tisdag 8 april 2014
ขั้นต่อไป สร้างแนวร่วม มีนโยบายการเมืองที่ชัดเจนที่ทุกฝ่ายยอมรับ แล้วแถลงนโยบายให้ประชาชนได้รับรู้...มีการประสานงานร่วมกันยึดมั่นในจุดมุ่งหมายเดียวกัน ...เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยที่แท้จริงมาสู่ปวงชนชาวไทย.....
ขั้นต่อไป
จักรภพ เพ็ญแข - Jakrapob Penkair
เป็นอันว่า มวลชนฝ่ายประชาธิปไตยมีมากกว่ามวลชนฝ่ายอำมาตย์ศักดินาอย่างเห็นได้ชัด ถนนที่เรียกว่า อักษะหรืออุทยาน อันเป็นถนนตามความดำริของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ผู้นำคนสุดท้ายจากคณะราษฏร์ผู้เปลี่ยนแปลงการปกครองให้กษัตริย์สยามลงมาอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญเหมือนอเนกนิกรทั้งมวล ล้นหลามไปด้วยผู้คนที่มาแสดงตนว่าอยู่กับฝ่ายประชาธิปไตย ผิดจากการชุมนุมของ กปปส. ที่คนน้อยลงทุกวัน และไม่มีทางจะพุ่งสูงได้ถึงเมื่อครั้งที่ฝ่ายประชาธิปไตยพลาดพลั้งไปเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยคราวนั้นอีก เหตุผลเพราะ ระบอบอำมาตย์ศักดินาเป็นระบอบที่ใกล้ตาย แต่ประชาธิปไตยเป็นระบอบใหม่ที่วางรากฐานไปได้ถึงอนาคต คนที่ยืนอยู่กับอำมาตย์ศักดินาก็คือฝูงชนที่ใกล้ตาย หรือมีผลประโยชน์ผูกพันอย่างหนักจนปลีกตัวไม่ได้ ซึ่งอาจจะรอถีบส่งเมื่อเห็นว่าจะตายจริงก็ได้ แต่เมื่อเราปลื้มเปรมกันเรียบร้อยในฝ่ายประชาธิปไตย เฉลิมฉลองความเหนือกว่าของประชามติแล้ว อะไรเล่าคือขั้นต่อไป ที่เราควรคิดใคร่ครวญและเตรียมความพร้อมในอัตราเร่งด่วน เพราะความหลงว่าตัวเองเหนือกว่าและเป็นอนาคตนั้น อาจกลายเป็นกับดักตัวเราเองได้ทันที หากปราศจากแผนพัฒนาประชาธิปไตยที่จับต้องได้และเป็นรูปธรรม
ผมจึงขอเสนอต่อท่านทั้งหลายว่า เมื่อฝ่ายประชาธิปไตยของเรามาชุมนุมร่วมกันอีกครั้งในเร็ววันนี้ เราไม่ควรพูดซ้ำเรื่อง “หยุดทำลายประชาธิปไตย” อีกแล้ว เพราะสังคมไทยเข้าใจและรู้เท่าทันพอแล้ว สิ่งที่เราควรชูเป็นธงต่อไปคือการสร้างประชาธิปไตยอย่างเป็นรูปธรรม ใครอยากเสนอมาตรการใดๆ ก็ควรใช้เวทีนั้นนำเสนอได้เลย เพียงขอให้ผ่านหัวคิดของหลายๆ คนหน่อย อย่าคิดอยู่คนเดียวจนสิ้นคิด หรือกลั่นกรองด้วยระบบพรรคพวกเพราะจะไม่เพียงพอ ผมเชื่อว่า ถึงเวลาแล้วที่จะเตรียมประเทศไทยก่อนที่ปัญหาการเมืองและสงครามเปลี่ยนแผ่นดินจะถาโถมเข้ามาและกำหนดทางเดินให้เรา อย่าลืมว่าโมเดลของพรรคไทยรักไทยนั้น นำฐานคิดทั้งแบบสังคมนิยมประชาธิปไตยและทุนนิยมก้าวหน้ามาผสมผสานกัน นโยบายอย่าง ๓๐ บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง การปราบผู้มีอิทธิพลและธุรกิจใต้ดินทั้งหลาย หนึ่งตำบล-หนึ่งผลิตภัณฑ์ หนึ่งตำบล-หนึ่งทุน แปลงสินทรัพย์เป็นทุน เป็นต้น จึงเกิดขึ้นได้และกลายเป็นฐานรองรับของฝ่ายประชาธิปไตยมาจนถึงปัจจุบัน
มาตรการเสริมสร้างสังคมประชาธิปไตยนั้นมีมากมายนัก ผมไม่อาจยกมาไว้ตรงนี้ได้ถ้วนทั่ว แต่ขอให้ผู้มีอำนาจจัดเวทีเปิดโอกาสให้สายงานต่างๆ เหล่านี้ได้นำเสนอแนวคิดของตนเองบ้าง นั่นคือ:
๑. มวลชนสาย นปช.
๒. มวลชนสายพรรคไทยรักไทย
๓. รัฐบาลเพื่อไทยและแกนนำในระบบราชการ
๔. กลุ่มมวลชนและกลุ่มพลังอิสระที่ส่งเสริมประชาธิปไตย
๕. ผู้ประกอบการ SMEs ที่มีแนวคิดสังคมนิยมประชาธิปไตย
๖. มวลชนจัดตั้งสมัย “เกือบชนะ” (ก่อนเกิดนโยบาย ๖๖/๒๓)
๗. มวลชนประชาธิปไตยทั่วโลก (ทั้งไทยและต่างประเทศ)
แล้วเนื้อหาสาระบนเวทีจะสมคุณค่าของการเรียกร้องประชาธิปไตยในปัจจุบัน เรื่องสนุกสนานเฮฮาเพื่อผ่อนอารมณ์ก็ทำกันต่อไปเถิดครับ สมองคนเรามีทั้งข้างเหตุผลและอารมณ์ เติมอาหารสมองทั้งสองฝั่งถือเป็นเรื่องที่ดีและจำเป็น แต่กรุณาอย่าลืมและช่วยกันเตือนว่า การเรียกร้องประชาธิปไตยโดยบอกว่าฝ่ายเขาเลวอย่างไรนั้นไม่พอ ต้องบอกด้วยว่า ฝ่ายเราต้องทำอะไรต่อไปอีก เพื่อให้ฝันอย่างมนุษย์ของพวกเราเป็นจริงได้ในวันหนึ่ง ซึ่งอาจจะไม่ต้องคอยนานนักแล้ว.
ที่มา: http://bit.ly/1haMHXm
Prenumerera på:
Kommentarer till inlägget (Atom)
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar