"ต่างกรรมต่างวาระ" เหตุเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ซะตากรรมมีจุดจบแบบพิเศษไม่ธรรมดาแบบเดียวกันคือ."ตายอย่างไม่มีการสั่งลาใดๆ".

ด่วน..ใครฆ่าเขา? ความจริงคืออะไร? ตายกระทันหัน สาเหตุ "กระดูกสันหลังส่วนอกหักหลายชิ้นเนื่องจากตกจากที่สูง" เหยื่อ"ยุคดำมืด " อันป่าเถื่อนโหดเหี้ยมอำมหิตของระบอบอำมาตย์ทรราชราชาธิปไตย ช่วยคืนความยุติธรรมให้เขาด้วยอย่าปล่อยให้เขาตายอย่างคลุมเครือ ขอไว้อาลัยและแสดงความเสียใจมายังครอบครัวนายตำรวจผู้จากไป....
-ไปเจอมา.....ภาพปริศนา???




 (ตำรวจกระโดดตึกตายในค่ายทหาร หรือ ตำรวจถูกจับโยนลงมาในค่ายทหาร ???หลังถูกควบคุมตัวไปคุมวินัยในค่ายทหาร ค่ายธนะรัตน์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตอนนี้ศพอยู่ ร.พ.ทหาร )
 -อดีต ผกก.1กองปราบตายกระทันหัน หลังถูกเด้งฟ้าผ่าพร้อม ผบช.ก. เผยใบมรณะบัตร ระบุชัดช่วงตีหนึ่ง วันที่ 20 พ.ย.57 สิ้นใจที่ รพ.พระมงกุลเกล้า สาเหตุ "กระดูกสันหลังส่วนอกหักหลายชิ้นเนื่องจากตกจากที่สูง"

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราwww.isranews.org รายงานว่า ได้รับการยืนยันข้อมูลว่า เมื่อเวลา 01.32 น. วันที่ 20 พฤศจิกายน 2557 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ อดีตผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม (ผบก.1 ป.) ที่เพิ่งถูกพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ลงนามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 615/2557 ให้โยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) พร้อมกับ พล.ต.ต.ชัยทัต บุญขำ ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) ได้เสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน
โดยในใบมรณบัตร ระบุสาเหตุการตายว่า "กระดูกสันหลังส่วนอกหักหลายชิ้นเนื่องจากตกจากที่สูง" สถานที่เสียชีวิตที่โรงพยาบาลพระมงกุลเกล้า หนังสือรับรองการเสียชีวิต เลขที่ 1085/2557
ข่าวแจ้งว่า ภายหลังจากที่ พล.ต.อ.สมยศ ผบ.ตร. ได้ลงนามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โยกย้ายนายตำรวจระดับสูงจำนวน 4 ราย จำนวน 2 ครั้งติดกัน โดยคำสั่งแรก ที่ 610/2557 ให้ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ รอง ผบช.ก. ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) โดยขาดจากตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ ผบ.ตร.มอบหมายจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง โดยให้รายงานตัวที่ ศปก.ตร.ภายในวันที่ 12 พ.ย.2557 เวลา 10.00 น. และให้ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบช.ก. ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. 2557 เป็นต้นไป
และคำสั่งต่อมา ที่ 615/2557 ให้ พล.ต.ต.ชัยทัต บุญขำ ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) และ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม (ผบก.1 ป.) ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) โดยขาดจากตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ ผบ.ตร.มอบหมายจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย.2557 เป็นต้นไป โดยให้ไปรายงานตัวที่ ศปก.ตร. ภายในวันที่ 14 พ.ย. เวลา 16.00 น.
คนใกล้ชิดและผู้สื่อข่าวไม่สามารถติดต่อนายตำรวจระดับสูงทั้ง 4 ราย มาระยะหนึ่ง จนกระทั่ง พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ เสียชีวิตกะทันหัน ดังกล่าว
ทั้งนี้ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หรือผู้กำกับอั้ม เป็นคนโสด อายุ 41 ปี จบจากนักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่น 49 เตรียมทหารรุ่น 33 เป็นนักสะสมพระเครื่อง ชอบการเล่นหมากรุก ยามว่างจะใช้เวลาพักผ่อนอยู่ที่คอนโดมิเนียม อ่านหนังสือจำพวกนิตยสารและประวัติศาสตร์ทั่วไป
ต่อมา ได้มีการสอบถามไปที่ พระลูกวัดหลักสี่ เขตหลักสี่ กทม. ทราบว่า มีการส่งศพ พ.ต.อ.อัคราวุฒ์ มาจากโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า เมื่อเวลา 13.30 น. เมื่อวานนี้ (21 พ.ย.) โดยมีญาติ และเพื่อนข้าราชการตำรวจ 6-7 นาย มาด้วย จากนั้นก็ได้มีการจัดพิธีกันอย่างเงียบๆ ก่อนจะทำการฌาปนกิจในเวลา 14.00น..
................................................................................
(หมายเหตุ -ด้วยความสงสัยว่า..นายตำรวจใหญ่ขนาดนั้น ไม่เคยทำความดีอะไรเลยหรือ ? ทำไมตั้งศพคืนเดียว..รุ่งขึ้นเผาเลย ทำไมต้องรีบร้อนขนาดนั้น..มันผิดสังเกต ..ยุคมืดอะไรๆก็มืดไปหมด.)
What happen?????-ดูประวัติส่วนตัวเป็นคนดี.มากๆ....ครอบครัวอบอุ่นรักพ่อแม่..มีจิตใจที่ดีงามช่วยเหลือสังคมที่ด้อยโอกาส...

แง้มชีวิตผู้กำกับหนุ่มโสด พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ บูชาหลวงปู่ทิม-เซียนหมากรุก จังหวะบรรยากาศการสนทนาเริ่มมีสีสัน ได้โอกาสล้วงลึกถึงการครองความโสด เจ้าตัวยิ้มพร้อมบอกว่า "ไม่ได้หวงความโสด พอดีแต่ละวันทำงานไม่เป็นเวลา และไม่ค่อยมีเวลา กลัวจะดูแลผู้หญิงไม่ดี ตอนนี้เลยเอาเวลามาดูแลคุณพ่อยงยุทธ หลิมรัตน์ วัย 72 ปี และคุณแม่จันทร์เพ็ญ หลิมรัตน์ วัย 69 ปี ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ หากไม่มีภารกิจจะพาท่านไปกินข้าวนอกบ้าน ผมจะไม่เน้นร้านอาหารประจำ แต่จะไปกินร้านทั่วไป เป็นอาหารพื้นบ้าน เหมือนกับเวลาอยู่บ้านจะมีแม่บ้านคอยทำอาหารง่ายๆ ให้กิน หรือบางสัปดาห์คุณ
พ่อคุณแม่ กลับบ้านที่ จ.สุพรรณบุรี ที่ปลูกสร้างไว้พักผ่อนและดูแลพืชผักสวนครัวที่ปลูกไว้รับประทานเอง หากงามพอกินได้แล้วจะเก็บมาแจกเพื่อนบ้าน หรือบางสัปดาห์จะพากันไปผ่อนคลายรับลมตามชายทะเล "หากไปไหนมาไหนคนเดียว ผมจะชอบกินอาหารที่แตกต่างคุณพ่อและคุณแม่ และ น.ส.โชติกร หลิมรัตน์ หรือแอ๋ม น้องสาว รับราชการที่ กระทรวงการต่างประเทศ ปัจจุบันอยู่สถานทูตไทยประจำประเทศคาซักสถาน ผมมักจะขับรถไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อร้านโปรด มีร้านที่ ชอบแถวๆ ท่าน้ำสาธุประดิษฐ์และราชวัตร ยิ่งเนื้อเปื่อยยิ่งชอบมาก" ผู้กำกับอั้มเล่า ทำเอาคู่สนทนาแอบน้ำลายสอ อีกกิจกรรมวันว่างที่ผู้กำกับอั้มทำเป็นประจำคือการเข้าวัดทำบุญ สวดมนต์ "จะมีกลุ่มเพื่อนๆ นัดแนะกันไปทำบุญ
ส่วนตัวชอบ เข้าวัดทำบุญอยู่แล้ว เพราะสมัยเด็กบ้านอยู่หน้าวัดปริวาส ถนนพระราม 3 เลยเข้าวัดเป็นประจำ นอกจากนี้ มักจะไปเลี้ยงอาหาร เด็กพิการซ้ำซ้อนและเด็กกำพร้า แต่ระยะหลังไม่ได้ไปเอง จะนำเงินไปร่วมทำบุญมากกว่า เพราะเวลาเข้าร่วมกิจกรรม เห็นเด็กๆ แล้ว รู้สึกสงสาร" นอกจากนี้ กลุ่มเพื่อนสนิทจะรู้กันว่า มีอีกกิจกรรมที่ผู้กำกับอั้มชื่นชอบ จัดว่าเข้าขั้นมีพรสวรรค์ก็ว่าได้คือการเล่นหมากรุก ที่เคยคว้ารางวัลมาแล้ว "ผมชอบเล่นหมากรุกเพราะได้ลับสมอง ตั้งแต่สมัยเด็ก อายุประมาณ 10 ขวบเศษ เห็นเพื่อนบ้านเล่นกัน เลยทดลองเล่นก็รู้สึกชื่นชอบ เพราะเป็นเกมใช้สมอง ใช้ไหวพริบ เป็นลักษณะการวางแผน
จนกระทั่งเข้าเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน เคยแข่งขัน ได้รางวัลเหรียญทอง แต่ปัจจุบันแทบไม่ได้เล่นแล้ว เพราะไม่ค่อยมีเวลา เนื่องจากหมากรุกกว่าจะจบเกมต้องใช้เวลาเยอะ" ส่วนช่วงเวลาชิลชิล ไม่มีโปรแกรมไปไหน ผู้กำกับอั้มจะใช้เวลาพักผ่อนอยู่ที่คอนโดมิเนียม อ่านหนังสือจำพวกนิตยสารและประวัติศาสตร์ทั่วไป พอตกเย็นจะเดินออกกำลังกายยืดเส้นยืดสาย ที่เจ้าตัวพูดติดตลกตบท้ายว่าถนัดกว่าการวิ่งจ๊อกกิ้ง.
------------------------------------------------------
*****จดหมายเขียนไว้ก่อนเสียชีวิต
ผมขอเรียน ข้อเท็จจริงให้ชาวไทยทุกคนได้ทราบ
ที่ผม โดนในวันนี้ เป็นเรื่องของการเอาคนที่จงนักภักดี พี่กิ้ก ที่ผมเคารพรักที่สุด ออกจากตำแหน่ง
หลายๆสิ่ง ก็จะถูกกล่าวหา ไปถึงพี่กิ้ก คนที่ผมรัก
คนที่จงรักภักดีต่อราชวงศ์ ที่สุด
ส่วนตัวผม มีคนโกรธแค้นผมหลายคน นายค้อก
หรือ พลอท จักรภพ ก็โกรธแค้น ที่น้องชายไม่ได้ตำแหน่งในกองปราบ ทั้งที่คนเก่าเค้าทำหน่าที่ดีสุดแล้ว ตัวน้องของเค้าจะเข้ามาหาแต่ผลประโยชน์
ราชเลขา พระบรม โกรธแค้น ที่น้องชายไม่ได้ตำแหน่ง. ซึ่ง น้องชาย ชื่อต่อคนนี้ เป็นคนเลวที่สุด โลภที่สุด สารพัดเลว เค้ารู้กันทั่ว มันโกรธผมว่าทำให้มันไม่ได้ตำแหน่ง. ผมจะไปมีอำนาจอะไร
กตร เค้าไม่ให้มันเป็น มันเป็น รอง ผกก ปีเดียว
ขอเป็น ผกก เอาอะไรคิด มีแต่จะดึงฟ้าต่ำ ดึงฟ้าลงมาให้มัวหมอง ถ้ามันยังอยู่รับรอง ไม่นาน พัง
ผมทำงาน มาสิบกว่าปี ไม่เคยเห็นสมเด็จพระบรมท่านฆ่าคน หรื่อสั่งใครไปฆ่าสักคน
ใครมาถามผม. ผมด่า เคยมีรอง ผบตร คนนึง
ไปทำข้อมูลถวายท่าน ว่ามีผู้หญิงสองคน เขียนกลอนด่าท่าน ไอ้รองนี่ ก็มาให้ออกหมายจับ
สุดท้าย นายกิ้ก กะ รองจุมพล มั่นหมาย. รู้เข้า เพราะผมรายงานว่า. เค้าก้อปมา มาจากคนอื่น
เก็บไว้แค่นั้น สุดท้ายท่านเรียกเข้าเฝ้าท่าน กะพระองค์หญิงศรีรัศมิ์ สอบถามเสร็จ ท่านให้ดอกไม้ปล่อยตัวออกมา นี่ น้ำพระทัยท่าน
ยังมีเรื่องอื่นๆ อีกมากนำ้พระทัยท่าน
เรื่องคนเมาขับรถชนรถพระที่นั่งท่านอีก
หลายสิบล้าน บาทนึง พระองค์ท่าน
ส่วนทหารตอนนี้ มีอำนาจใหญ่สุด ในประเทศ ก็มีทหารบางส่วน ทำข้อมูล ร่วมกับตำรวจเลวๆ อย่างอัครเดช พิมลศรี ผมปนเปสร้างหลักฐานขึ้นมาก็คิดจะเอานายผมลง อ้างกราบทูล ใส่ความ นายผมกะ ผมมีแต่ความจงรีกภักดี. ทำงานมาโดยตลอด
วันนี้ผมจะขอลาทุกคนไป ทุกคนอาจว่าผมขี้ขลาด บริสุทธิ์ จริง ทำไมไม่ต่อสู้ ผมจะสู้อย่างไร. กับคนที่มีอำนาจของรัฐขนาดนี้
พี่ยศ ส่วนตัวท่าน เป็นคนอัธยาศัยดี พี่น้อง เรื่องอื่นไม่รู้
แต่วันนี้. นายผม ไปจับผู้พิพากษาเข้า พี่ยศ ขอไม่ได้
นายกิ้ก ของผม ผมนึกว่าพระ มีแต่ความหวังดีต่อประชาชน มีแต่ความพยายามจะเปลี่ยน ให้ตำรวจเลิกอุ้มฆ่า จับแพะ ทำทุกวิธีการ ให้ตำรวจเปลี่ยน
แต่ไม่สามารถอยู่ได้
ใครจะเชื่อ ผบช ก ที่มีอำนาจแต่งตั้งในมือ ไม่เคยถามผมซักคำ ว่าตำแหน่งมีเท่ารัย ไม่เคยขายตำแหน่ง ส่วนใครเข้ามา จะเอาตังมาให้ท่าน
ท่านก็เอา ไปทำโครงการต่างๆ เพื่อประชาชน
ที่เหลือเอาไปช่วย ปชช ที่ลำบาก ไอ้ทีท่านจะเหลือไปส่วนตัว ผมเชื่อว่า ท่านไว้ช่วยคนจนกว่าตัวพี่กิ้ก จะตาย แต่คงไม่ได้แล้ว ผโดนจับแล้ว
วันนี้ผมบอกกับท่าน ว่า ผมไม่เคยเรียกร้องในการแต่งตั้ง แม้แต่บาทเดียว บอกท่านว่า เคยมีคนจะเสนอให้ 5 แสน ล้านบาท ของตำแหน่งหลัก ที่มีผลประโยชน์ ผมไม่ให้ จากที่เคยจะให้จำแหน่งหลัก ผมให้ ตำแหน่งอำนวยการ
มีคนบอก ขอผู้กำกับการ อำนวยการก็ได้ สามล้านก็ยอม ผมไล่ไป
วันนี้ ท่านบอก ผมว่า มีคนเคยมาพูดเอ็ง รวยเป็นพันล้าน พี่ด่ามันไป พี่บอก ขนาดนั้นเลยหรือวะ
พี่ไม่เคยเชื่อ พี่เชื่อใจเอ็ง ผมมีความสุขมากวันนี้ที่ได้ยินจากปากท่าน ท่านไม่เคยพูดไม่เคยถามเลย
ท่านบอก เราเลือกคนมาทำงานได้ดีแล้ว ดีมากๆด้วย เราทำงานกันเพื่อราชวงศ์ ประเทศชาติ
เวบหมิ่นต่างๆ คนที่สร้างความเสียหายกับราชวงศ์
ทำมาตลอด กองทัพบก ให้นายผม จัดคนเข้าไปอยู่ ศปก ทบ จัดชุด ทำไอโอ กับคนหมิ่น อันนี้ดี ยอมรับ กองทัพบก ทำมานานแล้ว ผมไดร่วมงานมาหลายปี
ผมบอกพ่อแม่ว่า ผมรักท่านมาก
วันนี้ ผบ สมยศ เรียกผม กะนายเข้าพบ สี่โมงเย็น
ผมรู้เค้าเตรียมล้อกตัว ทำทุกอย่าง นายบอกให้ผมเข้า บอกเค้าอยากทำไรทำไป ใส่ร้าย ติดคุก สุดท้ายโลกก็รู้ความจริง พระพุทธเจ้าท่านเป็นกษัตริษย์ ยังออกมาทนทุกข์ เพื่อจะโปรดสัตว์ชาวโลกให้พ้นทุกข์ แมนเดลา ติดคุกเป็นสิบปี ก็ยังพ้นมาให้โลกได้รู้
ชีวิตนี้ ผมขอลา ผมขอฝากทุกท่าน ว่า พ่อแม่ของผม ไม่ได้ร่ำรวย ท่านก็ขยันทำมาหากิน มาตลอดชีวิต ผมเสียใจที่ไม่สามารถอยู่ดูแลท่านได้
ท่านขายที่ ได้เงินมา40-50 ล้าน อาจไม่เยอะ
แต่ก็น่าทำให้ท่านมีความสุขในบั้นปลาย แต่ผมก็ทำให้ท่านเสียใจ มาเจอเรื่องแบบนี้
แต่ผมก็กราบขอโทษพ่อแม่ ที่จะต้อง ทำให้ท่านลำบาก ถูกกดดัน ถูกสอบ ผมก็ขอให้ทุกท่านช่วยดูให้ผมด้วย อย่าให้อำนาจรัฐ และ พลอทจักรภพ จะเข้ามาทำให้พ่อแม่ ผมต้องลำบากในวันนี้ ทำให้พ่อแม่ ผมอยู่ไม่ได้
ผม อาจใช้ชีวิตชอบดูหนังโป๊ อ่านหนังสือโป๊ ชีวิตส่วนตัวไปคบเพื่อนฟุ้งเฟ้อ ชอบใช้ของแบรนดเนม ก็มีบ้าง ผมว่าผช ทุกกคนก็คงชอบเป็นส่วนใหญ่
แต่ผม ก็แทบไม่เที่ยวเลย ว่าง
อ่านหนังสือ ดูหนัง
ผมไม่เคยสำมะเลเทเมา ล่าสุด ผมก็เคยมีพาผู้หญิง ไปเที่ยว นั่งเรือ ชมทะเลบ้าง
ในสิบปี นี้ ผมแทบไม่ได้ทำอะไร ทำงาน
พาพ่อแม่ไปเที่ยว สิบครั้งจะถึงป่าวไม่รู้
อยากบอกพ่อแม่ว่า ที่ลางานพาพ่อแม่ไหว้พระ วันลอยกระทง ผมมีความสุขมาก
สุดท้ายเค้าคงทำทุกอย่าง
แต่สุดท้ายคงโดนว่าบ้ากาม เพราะมีหนังโป๊ในบ้าน ตลกดี ผมไม่เคยยุ่งยาเสพติด เหล้าไม่กิน บุหรีไม่สูบ ทำงานพร้อม 24 ชม ตื่นสาย นอนดึกบ้าง แต่มีงาน ทำด้วยใจเต็มร้อย
วันนี้ ถ้าถูกจับก่อนยิงตัวตายได้ ถ้าผมหายไป โปรดจงรู้ว่า
นายค้อก หริอ พลอทจักรภพ
หรือราชเลขา หรือ คนในวัง คงเอาตัวผมไป ทำร้าย
พวกนี้ ชอบทำเกินเหตุ ท่านสั่งฝึกวินัย มันจะเอาให้ตาย
มันชอบบวก ดึงฟ้าต่ำ ทำให้ท่านเสียหาย
ก่อนตาย ผมขอแฉ จริงเท็จโปรดใช้วิจารณาญาณคำแถลง ผกก.1 ป นรต.49
..................
ด่วนอดีต ผกก.ป. พ.ต.อ.อัครวุฒิ หลิมรัตน์ ลูกน้องที่เพิ่งถูกย้ายล้างบางของพล.ต.ท.พงศพัฒน์ ฉายาพันธ์ตายปริศนาตกจากที่สูง ตายวันเดียวให้เผาเก็บศพเก็บกระดูกทันที มีสาเหตุมาว่าหลังที่ฟ้าผ่ากองปราบคือโดนวางยาบิ๊กกิ๊กทั้งทีม หลังจากทีมทำงานของ พ.ต.อ.อัครวุฒิไปจับผู้พิพากษาชั่วมากคนหนึ่งที่เป็นเด็กสายของพลเอกเปรม พลเอกเปรมขอให้สมยศ พุ่มพันธ์ม่วงมาขอกับบิ๊กกิ๊ก พงศพัฒน์เป่าคดีให้ แต่ได้รับการปฏิเสธ จากบิ๊กกิ๊ก พงศพัฒน์ ตั้งแต่นั้นมาขบวนการเลื่อยขาเก้าอี้พล.ต.ท.พงศพัฒน์ก็เริ่มมาจากจุดเริ่มต้นตรงนี้ คิดว่าน่าจะดุเดือดเลือดพล่านเป็นการฟาดฟันกันเลือดสาดอีกหลายรอบแน่นอนระหว่างตำรวจสายป๋ากับตำรวจสายเสี่ย เมื่อเอากันถึงตายแบบนี่ http://www.isranews.org/เรื่องเด่…/…/34587-news03_34587.html
----------------------------
ถ้า..คำแถลงการณ์ของ ผกก.1 ป. นรต.49 ที่ถูกเด้งเข้ากรุ พร้อม ผบช.ก. เป็นคนโพสเอง และเป็นความจริง
ผม...ขอคารวะครับ ยิ่งในเรื่อง ถูกกล่าวหาว่า บ้ากาม นั้น ไร้สาระสิ้นดี
ผม..ขอถามกลับว่า จะมีมนุษย์คนใดบ้าง ที่ไม่มีความต้องการ ทางเพศ
แม้แต่ พระพุทธเจ้า ก่อนออกบวช เป็นกษัตริย์ พระองค์ท่าน ก็มีพระมเหสี เหมือนกัน
-------------------------------------------------------
ในวาระสุดท้าย ของ พ.ต.อ.อัครวุฒิ หลิมรัตน์ อายุ 41 ปี อดีต ผกก.1 ป. ที่ถูกเด้งเข้ากรุ สังเวยชีวิต
มนุษย์.... แก่งแย่ง โลภ โกรธ หลง ไม่ให้อภัย
สุดท้าย ถูกยัดเยียด ความตาย ทั้งที่ อนาคต ในชีวิตรับราชการ และชีวิตส่วนตัว ยังอีกยาวไกล
กรรม ต้องชดใช้กรรม
-------------------------------------------------------
ทำไมเงียบเป็นเป่าสาก?? ผกก.กองปราบปราม กระโดดตึกเสียชีวิตในค่ายทหารทำไมไม่เป็นข่าว ทั้งๆที่เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน สรุปกระโดดตึกเสียชีวิตเองในค่ายทหารหรือใครจับโยน?? หมดกันศักดิ์ศรีตำรวจ ตำรวจยุคมืดถูกย่ำยี เพราะทะเหี้ยครองเมือง (ร่วมกันค้นหาความจริง)
RIP
ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของท่าน ผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ.อัครวุฒิ หลิมรัตน์ โดยทิ้งคำสั่งเสียก่อนโดนปลดไว้ก่อนตาย (ท่านคงรู้ชะตาตัวเองแล้ว)
เชิญร่วมงานศพ พ.ต.อ.อัครวุฒิ หลิมรัตน์ ผกก.1 กองปราบปราม ได้ที่วัดหลักสี่ ดอนเมือง
@NADIER

พลอากาศโท จักรภพ ชื่อที่ถูกกล่าวอ้างถึงในจดหมายคือใคร?? เชิญหาคำตอบ แล้วจะได้ความจริง "ขุมทรัพย์" ที่นำมาโชว์เป็นของหัวหน้าผู้บงการนั่นเอง.....ไม่ใช่ของนายตำรวจที่ถูกกล่าวหาพวกเขาเพียงแค่คนเก็บส่วยและรักษาขุมทรัพย์เท่านั้นเอง....
วันนี้    ๕ มีนาคม ๒๕๕๕ ราชกิจจานุเบกษา  ได้เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้นายทหารรับราชการ ประกาศระบุว่า มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้นายทหารรับราชการสนองพระเดชพระคุณ ดังต่อไปนี้
๑. พลอากาศตรี จักรภพ ภูริเดช ผู้บังคับหน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กองกิจการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ สำนักงานฝ่ายเสนาธิการในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ สำนักผู้บัญชาการทหารสูงสุด (อัตราพลอากาศตรี) เป็น นายทหารปฏิบัติการพิเศษ สำนักงานนายทหารปฏิบัติการพิเศษในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ สำนักผู้บัญชาการทหารสูงสุด (อัตราพลอากาศโท)
 .........................................................................