องหาสองรายคือนายยูซูฟู และนายอาเด็ม คาราดัก ที่ถูกควบคุมตัวไว้แล้ว
ส่วนผู้ต้องสงสัยที่เป็นมือระเบิดซึ่งมีรายงานว่าเดินทางไปยังมาเลเซียนั้น พล.ต.ท.ประวุฒิไม่ยืนยันว่าไปประเทศใด แต่ระบุว่ามีเบาะแสว่าอาจจะอยู่ตามชายแดนหรือหลบหนีไปไม่ไกลจากนั้น “ตอนนี้เข้าใกล้ตัวคนที่เป็นมือระเบิดแล้วทั้ง 2 กรณี แต่เมื่อหลักฐานไม่สามารถยืนยันว่าเป็นหลักฐานทางคดีก็ยังไม่สามารถเปิดเผยได้”
โฆษก สตช.กล่าวด้วยว่าขณะนี้มีข่าวลือเกิดขึ้นจำนวนมากและมีข้อสันนิษฐานที่ห่างไกลข้อเท็จจริง อย่างไรก็ดีตำรวจยืนยันได้ว่าชายต่างๆ ที่อยู่ในรูปและตามหมายจับมีความเกี่ยวพันกันชัดเจนว่าทำงานกันเป็นกลุ่ม ตำรวจจะรายงานความคืบหน้าเรื่องนี้อีกครั้งในวันจันทร์ ทั้งนี้ เห็นว่าการก่อการร้ายที่มีชาวต่างชาติเกี่ยวข้องอาจจะไม่ใช่การก่อการร้ายข้ามชาติ แต่เชื่อว่าเป็นเรื่องของกลุ่มธุรกิจผิดกฎหมายที่เชื่อมโยงกับการเข้าเมืองผิดกฎหมายและใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำผิด ‪#‎Bangkokbomb‬

บีบีซีไทย - BBC Thais foto.

ปปง.ตรวจสอบข้อมูลการเงินผู้ต้องหาคดีระเบิดแยกราชประสงค์ พบมีการเปิดบัญชีกับธนาคารพาณิชย์ไทยรวม 10 บัญชี แต่มีการทำธุรกรรมในวงเงินไม่มาก รวมล้านบาทเศษ
วันนี้ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดแถลงข่าวชี้แจงผลการตรวจสอบธุรกรรมการเงินของผู้ต้องหาในคดีระเบิดแยกราชประสงค์ และสะพานตากสิน พบว่าผู้ต้องหา 3 รายที่มีการออกหมายจับ เปิดบัญชีธนาคารในประเทศไทยทั้งสิ้น 10 บัญชี และเตรียมประกาศเป็นบุคคลต้องห้ามทำธุรกรรมการเงินในประเทศ
ผู้ต้องห...าทั้งสามรายที่ ปปง. ตรวจสอบวิเคราะห์ข้อมูลธุรกรรมการเงิน ได้แก่ น.ส. วรรณา สวนสัน นายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู สามีของ น.ส. วรรณา และนายไมไรลี ยูซูฟู
บัญชีธนาคารที่เปิดไว้ทั้งหมด 10 บัญชี เป็นของ น.ส.วรรณา 8 บัญชี ประกอบด้วยธนาคารกรุงไทยจำกัด (มหาชน) 3 บัญชี ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 4 บัญชี ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) 1 บัญชี และธนาคาร กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) 1 บัญชี
เป็นบัญชีของนายไมไรลี ยูซุฟู จำนวน 1 บัญชี คือบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และนายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู มีบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 1 บัญชี

เลขาธิการ ปปง. ระบุว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายเอ็มระห์ มีการรับโอนเงินในวันที่ 17 ก.พ. 2558 โดยรับโอนเงินผ่านบุคคลที่อยู่ต่างประเทศจำนวน 151,106.10 บาท,วันที่ 17 มีนาคม 2558 รับโอนเงินจากบุคคลที่อยู่ในต่างประเทศ จำนวน 157,646.08 บาท, วันที่ 7 เมษายน 2558 มีการนำเงินเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซี หัวหมาก จำนวน 410,000 บาท ทั้งนี้ มีการทยอยถอนเงินเป็นระยะ จนถึงวันที่ 2 ก.ค. 2558 มีเงินเหลือในบัญชี 395.45 บาท และวันที่ 27 สิงหาคม 2558 มีการนำเงินเข้าบัญชีอีก 14,495 บาท
“จากหลักฐานทางการเงินเราพบการซื้ออุปกรณ์ ส่วนใหญ่เป็นการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า และใช้จ่ายในชีวิต ประจำวัน แต่จำนวนเงินนั้นไม่มาก อยู่ในระดับหลักแสนบาทเท่านั้น รวมทุกบัญชีแล้วจำนวนเพียงล้านกว่าบาทเท่านั้น ในส่วนของวัตถุระเบิดก็ไม่ได้ใช้เงินลงทุนสูงมาก” พ.ต.อ.สีหนาทกล่าว และว่ากลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดรายอื่นๆ นั้นยังอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง และรอขั้นตอนของการสืบสวนสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่ง ปปง.จะดำเนินการตามขั้นตอนด้วยการเสนอเรื่องต่ออัยการเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งให้ประกาศเป็นบุคคลต้องห้ามทำธุรกรรมการเงินในประเทศต่อไป
คลิกดูเพิ่ม  ‪#‎Bangkokbomb‬

คลิกดูเพิ่ม- Visa mer


Inga kommentarer:

Skicka en kommentar