lördag 5 september 2020

Free อานนท์ : หากไม่สู้วันนี้อย่าหมายนึก วันข้างหน้าจักผนึกคนนับแสน

 

Free อานนท์ : หากไม่สู้วันนี้อย่าหมายนึก วันข้างหน้าจักผนึกคนนับแสน + “ทำไมต้องมาชุมนุม” ฟังเสียงจาก “ทนายอานนท์” ในวันไร้อิสรภาพ… (The Reporters)


ภาพจาก Pensupa Sukkata
...ประเวศ ประภานุกูล
16h ·

บอกก่อนว่าผมไม่เห็นคำสั่งศาลแบบเต็มๆในเคสอานนท์และไมค์ ข้อเขียนนี้เป็นการวิเคราะห์จากข่าว โดยใช้หลักกฎหมายทั่วไป
หลักกฎหมายในการดำเนินคดีอาญามีว่า...จำเลยทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าได้กระทำความผิด
ดังนั้น....ก่อนมีคำพิพากษาถึงที่สุดจะปฏิบัติต่อจำเลยเฉกเช่นผู้กระทำความผิดแล้วไม่ได้
เคสของอานนท์และไมค์ เป็นเพียงชั้นสอบสวนของพนักงานสอบสวน(ตำรวจ) ซึ่งยังไม่มีหลักฐานยืนยันการกระทำความผิด แน่นอนว่าหากมีหลักฐานครบถ้วน ตำรวจย่อมส่งสำนวนให้อัยการยื่นฟ้องเป็นคดีอาญาต่อศาลได้แล้ว
การที่ตำรวจเพียงแต่นำตัวอานนท์และไมค์ไปฝากขังต่อศาลอาญา จึงบ่งบอกชัดแจ้งว่า....ตำรวจยังไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะยื่นฟ้องบุคคลทั้งสอง
การฝากขังต่อศาลนี้ เป็นขั้นตอนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา อันเป็นบทบัญญัติกฎหมายที่ตัดสิทธิของประชาชน การใช้กฎหมายดังกล่าวจึงต้องตีความเคร่งครัดและใช้อย่างจำกัดขอบเขต ข้อสำคัญ จะต้องใช้ควบคู่กับบทบัญญัติในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเรื่อง ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยในระหว่างพิจารณาคดี นั่นคือ จะต้องยึดเป็นหลักว่า ศาลจะต้องปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยในระหว่างพิจารณาคดี...ทุกคดี เว้นแต่จะมีเหตุตามที่ระบุในตัวบท
ในเคสอานนท์และไมค์ เริ่มต้นจากศาลให้ประตัวชั่วคราวโดยตั้งวงเงินประกันตัวที่คนละ 100,000 บาท พร้อมเงื่อนไข "ห้ามกระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาซ้ำอีก"
ประเด็นตามเงื่อนไขของศาลคือ อะไรคือการ "กระทำความผิด" ต้องย้อนกลับไปหลักพื้นฐานทั่วไปที่ว่า...จำเลย(หรือผู้ต้องหา)ทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิด....ในชั้นนี้ทั้งอานนท์และไมค์ จึงยังไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา
ประเด็นที่สอง "กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาอีก" ความหมายในถ้อยคำนี้ คือ หากมีการขึ้นปราศรัยบนเวที ก็เป็นการ "กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาอีก"
ขอย้ำอีกครั้ง คดีของอานนท์และไมค์ ยังไม่ได้มีการพิสูจน์ความผิด ยังไม่ได้ถูกฟ้องเป็นคดีอาญาต่อศาลด้วยซ้ำ แต่ศาลได้ปฏิบัติต่อคนทั้งสองเฉกเช่นคนที่ถูกพิพากษาว่ากระทำความผิดแล้ว ด้วยการสั่งขังบุคคลทั้งสอง
การสั่งขังบุคคลทั้งสองก่อนมีการฟ้องคดีเช่นนี้ ไม่เพียงเป็นการปฏิบัติต่อบุคคลทั้งสองเฉกเช่นผู้กระทำความผิดแล้วเท่านั้น การกำหนดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวเช่นนี้ ยังเป็นการ "พิพากษาคดีล่วงหน้า" ว่าหากมีกการกระทำแบบเดียวกับที่ถูกกล่าวหาในการฝากขัง ก็เป็นการ "กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา" แล้ว
ถึงเวลารื้อระบบศาลไทยแล้วหรือยัง....ผู้พิพากษาต้องมาจากการเลือกตั้ง และใช้ลูกขุนในการพิพากษาคดี

https://www.facebook.com/Prawais/posts/3368375956554501

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar