torsdag 29 oktober 2015

คสช. "หัวเลี้ยวหัวต่อ" แค่เสื้อก็สะดุ้ง?

ThaiE - News


คลิก-แค่ใส่เสื้อแดงวันอาทิตย์ ก็จะปิดประเทศซะแล้ว?


 


แค่ใส่เสื้อแดงวันอาทิตย์ ก็จะปิดประเทศซะแล้ว?

แค่มีคนนัดใส่เสื้อแดง ทหารก็เต้นแร้ง สะดุ้งจนเรือนไหว ออกมาปรามออกมาขู่นั่นขู่นี่ ทั้งที่รู้ว่าห้ามไม่ได้ แล้วจะพูดทำไม ปิดปากเสียแต่แรกก็ไม่มีอะไร บอกใครอยากใส่ก็ใส่ไป คนทั่วไปเขาใส่เสื้อแดงตั้งเยอะไม่ได้แปลว่าจะเชียร์ยิ่งลักษณ์กันหมด

แต่นี่มัน "กลัวประชาชน" ไงครับ เลยทำให้เรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ ทำให้ความหมายของการใส่เสื้อแดงวันอาทิตย์นี้เปลี่ยนไป คือไม่ใช่ใส่ให้ "อีปู" แต่ใส่เพื่อบอกว่า "กูไม่กลัวมึง" กลายเป็นเรื่องสิทธิเสรี ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มีอย่างที่ไหน แค่เสื้อก็จะบังคับว่าใส่สีนั้นสีนี้ไม่ได้

คนที่ห้ามประชาชนใส่เสื้อแดงได้ มีแต่ควาย!!! (เพราะมันจะขวิดเอา 555)
Atukkit Sawangsuk


ooo

คลิกอ่าน-แค่เสื้อก็สะดุ้ง? คอลัมน์ ใบตองแห้ง

ที่มา ข่าวสดออนไลน์
วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ไม่รู้ใครในโลกออนไลน์ชักชวนใส่เสื้อแดงให้กำลังใจอดีตนายกฯปู วันอาทิตย์ที่ 1 พ.ย. ไม่รู้จริงๆ เพราะไม่ได้สนใจ จนโฆษกไก่อูออกมาติง "เหมาะสมหรือไม่" ตามด้วยรองนายกฯ "ขอร้อง" อย่าใส่เลย แต่ถ้านัดกันใส่คนที่ทำและเป็นแกนนำต้องรับผิดชอบ เพราะมี "กฎหมาย" อยู่

กฎหมายฉบับไหนไม่ทราบห้ามใส่เสื้อสีแดงวันอาทิตย์ วิถีชีวิตคนไทย ซึ่งอันที่จริงใส่วันไหนก็ไม่ผิด ถ้าใส่เฉยๆ ไม่ได้ม็อบปิดถนนปิดสถานที่ราชการ ต่อให้นัดกันใส่เสื้อแดงไปเที่ยวห้าง ไปดูหนัง ไปทอดกฐิน ฯลฯ ก็ไม่ผิดตรงไหน เว้นแต่จะใช้ ม.44 ออกคำสั่งคสช.เป็นกฎหมาย ห้ามคนไทย 70 ล้านคนใส่เสื้อแดงวันที่ 1 พ.ย. ซึ่งท่านก็รู้ว่า "เกินไป"

พูดอย่างนี้ไม่ได้ชวนใส่เสื้อแดง "ท้าทาย" แต่จะบอกว่าผู้มีอำนาจต่างหากทำให้การใส่เสื้อแดงวันอาทิตย์ "จุดติด" จนเป็น "ประเด็นท้าทาย" เพราะถ้าทำเฉยเสีย บอกไม่เห็นเป็นไร ชาวบ้านทั่วไปก็ใส่ไม่เกี่ยวอะไรกับยิ่งลักษณ์ ฯลฯ กระแสก็คงซาไป

แต่พอพวกท่านพูดอย่างนี้ พอมีข่าวทหารเรียกแกนนำเข้าค่าย พอนายกฯ ขึงขัง อยากใส่ก็ใส่ไป แต่มีเรื่องเมื่อไหร่จับติดคุกหมด ความหมายของการใส่เสื้อแดงวันที่ 1 ก็เปลี่ยนไป ตอนนี้ไม่ใช่ใส่เพื่อให้กำลังใจยิ่งลักษณ์แล้ว แต่กลายเป็น "สิทธิเสรีและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์"

ในเรื่องเล็กๆ เท่านั้นเองนะครับ เรื่องเล็กๆ แค่ใส่เสื้อแดงวันอาทิตย์ สิทธิเสรีในการแต่งกาย ใครอยากใส่สีไหนก็ย่อมได้ แต่ทำไมยุคนี้สมัยนี้ "รัฏฐาธิปัตย์" ปรามไม่อยากให้ใส่ บอกไม่ให้ชุมนุมไม่ให้ต่อต้านยังทนไหว

พูดภาษาวัยรุ่นคือ ใครเคยใส่เสื้อแดงทุกอาทิตย์ ถ้าวันที่ 1 ไม่กล้าใส่ก็จะอึดอัดคับข้อง เพื่อนล้อแย่เลย "กลัวใช่ไหมล่ะ กลัวจนหัวหด" (ต้องแก้ตัวว่าวันนี้จะไปเที่ยวท้องนา กลัวควายขวิด)

เห็นไหมว่ามันเลยเถิดไปแล้ว ไปทำให้คนเกิดแรงฮึด ทั้งที่ปล่อยวางเสียบ้างก็ได้

อ้าวแต่นี่ท่านก็สั่งกระทรวงศึกษาฯไปดูอาจารย์ที่พูดเชิงต่อต้าน ว่าสอนให้คนขัดแย้ง สังคมก็ไปไม่ได้ ต้องสอนให้เคารพกฎหมาย

"กฎหมาย" อีกแล้ว แต่วันเดียวกันท่านก็บอกว่าท่านเป็นรัฏฐาธิปัตย์ห้ามขัดคำสั่ง คสช.ซึ่งถือเป็น "กฎหมาย"

ผู้นำประเทศกำลังเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า เข้าใจว่าใครเห็นด้วยก็ต้องเห็นด้วยกับท่านทุกอย่าง ใครเห็นต่างก็ไปด้วยกันไม่ได้ ถ้าคนไทยเชื่อว่าท่านเป็นคนดีคนซื่อ ตั้งใจทำเพื่อชาติบ้านเมือง ก็อย่าเพิ่งมีประชาธิปไตย และประชาธิปไตยต้องเป็นอย่างที่ท่านกำหนดไว้คือ สามัคคี ไม่คิดต่าง ค่านิยม 12 ประการ อ่านหนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทย (พร้อมลายเซ็น)

ประชาธิปไตยไม่ใช่โรงเรียนทหารนะครับ จะได้สอนคนไม่ให้คิดต่าง

ทหารรักชาติบ้านเมือง ไม่เถียง แต่ประชาชนก็รักชาติเหมือนกัน ความแตกต่างคือทหารไม่เข้าใจความเห็นต่าง เห็นเป็นอันตราย ต้อง "ปรับทัศนคติ" ให้คิดเหมือนกัน ไม่เข้าใจว่าแม้แต่คนเห็นต่าง ที่จริงก็เห็นต่างๆๆๆ กันไปอีก

อย่างเรื่องเสื้อแดงวัน อาทิตย์ ถ้าใส่ ก็ไม่ได้แปลว่าทุกคนเชียร์ยิ่งลักษณ์-ทักษิณ เพียงแต่บางคนอาจเห็นว่า "ไม่ยุติธรรม" ทั้งที่ไม่เห็นด้วยกับจำนำข้าว บางคนเพียงแต่ไม่เห็นด้วยกับรัฐประหาร ทั้งที่เขาไม่ได้มองทหารแง่ร้าย แค่ไม่ชอบใจไม่มีเสรีภาพ หรือบางคนก็ถูกกระทบ "ต่อมศักดิ์ศรี" อย่างน้อยต้องใส่ไปเดินปากซอยซัก 10 นาที

หรือคนที่ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยเลยแต่เคยใส่ เสื้อสีแดงเป็นปกติ อาทิตย์นี้ไม่กล้าใส่ คงก่นในใจอยู่เหมือนกัน

รัฐบาลคสช. อยู่ในช่วง "หัวเลี้ยวหัวต่อ" ที่คิดว่าต้องกระชับอำนาจ ต้องเร่งจัดการปัญหาต่างๆ ทั้งที่ไม่อยู่ในสถานะ "ชอบธรรม" ประเด็นอ่อนไหวคือศิลปะในการจัดการคนเห็นต่าง สะดุ้งกับเรื่องนั้นเรื่องนี้ ไม่เปิดพื้นที่ปล่อยวาง ก็น่ากังวล

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar