ข่าวสดออนไลน์
"ดญ.6ขวบอยู่กับยายวัย81ตามองไม่เห็น-บ้านเก่าพัง สลดไม่มีข้าวกินต้องหยุดเรียน!! ครูเผยเรียนดีแต่ยากจน-วอนช่วยลูกศิษย์ ขณะรร.ก็ชำรุดรอวันทรุด-หวั่นถูกยุบ เด็กไร้ที่เรียน"
วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 12:33 น.
เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายสุทัศน์ เอี่ยมแสง ผอ.รร.บ้านเด่นวิทยา ต.นาคอเรือ อ.ฮอต จ.เชียงใหม่ แจ้งมาว่า รร.บ้านเด่นวิทยาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 5 พบว่าขณะนี้ รร.ทรุดโทรม นักเรียนส่วนมากยากจน การเปิดภาคเรียนในเดือน ต.ค.นี้ เด็กๆ ที่อยู่ห่างไกลความเจริญได้รับผลกระทบ จากการเรียนการสอนที่ขาดอุปกรณ์การเรียนและห้องเรียนไม่พร้อมในหลายๆ ด้าน
ผอ.รร.บ้านเด่นวิทยา กล่าวว่า ที่โรงเรียนมีเด็กนักเรียนเรียนดีแต่ยากจนตัวอย่างคนแรก พ่อแม่ทิ้งให้อยู่กับยายที่ป่วย คือ ดวงตาเป็นต้อกระจกมองไม่เห็น ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบพบครอบครัวของ ด.ญ.อรภิมล หรือ น้องเน็ต เป็นมูล อายุ 6 ขวบ นักเรียนอนุบาล 2 อยู่บ้านเลขที่ 201 ม.7 อยู่บ้านเด่น ต.นาคอเรือ
น้องเน็ตมีครูประจำชั้น คือ นางสุพัตรา โปธิมอย ข้าราชการครู ซี 8 ดูแลสอนอนุบาล 1-2 มีเด็กชาย 8 คน เด็กหญิง 4 คน เรียนรวมกัน และ 1 ในนั้นมีน้องเน็ต ด.ญ.อรภิมล เป็นมูล เรียนอยู่ด้วย อาศัยในบ้านไม้อยู่ในสภาพเก่า หน้าต่างหลุดไปหลายบาน แยกห้องครัวไว้ด้านหน้า มีสแลนสีดำบังไว้ ใช้เตาถ่าน และใช้ไม้ ไว้หุงหาอาหารแบบชาวบ้าน
ครอบครัวน้องเน็ต มีฐานะยากจนอยู่กับยาย อยู่ด้วยกัน 2 คน คือ นางเดือน สุกใส อายุ 81 ปี ส่วนพ่อกับแม่ของน้องเน็ตแยกกันอยู่ และต่างฝ่ายก็ไปอยู่ต่างจังหวัด น้องเน็ต เป็นเด็กเรียนเก่งและเป็นตัวแทนของโรงเรียนไปแข่งขัน "ฉีกตัดปะ" มาแล้ว ซึ่งพบว่าเด็กเรียนดี แต่ขาดทุนการเรียน บางครั้งไม่มีอาหารรับประทาน ก็ไม่มาโรงเรียน คุณครูก็ไปเยี่ยมหาที่บ้าน พบว่าคุณยายเดือน ไม่สบาย ดวงตาเป็นต้อกระจกมองไม่เห็น รอรับการรักษาอยู่ ซึ่งเป็นอีกครอบครัวที่ต้องการความช่วยเหลือ
ส่วน รร.บ้านเด่นวิทยามีโครงการดีๆ อีกจำนวนมากที่พัฒนาเด็ก เช่นคุณครูได้นำยางรถยนต์ที่ไม่ใช้นำมาทาสีตกแต่งสนามกีฬาให้เกิดพัฒนาทางสมองของเด็ก ทำให้โรงเรียนมีสีสดใส และยังปลูกฝังให้เด็กมีความรับผิดชอบ ให้เด็กเกิดความรักสามัคคีกันในโรงเรียน เช่น โครงการ "พี่พาน้องกลับบ้าน" คือก่อนกลับบ้านได้เข้าแถวเคารพธรงชาติ เมื่อนำธงลงจากยอดเสา จากนั้นรุ่นพี่ก็พาน้องเดินทางกลับบ้าน กลุ่มที่เดินก็พาเดินกลับบ้าน กลุ่มที่ปั่นจักรยานมาก็พาปั่นจักรยานกลับบ้านเป็นต้น
รร.บ้านเด่นวิทยาม เปิดสอนอนุบาล 1-2 ประถมศึกษา 1-6 รวม 8 ชั้นเรียน มีนักเรียนทั้งหมด 32 คน จัดการศึกษาให้บุตรหลานชาวบ้านในท้องถิ่นบ้านเด่น มีข้าราชการครู 2 คน ครูอัตราจ้างและครูจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามาช่วยสอนด้วย 4 คน ให้ครู 1 คนดูแล 2 ชั้นเรียน
“ผมมารับตำแหน่งเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนนั้นไม่มีผู้บริหารกว่า 2 ปี พอผมเข้ามาได้พัฒนาปรับปรุงอาคารเรียนและสนามกีฬา เพื่อไม่ให้โรงเรียนถูกยุบ เพราะเด็กนักเรียนส่วนใหญ่ยากจนไม่สามารถส่งบุตรหลานไปเรียนไกลๆ ได้ จะทำให้เด็กจำนวนมากหมดโอกาสทางการศึกษาทันที”
ผอ.รร.บ้านเด่น กล่าวอีกว่า ตนได้ประสานเพื่อนข้าราชการครูและญาติมิตรขอรับการช่วยเหลือส่งสิ่งของอุปกรณ์การเรียนมาช่วยส่วนหนึ่ง อาคารเรียนทรุดไปครึ่งหลังใช้เงินที่ได้รับบริจาคซ่อมแซมอาคารเรียนและรั้วโรงเรียนและพัฒนาทางสีอุปกรณ์กีฬาในสนาม เพื่อให้โรงเรียนมีชีวิตชีวา แต่ห้องเรียนก็ไม่พอ ต้องแบ่งห้องเรียน 1 ห้อง เป็น 2 ชั้นเรียน ให้ครูผู้สอน 1 คน ต่อ 2 ห้องเรียน ป.1 กับ ป. 2 ให้เรียนด้วยกัน บางครั้งการเรียนการสอนผ่านดาวเทียมพบปัญหาเรื่องเสียง ทำให้เด็กอีกชั้นเรียนไม่สนใจการเรียน พอกั้นห้องก็ทำให้ห้องเรียนแคบอีก ปัญหาไม่จบ แต่ก็ยังทำการเรียนการสอนได้อยู่
นายสุทัศน์ เอี่ยมแสง ผอ.รร.บ้านเด่นวิทยา กล่าวอีกว่า สิ่งที่โรงเรียยนขาด คือ อาคารเรียนยังไม่พอตามจำนวนชั้นเรียน อาคารไม้ในโรงเรียนชำรุดเสียหายหมด มีปลวกขึ้นทั้งหลังกัดกินหมด ต้องดูแลซ่อมแซมต่อเนื่อง รอวันทรุดพังเสียหาย ส่วนคอมพิวเตอร์ไม่มีสอน (ใช้คอมฯโน๊ตบุ๊กของครูนำมาสอนแทน) ระบบน้ำประปาหมู่บ้านหากฝนตก น้ำจะขุ่นดำมีถังขนาดเล็กไว้บรรจุน้ำเท่านั้น ไม่มีแทงค์เก็บน้ำขนาดใหญ่และไม่มีเครื่องกรองน้ำ ส่วนห้องน้ำมีเพียง 3 ห้องเท่านั้น จึงขอผู้ใจบุญช่วยเหลือติดต่อได้ที่เบอร์ 08-9555-5290 ได้ทุกวัน
ผอ.รร.บ้านเด่นวิทยา กล่าวว่า ที่โรงเรียนมีเด็กนักเรียนเรียนดีแต่ยากจนตัวอย่างคนแรก พ่อแม่ทิ้งให้อยู่กับยายที่ป่วย คือ ดวงตาเป็นต้อกระจกมองไม่เห็น ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบพบครอบครัวของ ด.ญ.อรภิมล หรือ น้องเน็ต เป็นมูล อายุ 6 ขวบ นักเรียนอนุบาล 2 อยู่บ้านเลขที่ 201 ม.7 อยู่บ้านเด่น ต.นาคอเรือ
น้องเน็ตมีครูประจำชั้น คือ นางสุพัตรา โปธิมอย ข้าราชการครู ซี 8 ดูแลสอนอนุบาล 1-2 มีเด็กชาย 8 คน เด็กหญิง 4 คน เรียนรวมกัน และ 1 ในนั้นมีน้องเน็ต ด.ญ.อรภิมล เป็นมูล เรียนอยู่ด้วย อาศัยในบ้านไม้อยู่ในสภาพเก่า หน้าต่างหลุดไปหลายบาน แยกห้องครัวไว้ด้านหน้า มีสแลนสีดำบังไว้ ใช้เตาถ่าน และใช้ไม้ ไว้หุงหาอาหารแบบชาวบ้าน
ส่วน รร.บ้านเด่นวิทยามีโครงการดีๆ อีกจำนวนมากที่พัฒนาเด็ก เช่นคุณครูได้นำยางรถยนต์ที่ไม่ใช้นำมาทาสีตกแต่งสนามกีฬาให้เกิดพัฒนาทางสมองของเด็ก ทำให้โรงเรียนมีสีสดใส และยังปลูกฝังให้เด็กมีความรับผิดชอบ ให้เด็กเกิดความรักสามัคคีกันในโรงเรียน เช่น โครงการ "พี่พาน้องกลับบ้าน" คือก่อนกลับบ้านได้เข้าแถวเคารพธรงชาติ เมื่อนำธงลงจากยอดเสา จากนั้นรุ่นพี่ก็พาน้องเดินทางกลับบ้าน กลุ่มที่เดินก็พาเดินกลับบ้าน กลุ่มที่ปั่นจักรยานมาก็พาปั่นจักรยานกลับบ้านเป็นต้น
รร.บ้านเด่นวิทยาม เปิดสอนอนุบาล 1-2 ประถมศึกษา 1-6 รวม 8 ชั้นเรียน มีนักเรียนทั้งหมด 32 คน จัดการศึกษาให้บุตรหลานชาวบ้านในท้องถิ่นบ้านเด่น มีข้าราชการครู 2 คน ครูอัตราจ้างและครูจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามาช่วยสอนด้วย 4 คน ให้ครู 1 คนดูแล 2 ชั้นเรียน
ผอ.รร.บ้านเด่น กล่าวอีกว่า ตนได้ประสานเพื่อนข้าราชการครูและญาติมิตรขอรับการช่วยเหลือส่งสิ่งของอุปกรณ์การเรียนมาช่วยส่วนหนึ่ง อาคารเรียนทรุดไปครึ่งหลังใช้เงินที่ได้รับบริจาคซ่อมแซมอาคารเรียนและรั้วโรงเรียนและพัฒนาทางสีอุปกรณ์กีฬาในสนาม เพื่อให้โรงเรียนมีชีวิตชีวา แต่ห้องเรียนก็ไม่พอ ต้องแบ่งห้องเรียน 1 ห้อง เป็น 2 ชั้นเรียน ให้ครูผู้สอน 1 คน ต่อ 2 ห้องเรียน ป.1 กับ ป. 2 ให้เรียนด้วยกัน บางครั้งการเรียนการสอนผ่านดาวเทียมพบปัญหาเรื่องเสียง ทำให้เด็กอีกชั้นเรียนไม่สนใจการเรียน พอกั้นห้องก็ทำให้ห้องเรียนแคบอีก ปัญหาไม่จบ แต่ก็ยังทำการเรียนการสอนได้อยู่
นายสุทัศน์ เอี่ยมแสง ผอ.รร.บ้านเด่นวิทยา กล่าวอีกว่า สิ่งที่โรงเรียยนขาด คือ อาคารเรียนยังไม่พอตามจำนวนชั้นเรียน อาคารไม้ในโรงเรียนชำรุดเสียหายหมด มีปลวกขึ้นทั้งหลังกัดกินหมด ต้องดูแลซ่อมแซมต่อเนื่อง รอวันทรุดพังเสียหาย ส่วนคอมพิวเตอร์ไม่มีสอน (ใช้คอมฯโน๊ตบุ๊กของครูนำมาสอนแทน) ระบบน้ำประปาหมู่บ้านหากฝนตก น้ำจะขุ่นดำมีถังขนาดเล็กไว้บรรจุน้ำเท่านั้น ไม่มีแทงค์เก็บน้ำขนาดใหญ่และไม่มีเครื่องกรองน้ำ ส่วนห้องน้ำมีเพียง 3 ห้องเท่านั้น จึงขอผู้ใจบุญช่วยเหลือติดต่อได้ที่เบอร์ 08-9555-5290 ได้ทุกวัน
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar