Chaturon Chaisang
เมื่อเช้านี้ผมได้ไปฟ้องต่อศาลปกครองเพือขอให้เพิกถอนคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางของผม ขอให้ข้อมูลด้วยการเรียบเรียงจากเอกสารแถลงข่าวพอสรุปได้ดังนี้ครับ
ผมได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองกรณีถูกเพิกถอนพาสสปอร์ต โดยฟ้องร้องดำเนินคดีต่อกระทรวงการต่างประเทศ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 กรมการกงสุล ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 อธิบดีกรมการกงสุล ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 5สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 6 ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 7
โดยบรรยายฟ้องว่า การเพิกถอนพาสสปอร์ตครั้งนี้เป็นคำสั่งที่ผิดกฎหมาย และเป็นการจงใจกระทำละเมิดโดยผิดกฎหมาย โดยลำดับเรื่องพอสังเขปได้ว่า เริ่มจากกรมการกงสุลออกแถลงการณ์ผ่านเว็ปไซต์ชี้แจงเกี่ยวกับการยกเลิกหนังสือเดินทางของตนว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศขอให้พิจารณายกเลิกหนังสือเดินทางของตน เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีหมายจับและเดินทางไปต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศและกรมการกงสุลพิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีดังกล่าวเข้าข่ายที่จะยกเลิกหนังสือเดินทางตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ. 2548 ข้อ 23 (2) ประกอบข้อ 21 (2) จึงได้ยกเลิกหนังสือเดินทางของตน ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2558
“ผมไม่ได้รับแจ้งคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางดังกล่าวจากกระทรวงการต่างประเทศและกรมการกงสุล จึงมีหนังสือลงวันที่ 3 กันยายน 2558 ไปยังปลัดกระทรวงการต่างประเทศ สอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่ามีการยกเลิกหนังสือเดินทางของตนดังที่ปรากฏเป็นข่าวว่า จริงหรือไม่ แต่จนถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่ได้รับหนังสือตอบจากปลัดกระทรวงการต่างประเทศแต่อย่างใดทั้งสิ้น”
เห็นว่า คำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางของตนเป็นคำสั่งที่ผิดกฎหมาย ทำให้ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง จึงยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งดังกล่าวต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และอธิบดีกรมการกงสุล และต่อมารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และอธิบดีกรมการกงสุล ไม่พิจารณาอุทธรณ์ดังกล่าว หรือหากพิจารณา ก็ไม่พิจารณาให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาอันสมควรหรือภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด และไม่ได้แจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์ให้ตนทราบ จึงใช้สิทธิฟ้องคดีนี้ต่อศาลปกครองกลางเพื่อขอศาลมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางของตนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ในคำร้องได้ตั้งประเด็นพิจารณาทางข้อกฎหมายต่อศาลปกครองว่า คำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย (๑). เหตุผลที่อ้างในคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางเป็นความเท็จ ตนไม่ใช่บุคคลที่มีหมายจับหรือเดินทางไปต่างประเทศ ปัจจุบันไม่มีหน่วยงานใดออกหมายจับตน หากเหตุที่อ้างในหนังสือสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นเรื่องคดีที่อัยการศาลทหารกรุงเทพได้ยื่นฟ้องตน เป็นคดีหมายเลขดำที่ 31ก./2557 ต่อศาลทหาร ก็เป็นเรื่องที่ตนถูกควบคุมตัวโดยสมัครใจตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2557 โดยไม่มีการออกหมายจับแต่อย่างใดทั้งสิ้น คดีดังกล่าวเป็นคดีเดียวที่มีการฟ้องร้องตนในขณะนี้ และยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลทหาร ซึ่งได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจากศาลทหารเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2557 ซึ่งเงื่อนไขของการปล่อยตัวชั่วคราวประการหนึ่ง คือ ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่ศาลจะอนุญาต
(๒). เหตุที่ยกเลิกหนังสือเดินทางไม่ตรงกับเหตุผลที่แท้จริง เหตุที่ระบุในคำสั่งขัดต่อเหตุผลในการยกเลิกหนังสือเดินทางของตนตามที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงต่อสื่อมวลชน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สาเหตุแท้จริงในการยกเลิกหนังสือเดินทาง ไม่ใช่เป็นบุคคลที่มีหมายจับและเดินทางไปต่างประเทศ หากแต่เป็นเพราะการที่ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญที่มีเนื้อหาไม่เป็นประชาธิปไตยและได้เรียกร้องให้สภาปฏิรูปแห่งชาติลงมติไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว รวมทั้งที่ได้แสดงความคิดเห็นทางการเมืองในกรณีอื่นๆ หลายครั้ง ซึ่งอาจทำให้ผู้มีอำนาจไม่พอใจ
การแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญและความคิดเห็นทางการเมือง ถือเป็นสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 มาตรา 4 ตามกฎหมายสิทธิมนุษยชน และกฎหมายระหว่างประเทศ การกระทำดังกล่าวไม่ใช่การก่อความไม่สงบด้วยวาจา หรือก่อให้เกิดความปั่นป่วนกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนแต่อย่างใด ไม่ได้กระทำผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวของศาลหรือคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นการกระทำหรือคำสั่งทางปกครองที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายระหว่างประเทศ
(๓). สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่มีอำนาจร้องขอให้กระทรวงการต่างประเทศและกรมการกงสุลยกเลิกหนังสือเดินทางของตน (๔). กระทรวงการต่างประเทศและกรมการกงสุลไม่มีอำนาจยกเลิกหนังสือเดินทางของตน ตามระเบียบของกระทรวงการต่างประเทศและกฎหมาย (๕). คำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางขัดต่อพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 (๖). การยกเลิกหนังสือเดินทางขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2557 (ฉบับชั่วคราว) มาตรา 4 และพันธกรณีระหว่างประเทศของประเทศไทย
นอกจากนี้ ยังได้บรรยายสรุปคำฟ้องถึงความเสียหายที่ได้รับ เป็นการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ใช้เหตุผลข้ออ้างเป็นเท็จ สาเหตุที่แท้จริงน่าจะเกิดจากการที่ตนแสดงความคิดเห็นแตกต่างทางการเมือง วิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญและเรื่องอื่นอยู่เสมอ คำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางดังกล่าวที่ออกโดย หรือร่วมกันสั่งการโดยผู้ถูกฟ้องทุกคนเป็นการจงใจกระทำละเมิดโดยผิดกฎหมาย ทำให้ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายต่อเสรีภาพในการเดินทางและความเสียหายต่อการทำมาหาได้และการประกอบอาชีพ ความเสียหายต่อเกียรติยศและชื่อเสียง ความเสียหายต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และยังก่อให้เกิดความเสียหายต่อหลักนิติรัฐนิติธรรมและสาธารณะโดยส่วนรวมอีกด้วย
นอกจากที่ฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งในคดีนี้แล้ว จะขอสงวนสิทธิในการดำเนินคดีอาญาตลอดจนเรียกค่าเสียหายในทางแพ่งจากผู้เกี่ยวข้องต่อไป
13 มกราคม 2559
----------------
ผมได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองกรณีถูกเพิกถอนพาสสปอร์ต โดยฟ้องร้องดำเนินคดีต่อกระทรวงการต่างประเทศ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 กรมการกงสุล ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 อธิบดีกรมการกงสุล ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 5สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 6 ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 7
โดยบรรยายฟ้องว่า การเพิกถอนพาสสปอร์ตครั้งนี้เป็นคำสั่งที่ผิดกฎหมาย และเป็นการจงใจกระทำละเมิดโดยผิดกฎหมาย โดยลำดับเรื่องพอสังเขปได้ว่า เริ่มจากกรมการกงสุลออกแถลงการณ์ผ่านเว็ปไซต์ชี้แจงเกี่ยวกับการยกเลิกหนังสือเดินทางของตนว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศขอให้พิจารณายกเลิกหนังสือเดินทางของตน เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีหมายจับและเดินทางไปต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศและกรมการกงสุลพิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีดังกล่าวเข้าข่ายที่จะยกเลิกหนังสือเดินทางตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ. 2548 ข้อ 23 (2) ประกอบข้อ 21 (2) จึงได้ยกเลิกหนังสือเดินทางของตน ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2558
“ผมไม่ได้รับแจ้งคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางดังกล่าวจากกระทรวงการต่างประเทศและกรมการกงสุล จึงมีหนังสือลงวันที่ 3 กันยายน 2558 ไปยังปลัดกระทรวงการต่างประเทศ สอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่ามีการยกเลิกหนังสือเดินทางของตนดังที่ปรากฏเป็นข่าวว่า จริงหรือไม่ แต่จนถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่ได้รับหนังสือตอบจากปลัดกระทรวงการต่างประเทศแต่อย่างใดทั้งสิ้น”
เห็นว่า คำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางของตนเป็นคำสั่งที่ผิดกฎหมาย ทำให้ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง จึงยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งดังกล่าวต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และอธิบดีกรมการกงสุล และต่อมารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และอธิบดีกรมการกงสุล ไม่พิจารณาอุทธรณ์ดังกล่าว หรือหากพิจารณา ก็ไม่พิจารณาให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาอันสมควรหรือภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด และไม่ได้แจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์ให้ตนทราบ จึงใช้สิทธิฟ้องคดีนี้ต่อศาลปกครองกลางเพื่อขอศาลมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางของตนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ในคำร้องได้ตั้งประเด็นพิจารณาทางข้อกฎหมายต่อศาลปกครองว่า คำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย (๑). เหตุผลที่อ้างในคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางเป็นความเท็จ ตนไม่ใช่บุคคลที่มีหมายจับหรือเดินทางไปต่างประเทศ ปัจจุบันไม่มีหน่วยงานใดออกหมายจับตน หากเหตุที่อ้างในหนังสือสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นเรื่องคดีที่อัยการศาลทหารกรุงเทพได้ยื่นฟ้องตน เป็นคดีหมายเลขดำที่ 31ก./2557 ต่อศาลทหาร ก็เป็นเรื่องที่ตนถูกควบคุมตัวโดยสมัครใจตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2557 โดยไม่มีการออกหมายจับแต่อย่างใดทั้งสิ้น คดีดังกล่าวเป็นคดีเดียวที่มีการฟ้องร้องตนในขณะนี้ และยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลทหาร ซึ่งได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจากศาลทหารเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2557 ซึ่งเงื่อนไขของการปล่อยตัวชั่วคราวประการหนึ่ง คือ ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่ศาลจะอนุญาต
(๒). เหตุที่ยกเลิกหนังสือเดินทางไม่ตรงกับเหตุผลที่แท้จริง เหตุที่ระบุในคำสั่งขัดต่อเหตุผลในการยกเลิกหนังสือเดินทางของตนตามที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงต่อสื่อมวลชน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สาเหตุแท้จริงในการยกเลิกหนังสือเดินทาง ไม่ใช่เป็นบุคคลที่มีหมายจับและเดินทางไปต่างประเทศ หากแต่เป็นเพราะการที่ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญที่มีเนื้อหาไม่เป็นประชาธิปไตยและได้เรียกร้องให้สภาปฏิรูปแห่งชาติลงมติไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว รวมทั้งที่ได้แสดงความคิดเห็นทางการเมืองในกรณีอื่นๆ หลายครั้ง ซึ่งอาจทำให้ผู้มีอำนาจไม่พอใจ
การแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญและความคิดเห็นทางการเมือง ถือเป็นสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 มาตรา 4 ตามกฎหมายสิทธิมนุษยชน และกฎหมายระหว่างประเทศ การกระทำดังกล่าวไม่ใช่การก่อความไม่สงบด้วยวาจา หรือก่อให้เกิดความปั่นป่วนกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนแต่อย่างใด ไม่ได้กระทำผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวของศาลหรือคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นการกระทำหรือคำสั่งทางปกครองที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายระหว่างประเทศ
(๓). สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่มีอำนาจร้องขอให้กระทรวงการต่างประเทศและกรมการกงสุลยกเลิกหนังสือเดินทางของตน (๔). กระทรวงการต่างประเทศและกรมการกงสุลไม่มีอำนาจยกเลิกหนังสือเดินทางของตน ตามระเบียบของกระทรวงการต่างประเทศและกฎหมาย (๕). คำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางขัดต่อพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 (๖). การยกเลิกหนังสือเดินทางขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2557 (ฉบับชั่วคราว) มาตรา 4 และพันธกรณีระหว่างประเทศของประเทศไทย
นอกจากนี้ ยังได้บรรยายสรุปคำฟ้องถึงความเสียหายที่ได้รับ เป็นการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ใช้เหตุผลข้ออ้างเป็นเท็จ สาเหตุที่แท้จริงน่าจะเกิดจากการที่ตนแสดงความคิดเห็นแตกต่างทางการเมือง วิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญและเรื่องอื่นอยู่เสมอ คำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางดังกล่าวที่ออกโดย หรือร่วมกันสั่งการโดยผู้ถูกฟ้องทุกคนเป็นการจงใจกระทำละเมิดโดยผิดกฎหมาย ทำให้ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายต่อเสรีภาพในการเดินทางและความเสียหายต่อการทำมาหาได้และการประกอบอาชีพ ความเสียหายต่อเกียรติยศและชื่อเสียง ความเสียหายต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และยังก่อให้เกิดความเสียหายต่อหลักนิติรัฐนิติธรรมและสาธารณะโดยส่วนรวมอีกด้วย
นอกจากที่ฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งในคดีนี้แล้ว จะขอสงวนสิทธิในการดำเนินคดีอาญาตลอดจนเรียกค่าเสียหายในทางแพ่งจากผู้เกี่ยวข้องต่อไป
13 มกราคม 2559
----------------
(หมายเหตุ- ถึงคุณจาตุรนต์ผู้ยืนยัดกล้าคิดกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้องเสมอมา ขอบคุณที่ลุกขึ้นทวงถามถึงบรรทัดฐานในการบังคับใช้กฎหมายของ"ขบวนการยุติธรรมไทย "คุณคือทรัพยากรมนุษย์ที่ทรงคุณค่า เป็นกำลังใจให้คุณยืนอยู่เคียงข้างคุณเสมอ ขอให้คุณมีสุขภาพกายที่แข็งแรง สุขภาพจิตที่เข้มแข็ง แน่วแน่มั่นคง ยืนยัดอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนไทยตลอดไป จากเพื่อนร่วมเดินทาง )
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar