อย่า งง... โหวตโน = ไม่รับร่างรธน(ชัดเจนว่าไม่เอา) ส่วนโนโหวต เป็นการบอยคอต ไม่ไปใช้สิทธิ์ - จำง่ายๆ...คือออกไปใช้สิทธิแต่โหวต โน
ผมเคยพูดไปแล้วครั้งหนึ่งเรื่อง โหวตโนไม่รับ หรือ โนโหวตบอยคอต-ไม่ใช้สิทธิ์ ก็ขอย้ำอีกทีว่า ผมเสนอให้ไปใช้สิทธิ์ไม่รับร่างรธน. "โหวตโน"
การบอยคอต แล้วอ้างว่า ต้องรณรงค์ให้คนไม่ไปใช้สิทธิ์ คว่ำบาตรประชามติไปเลย แม้ร่างรธน.จะผ่าน แต่ถ้าคนงดออกเสียง "โนโหวต" เยอะมากเป็นล้านเสียง รธน.นั้นก็จะ "ไม่ชอบธรรม" อยู่ดี
ฟังเผิน ๆ ดูเหมือนเข้าท่า เป็นอุดมคติสวยหรู Political correctness ไม่เกลือกกลั้วกับประชามติจอมปลอม ไม่เตะหมูเข้าปากนักการเมือง ฯลฯ
แต่ความจริงคือ ถ้าพวกคุณบอยคอตไม่ไปใช้สิทธิ์ เขาก็นับรวมพวกคุณไปกับพวกไม่ใช้สิทธิ์อื่น ๆ นั่นแหละ แยกไม่ออกว่า ใครบอยคอต ใครนอนหลับทับสิทธิ์ เช่น ประชามติปี 2550 มีคนไม่ใช้สิทธิ์ 20 ล้านคน ถ้าเป็นปี 2559 คุณจะอ้างหรือว่า ทั้ง 20 ล้านคนที่ไม่ใช้สิทธิ์เป็น "โนโหวต" คว่ำบาตรการลงประชามติ?!? ใครจะไปเชื่อคุณ?
ผลสุดท้าย การรณรงค์โนโหวต จะไม่มีผลสะเทือนทางการเมืองใด ๆ เลย ขอให้ดูผลงานพวกพันธมิตรเสื้อเหลืองที่เคยบอยคอต "โนโหวต" เลือกตั้งปี 2554 แล้วล้มเหลว
ขณะที่การรณรงค์ "โหวตโน ไม่รับ" ยังเป็นช่องทางให้อธิบายทั้งที่มาและเนื้อหาของร่างรธน. ได้เสนอ "โรดแมป" ทางเลือก และกิจกรรมอื่น ๆ แม้ผลประชามติออกมา "โหวตโน" อาจจะแพ้เหมือนปี 2550 และรธน. "ผ่าน" (เพราะคนส่วนใหญ่อยากเลือกตั้งเร็ว) แต่เราก็ยังมีคะแนน "ไม่รับร่าง" ชัดเจนว่า อย่างน้อยเป็นเท่าใด เหมือนปี 2550 ที่คนไม่รับถึง 10 ล้านเสียง เป็นผลสะเทือนทางการเมืองอยู่ดี
พวกที่ "โนโหวตคว่ำบาตร" โดยอ้างว่า "พวกมันโกง เปลี่ยนหีบบัตร ฯลฯ" นั้นขัดแย้งตัวเอง เพราะการโนโหวตนั่นแหละจะทำให้เขายิ่ง "โกงง่ายขึ้น" และชนะประชามติง่ายขึ้น
แม้สุดท้ายร่างรธน.จะผ่าน เขาก็จะยังไม่ให้เลือกตั้งอยู่ดี อย่างน้อยถึงปลายปี 2560 (และอาจเลื่อนไปถึงปี 61-62) เราก็ยังเคลื่อนไหวต่อไปได้ เช่นเดียวกับประชามติปี 2550
พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์
.....
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar