tisdag 15 september 2020

"คนอื่นเขาคิดว่าเราอู้ฟู่ร่ำรวย แต่เราไม่ได้มีขนาดนั้น เอาจริง ๆ ก็ยังต้องหาเงินเรื่อย ๆ" บุตรชายคนเล็กของ พล.อ.ปรีชา ระบุ ขณะที่พี่ชายของเขาเพิ่งประมูลโครงการก่อสร้างของรัฐได้ 124 ล้านบาท

 
หลานนายกฯ: บริษัทของลูกชายคนโต พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ได้งานก่อสร้างอาคารหน่วยงานรัฐ 124 ล้านบาท

ห้างหุ้นส่วนจำกัด คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น ของนายปฐมพล จันทร์โอชา บุตรชายคนโตของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และเป็นหลานชายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างอาคารของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ซึ่งประกาศผลการประกวดราคาเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา

เอกสารประกาศรายชื่อผู้ชนะการเสนอราคาจ้างก่อสร้างอาคารสาธารณูปโภครวมเพื่อรองรับการดำเนินงานของศูนย์ทรัพยากรคอมพิวเตอร์เพื่อการคำนวณขั้นสูง ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ลงวันที่ 28 เม.ย.2563 ของ สวทช. ที่เผยแพร่ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ช่วงเช้าวันนี้ (15 ก.ย.) ทางรายการระบุว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่นเป็นผู้ชนะการเสนอราคา โดยเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด เป็นเงินทั้งสิ้น 124 ล้านบาท ต่ำจากราคากลาง 26 ล้านบาท

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ สวทช. ชี้แจงกับบีบีซีไทยว่า การประกวดราคางานก่อสร้างอาคารหลังนี้ มีผู้สนใจขอรับเอกสาร 49 ราย และมีผู้เสนอราคาที่ผ่านคุณสมบัติ 7 ราย

ผลการเสนอราคา ห้างหุ้นส่วนจำกัด คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดที่ 124 ล้านบาท จากราคากลาง 150 ล้านบาท รายละเอียดการดำเนินการปรากฏบนเว็บไซต์ระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ www.gprocurement.go.th ซึ่งเปิดเผยเป็นข้อมูลสาธารณะ

การประกวดราคาก่อสร้างดังกล่าวใช้วิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ประกาศเลขที่ e029/2563 ลงวันที่ 17 เม.ย.2563

เอกชนที่ผ่านคุณสมบัติและยื่นซองประกวดราคา 7 ราย ได้แก่

- บริษัท พาส 409 เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด

- บริษัท ไตรกรุ๊ปรัชดา จำกัด

- หจก.คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น

- บริษัท ไอเอสโอ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด

- หจก.ที เค พี อินเทลลิเจ้นท์

- บริษัท เค พี วาย ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด

- บริษัท พรธิสาร จำกัด

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2555 ประเภทธุรกิจ การก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย มีทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาท หุ้นส่วนมีทั้งหมด 3 ราย ได้แก่ นายปฐมพล จันทร์โอชา น.ส.พัชรินทร์ ธีรวงศ์ภาสกร และนางวัลละภา จันทร์โอชา โดยนายปฐมพล และ น.ส.พัชรินทร์ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ

บีบีซีไทยติดต่อไปยัง หจก.คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น แต่เจ้าหน้าที่กล่าวว่าไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูลใด ๆ

วานนี้ (14 ก.ย.) สื่อหลายสำนักรายงานถึงการเปิดเผยข้อมูลจากรายการเจาะลึกทั่วไทย ฯ ว่า ร.ต.ปฏิพัทธ์ จันทร์โอชา บุตรชายคนเล็กของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และอดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งเปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้างชื่อ พี-ไรท์แอนด์บริส เมื่อปี 2561 ประมูลงานในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มูลค่า 40 ล้านบาท และยังได้งานก่อสร้างอาคารของ สวทช. อีกโครงการหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ร.ต.ปฏิพัทธ์ ได้ปฏิเสธกับบีบีซีไทยทางโทรศัพท์ว่า ไม่ได้รับงานก่อสร้างมาเป็นระยะเกินกว่าหนึ่งปีแล้ว อีกทั้งช่วงที่เปิดบริษัทใหม่ ๆ งานที่รับส่วนใหญ่เป็นการก่อสร้างถนนเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ได้เป็นโครงการคู่สัญญากับรัฐ ตอนนี้เขาได้หันมาเปิดกิจการร้านกาแฟอยู่หนึ่งแห่งในต่างจังหวัด และกำลังสนใจเรื่องการทำธุรกิจเกษตร ที่คิดว่า "สบายใจกว่า"

"ปีนี้ยังไม่ได้ยื่นสักโครงการเดียว" เขาระบุ

"ผมก็งง เพื่อนส่งข่าวนั้นให้ดู ช็อกเหมือนกัน ถ้าได้ขนาดนั้น ก็ไม่ต้องทำงานแล้ว"

การเสนอข่าวชุดนี้ ทำให้ พล.อ.ปรีชาต้องโทรศัพท์ไปทำความเข้าใจกับ พล.อ.ประยุทธ์ ขณะที่ นายกฯ ตอบคำถามสื่อมวลชนสั้น ๆ วานนี้ว่าต้องไปดูว่าเรื่องนี้ ร.ต. ปฏิพัทธ์ทำโดยสุจริตหรือไม่ และเรื่องนี้ "เป็นเรื่องของเขา...คนละครอบครัวอยู่แล้ว" พร้อมกับเปิดเผยว่าเขาได้เตือนบุคคลใกล้ชิดอยู่เสมอว่าให้ระมัดระวังอย่างที่สุด ดังนั้น ถ้าทำอะไรถูกต้องตามกฎหมายก็เป็นเรื่องของกฎหมายไป

คำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์

ปฏิพัทธ์ จันทร์โอชา: "เราทำมาหากิน ดิ้นรนมาด้วยตัวเอง"

ร.ต.ปฏิพัทธ์ เล่าถึงที่มาที่ไปของการมาทำบริษัทก่อสร้างเมื่อปี 2561 ว่า เริ่มจากได้ศึกษางานก่อสร้างในกิจการของพี่ชาย (ปฐมพล) ได้ช่วยงานระยะหนึ่งและเริ่มมีความสนใจจึงมาเปิดบริษัทของตัวเอง แต่ยอมรับว่าส่วนตัวมีความสนใจทางด้านงานศิลปะ ดนตรี มาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่สหราชอาณาจักร

เขายืนยันว่า ตัวเองและพี่ชายทำธุรกิจโดยเข้าร่วมแข่งขันตามปกติ ใครยื่นราคาต่ำสุดก็จะได้งานไป และที่ผ่านมาก็มี "พลาดกันเยอะแยะ" ส่วนบริษัทของเขาเอง ที่ผ่านมาไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวกับงานรัฐ เพราะไม่อยากให้มีปัญหากับครอบครัวตามมา

"คนอื่นเขาคิดว่าเราอู้ฟู่ร่ำรวย แต่เราไม่ได้มีขนาดนั้น เอาจริง ๆ ก็ยังต้องหาเงินเรื่อย ๆ"

หลานชาย พล.อ.ประยุทธ์ และลูกชายคนเล็กของ พล.อ.ปรีชาบอกอีกว่า เรื่องการเมืองค่อนข้างไกลตัว เพราะเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ระดับประเทศ อาจมีเรื่องมากระทบกับตัวเขาเองบ้าง แต่เข้าใจที่ต้องมีคนเกลียดเป็นธรรมดา และไม่ได้รู้สึก "ซีเรียส" ใด ๆ

"การเมืองก็การเมือง เราเป็นแค่เด็ก ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่... เคยไล่อ่านคอมเมนต์ก็รู้สึกเศร้าเหมือนกัน หลัง ๆ ตัดสินใจไม่อ่านดีกว่า ดูแล้วว่าไม่ได้รู้จักเราจริง ๆ ว่าเราทำมาหากิน ดิ้นรนมาด้วยตัวเองอย่างไร มีแต่คนตัดสินว่าเพราะเราเป็นหลาน (ประยุทธ์) ถึงได้อย่างนั้น"

เปิดปูมลูกชาย 2 คนของ พล.อ.ปรีชา

ทั้งปฐมพล และ ร.ต.ปฏิพัทธ์ จันทร์โอชา เป็นข่าวอยู่ในหน้าสื่อตั้งแต่ปี 2559 ขณะที่ผู้เป็นลุงยังนั่งอยู่ในตำแหน่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายกรัฐมนตรี

ร.ต.ปฏิพัทธ์ หรือหมวดป้อง เป็นที่รู้จักในวงกว้างหลังจากมีการบรรจุและอนุมัติแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นนายทหารปฏิบัติการกิจการพลเรือน กองทัพภาคที่ 3 โดยใช้วุฒิปริญญาตรี นิเทศศาสตร์ สื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยนเรศวร เข้าบรรจุ

การเข้ารับราชการของเขาก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมา เมื่อ พล.อ.ปรีชา ผู้เป็นพ่อ และเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม ในเวลานั้น ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า "ลูกชายจบปริญญาตรีมา ก็ต้องทำงาน เมื่อมีตำแหน่งว่าง ก็ให้เข้ามาทำงาน ซึ่งมีหลายคนในกองทัพที่ทำแบบนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่ลูกชายผมคนเดียว"

ร.ต.ปฏิพัทธ์ ได้ลาออกจากราชการในเวลาต่อมา ซึ่งสื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่าเป็นเพราะแรงกดดันทางการเมืองในช่วงนั้น หลังจากนั้นเขาจึงตั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้างในปี 2561 และชนะงานประมูลก่อสร้างอาคารของหน่วยทหารภายใต้กองทัพภาคที่ 3 ร่วมกับ หจก.คอนเทมโพรารีฯ ของพี่ชาย หลังจากตั้งบริษัทได้เพียง 8 เดือน ด้วยราคาประมูลกว่า 11 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 16,300 บาท

ส่วนนายปฐมพล จันทร์โอชา บุตรชายคนโตของ พล.อ.ปรีชา ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับรับเหมาก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2555

สำนักข่าวอิศรา รายงานข้อมูลเมื่อเดือน มิ.ย. 2561 ว่า หจก.คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น ได้งานก่อสร้างอาคารที่พักแพทย์ และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลรัฐอย่างน้อย 2 แห่ง วงเงิน 137 ล้านบาท ทั้งนี้หากนับรวมตั้งแต่ช่วงปี 2557 เป็นต้นมา หจก.แห่งนี้ เป็นคู่สัญญารัฐอย่างน้อย 18 โครงการ มูลค่ากว่า 305 ล้านบาท

สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบอีกว่า เดิมที หจก.แห่งนี้ ใช้ที่อยู่ในค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ (สนามบิน) ต.อรัญญิก อ.เมือง จ.พิษณุโลก กองทัพภาคที่ 3 โดยมีลักษณะแบ่งเป็นบ้านพักของนายทหาร เป็นที่ตั้งแห่งแรก ก่อนย้ายออกมา

 

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar