torsdag 21 januari 2016

ภายใต้ระบอบราชาธิปไตยแบใหม่ ( NeoAbsoluteMonarchy )


อัพเดท ภายใต้ระบอบราชาธิปไตยแบบใหม่ ( Neo Absolute Monarchy ) เทวาหรือซานตาน...ก็ไม่ต่างกัน..เหนือมนุษย์มนา...เหนือฟ้าได้เยี่ยงไร?....วันนี้ขอฝากบทความ " บทเรียนจากประวัติศาสตร์ของอียิปต์และ เอธิโอเปีย.." ให้อ่านและศึกษา

โดย   แสงตะวัน                    
 
ภายใต้ระบอบราชาธิปไตยแบบใหม่   ( NeoAbsoluteMonarchy ) เรารู้แจ้งเห็นจริงว่าจอมโจรฆาตกรที่แท้จริง  สั่งขัดขวางทำลายระบอบประชาธิปไตยมาตลอดเวลา  โดยอยู่เบื้องหลังสั่งให้ทหารยึดอำนาจครั้งแล้วครั้งเล่าทำความเสียหายให้แก่ประเทศชาติและทำร้ายเข่นฆ่าประชาชนมาโดยตลอดนั้นคือ  "กษัตริย์ในคราบนักบุญ" ที่เป็นเจ้าของระบอบเผด็จการราชาธิปไตยใช้ปกครองประเทศไทยมาเป็นเวลา ๖๙ ปี (๒๔๘๙-๒๕๕๘) 

วันนี้กษัตริย์ไม่สามารถอำพรางทำตัวเป็นสมมุติเทพเทวดาหลอกประชาชนไทยได้อีกต่อไปแล้ว  เพราะหัวโขนรูปชฎาที่ครอบหน้าไว้ได้ถูกถอดออกให้ประชาชนไทยทั้งภายในประเทศและนอกประเทศทั่วโลกได้เห็นรับรู้ความจริง  โดยเฉพาะครั้งล่าสุดจากการกระทำอย่างโจ่งแจ้ง เมื่อ๒๒ พ.ค.๕๗ ที่ให้ทหารยึดอำนาจรัฐจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง  และวันนี้คนไทยรู้ความจริงว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังสั่งการให้ทหารฆ่าประชาชนที่มาชุมนุมมือเปล่าเมื่อปี๒๕๕๓ อย่างโหดเหี้ยมอำมหิต๙๙ ศพที่นับได้ และบาดเจ็บเป็นจำนวนหลายพัน  หายสาบสูญเป็นศพไม่มีญาติอีกนับไม่ถ้วน   มันคือผลงานจากใบสั่งของกษัตริย์ผู้เป็นเจ้าของระบอบราชาธิปไตยแบบใหม่นั่นเอง     

ดังนั้นกษัตริย์จึงไม่ใช่เทวดาฟ้าดินที่ไหน  แค่เป็น "เทวดาในร่างคน...เข่นฆ่าคนดั่งซาตาน " นับเป็นการกระทำของคนธรรมดาที่เป็นฆาตกรโดยสันดาน  เริ่มจากเรื่องราวในอดีตฆ่าพี่ชายแท้ๆของตนเอง ที่มาของคำว่า

"๙มิถุนา ๙ฆ่า๘" น้องฆ่าพี่ขึ้นนั่งบัลลังก์ เป็นกษัตริย์รัชกาลที่๙ 

เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๙   ซึ่งขณะนั้นมีอายุเพียง ๑๘ ปี  

ก่อนหน้านั้นเขายังเป็นเพียงเด็กชายเล็กที่วิ่งตามพี่ชายคือ   กษัตริย์อานันทมหิดลในเวลานั้น  จากเด็กชายเล็กเมื่อขึ้นเป็นกษัตริย์ที่มีแม่เป็นเพียงสามัญชนคนธรรมดาที่"ทะเยอทะยานกระหายอำนาจ" อยากให้ลูกชายทั้งสองคนได้เป็นกษัตริย์   โดยสอนให้ลูกเป็นคนเห็นแก่ตัวทรยศคตโกงต่อประเทศชาติ   อาศัยฐานะการเป็นกษัตริย์ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย ยึดครองผูกขาดรวมศูนย์อำนาจทั้งหมดไว้ในมือคนเดียว  ทั้งการเมือง  การเศรษฐกิจ  การทหาร ทางศาลทั้งระบบมาเป็นอำนาจภายใต้คำสั่งของกษัตริย์  สำหรับใช้จัดการกับฝ่ายศัตรู  กษัตริย์จึงมัวเมาเหลิงอำนาจ  เป็นเหลือบศักดินากาฝากสังคม  ทำนาบนหลังคน เสพสุข  และร่ำรวยมหาศาลกลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก  ฉนั้นจึงไม่ใช่สมมุติเทพเทวดาฟ้าดินมาจากไหนหากเป็นเด็กมาจากครอบครัวที่แม่เป็นเพียงสามัญชนคนธรรมดาเท่านั้นเอง 


เมื่อกษัตริย์ผู้ปกครองประเทศที่ทำตัวไม่เหมาะสม  ก็เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน  ภายในประเทศ  ที่จะช่วยกันจัดการโค่นล้มระบอบกษัตริย์ลง  เพราะแผ่นดินทั้งหมดเป็นของราษฎรไทยทุกคนไม่ใช่ของครอบครัวกษัตริย์   จะมาชุปมือเปิบผูกขาดอำนาจสั่งการ   เป็นเจ้าของประชาชนไทย  เป็นเจ้าของประเทศไทยคนเดียวไม่ได้ 

ในประเทศอื่นในเอเซีย  เช่นลาว  เวียตนาม  อินเดีย เนปาล  พม่า  จีน และ ประเทศอื่นๆที่ไม่มีกษัตริย์ประเทศเขาก็อยู่ได้  อย่างสงบสุข สามารถพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองได้  ไม่จำเป็นต้องมีกษัตริย์และเครือข่ายราชสำนักมาชี้นำบริหารประเทศ   สั่งให้ทหารฆ่าประชาชน เหมือนอย่างในประเทศไทย   ไม่ต้องรอองค์อินทร์จากฟ้าหรือเทวดาองค์ใด  มาสั่งปลดกษัตริย์ออกจากตำแหน่ง   มีแต่ประชาชนไทยทั้งประเทศเท่านั้นพร้อมใจกันปฎิเสธไม่ยอมรับไม่ต้องการระบอบราชาธิปไตย กษัตริย์ก็อยู่ไม่ได้ .  


-บทเรียนจากประวัติศาสตร์ของอียิปต์และ เอธิโอเปีย.....



โดย  แสงตะวัน

สำหรับผู้ที่เรียกร้องให้ทหารออกมาทำการยึดอำนาจ เหมือนในประเทศอียิปต์......

ถ้า จะเปรียบเทียบประเทศไทยกับประเทศอียิปต์ก็ต้องมองย้อนหลังไปเมื่อสมัย กษัตริย์ฟารุกยังมีอำนาจปกครองประเทศอียิปต์อยู่  คือก่อนปี พ.ศ ๒๔๙๕ หรือ ปี ค.ศ. 1952  ซึ่งสภาพการณ์การปกครองของไทยในเวลานี้ก็เหมือนกับประเทศอียิปต์ในเวลานั้น  ที่กษัตริย์เป็นผู้ผูกขาดอำนาจทั้งหมดไว้ในมือ  หรือเรียกว่าประเทศปกครองภายใต้ระบอบเผด็จการกษัตริย์  โดยใช้อำนาจ กดขี่ข่มเหง ขูดรีดประชาชน ทรยศคตโกงประเทศชาติ ทำตัวเหลวแหลก ทำตัวเป็นเพล์บอย มีเมีย มากมาย จนประชาชนทนไม่ได้ในที่สุด  ก็ถูกคณะทหารนำโดย พันเอก Gamal Abdel  Nasser   และ Muhammad Naquip  โค่นลง เมื่อวันที่ ๒๖ เดือน กรกฎาคม พศ. ๒๔๙๕  แล้วกษัตริย์ฟารุค ก็ถูกเนรเทศออกไปจากประเทศอียิปต์  ระบอบกษัตริย์ของอียิปต์ก็สิ้นสุดลง อียิปต์ได้เปลี่ยนมาเป็นระบอบสาธารณรัฐจนถึงเวลาปัจจุบัน โดย พันเอก นัสเซอร์ได้เป็นประธานาธิบดีปกครองประเทศอียิปต์มาจนตายและมีการปกครองโดย ระบอบสาธารณรัฐมาจนถึงปัจจุบัน

อีกหนึ่งตัวอย่างให้ย้อนมองไปดูการเปลี่ยนแปลงในประเทศ เอธิโอเปีย  สมัยที่กษัตริย์ Haile Selassie  ถูกโค่นล้มลงในวันที่ ๒๗ สค. ๒๕๑๘ โดย พันเอก  Mengistu Haile Mariam     จักรพรรดิ  ไฮลีเซลาสซี่ ปกครองประเทศเอธิโอเปียโดยระบอบเผด็จการโดยปล่อยให้ ประชาชนอดอยากทุกข์ยาก เดือดร้อนไปทั่วประเทศ  ในขณะเดียวกันจักรพรรดิมีชีวิตอยู่อย่างฟุ่มเฟือยหรูหรา คตโกงประเทศชาติและลักลอบเอาเงินของชาติไปฝากไว้ที่ธนาคารต่างประเทศเป็นจำนวนมหาศาล แม้แต่หมาของจักรพรรดิต้องกินอาหารจากจานทองคำเท่านั้น

ในเมื่อประชาชนเอธิโอเปียยากจนอดอยากไม่มีจะกิน   ได้รับความเดือดร้อนหนักเข้าทนความอดอยากแร้นแค้นไม่ไหว
พัน เอก Mengistu Haile Mariam  ก็ได้โค่นล้มจักรพรรดิ ไฮลี เซลาสซี่ลง  แล้วเปลี่ยนการปกครองจากระบอบราชาธิปไตยมาเป็นระบอบ สาธารณรัฐ  ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน

ฉะนั้น ประเทศไทย  ถ้าพวกทหารต้องการทำการยึดอำนาจ  ก็ควรได้ศึกษาหรือค้นคว้า จากประวัติศาสตร์ของประเทศอียิปต์เพราะสภาพการณ์ของระบอบการปกครองของไทยใน เวลานี้ก็ไม่ต่างไปจากในประเทศอียิปต์ในอดีตสมัยกษัตริย์ฟารุค....

ดัง นั้นพวกที่โหยหากระสันอยากจะให้ทหารออกมายึดอำนาจในประเทศไทยก็ควรได้ศึกษา ประวัติศาสตร์จากประเทศอียิปต์และ เอธิโอเปียนั้นเสียก่อน  ถ้าท่านต้องการให้ประเทศไทยไม่มีกษัตริย์ และเปลี่ยนการปกครองเป็นระบอบสาธารณรัฐประชาธิปไตย เหมือนกับสองประเทศที่ยกตัวอย่างมา ก็เชิญยึดอำนาจได้เลย .....      

(หมายเหตุ-" บทเรียนจากประวัติศาสตร์ของอียิปต์และ เอธิโอเปีย"..ฝากให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช.และนายทหารไทยทุกเหล่าทัพได้อ่านและศึกษาโดยเฉพาะ  ในโลกนี้ไม่มีใครช่วยพวกท่านได้นอกจากท่านต้องตัดสินใจช่วยตัวเอง ..ด้วยความปราถนาดี.....





Inga kommentarer:

Skicka en kommentar