ศาลอาญาจำกัดจำนวนผู้เข้าฟังการพิจารณาคดีและนำแผงเหล็กมากั้นรอบอาคาร แม้ก่อนหน้านี้นายอานนท์จะทำหนังสือถึงอธิบดีศาลอาญาขอให้พิจารณาคดีโดยเปิดเผย
อานนท์ นำภา: เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังรอบศาลอาญาขณะไต่สวนคำร้องถอนประกัน "อานนท์-ไมค์ ภาณุพงศ์"
ศาลอาญาวางกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ม ป้องกันเหตุไม่สงบและการชุมนุมของประชาชนระหว่างไต่สวนการพิจารณาคำร้องของพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ขอเพิกถอนประกันตัวนายอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชนและนายภาณุพงศ์ จาดนอก แกนนำกลุ่มเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตยในวันนี้ (3 ก.ย.)
นายอานนท์ ทนายความวัย 35 ปี และนายภาณุพงศ์ นักกิจกรรมชาว จ.ระยอง วัย 23 ปี ถูกออกหมายจับและถูกจับกุมเมื่อวันที่ 7 ส.ค. ถูกตั้งข้อหา 8 ข้อหาจากการร่วมชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอกที่ถนนราชดำเนินกลางวันที่ 18 ก.ค. ทั้งสองถูกควบคุมตัวอยู่นานเกือบ 24 ชั่วโมงก่อนที่ศาลจะอนุญาตให้ประกันตัวช่วงบ่ายวันที่ 8 ส.ค.โดยตั้งเงื่อนไขห้ามกระทำการใด ๆ ในลักษณะเดียวกับการกระทำที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้ มิฉะนั้นถือว่าผิดสัญญาประกัน
หลังจากได้รับการปล่อยตัว ทั้งนายอานนท์และนายภาณุพงศ์ยังเดินทางไปร่วมการชุมนุมและขึ้นเวทีปราศรัยวิจารณ์รัฐบาลและเรียกร้องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างต่อเนื่อง เช่น วันรุ่งขึ้นหลังจากได้รับอิสรภาพ นายอานนท์เดินทางไปปราศรัยที่ จ.เชียงใหม่ และขึ้นเวทีปราศรัยที่การชุมนุม "ธรรมศาสตร์จะไม่ทน" ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตในวันที่ 10 ส.ค.
นายอานนท์ยังได้ขึ้นเวทีปราศรัยในการชุมนุมใหญ่ที่จัดโดย "คณะประชาชนปลดแอก" ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมาด้วย
นอกจากนี้ ทั้งสองคนยังถูกออกหมายจับและถูกจับกุมเป็นครั้งที่ 2 ก่อนที่ศาลจะอนุญาตให้ประกันตัว โดยนายอานนท์ถูกจับกุมอีกครั้งในวันที่ 19 ส.ค. ตามหมายจับของ สน.ชนะสงคราม จากการขึ้นปราศรัยเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ที่การชุมนุม "แฮร์รี พอตเตอร์" ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อ 3 ส.ค. และได้รับการประกันตัวในวันรุ่งขึ้น คือวันที่ 20 ส.ค.
ส่วนนายภาณุพงศ์ถูกจับกุมเป็นครั้งที่ 2 ตามหมายจับของ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 24 ส.ค. จากการขึ้นเวทีปราศรัยในการชุมนุม "ธรรมศาสตร์จะไม่ทน" จัดโดยแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมที่ มธ. ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 10 ส.ค.
"จะได้รับอิสรภาพอีกครั้งหรือไม่"
ศาลเริ่มไต่สวนคำร้องขอถอนประกันผู้ต้องหาทั้งสองคนเมื่อเวลา 09.00 น. โดยแยกไต่สวนคนละห้อง อนุญาตให้เฉพาะคู่ความ คือ ตำรวจ ทนายความและผู้ต้องหาเข้ารับฟังในห้องพิจารณาคดี และจำกัดจำนวนผู้ติดตาม ผู้สังเกตการณ์และสื่อมวลชนที่จะเข้าฟังการพิจารณาคดีอย่างเคร่งครัด
ก่อนหน้านี้นายอานนท์ได้ทำหนังสือถืออธิบดีอัยการเพื่อขอให้พิจารณาคดีโดยเปิดเผยและจัดห้องพิจารณาให้เพียงพอต่อคู่ความและผู้ร่วมฟังการพิจารณา
นายอานนท์ระบุในจดหมายว่า เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่เกี่ยวกับการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองอันเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและสื่อมวลชนจำนวนมาก จึงขอให้ศาลอาญาพิจารณาคดีของเขาและนายภาณุพงศ์อย่างเปิดเผย เพื่อให้สอดคล้องกับหลักพิจารณาคดีโดยเปิดเผยและเป็นธรรม ซึ่งเป็นสิทธิและหลักการที่ได้รับการรับรองไว้ในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
อย่างไรก็ตาม ประชาสัมพันธ์ศาลอาญาได้แจ้งต่อสื่อมวลชนช่วงเช้าวันนี้ว่าได้ตั้งแผงเหล็กกั้นโดยรอบอาคารศาลอาญา และอนุญาตให้ตัวแทนสื่อมวลชนเข้าฟังการพิจารณาคดีของนายอานนท์และนายภาณุพงศ์ห้องละ 2 สำนักข่าวเท่านั้น ส่วนในห้องพิจารณาคดีศาลอนุญาตให้เฉพาะคู่ความแลผู้ติดตามหรือสังเกตการณ์คดีเข้าฟังได้ไม่เกิน 2 คน
ด้านนายภาณุพงศ์ได้โพสต์ข้อความสั้น ๆ ในเฟซบุ๊กเมื่อคืนที่ผ่านมาตั้งคำถามว่า "จะได้รับอิสรภาพอีกครั้งหรือไม่"
ขณะที่โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) ให้ข้อมูลว่าสิ่งที่เป็นไปได้หลังการไต่สวนครั้งนี้มีอย่างน้อย 3 แนวทางคือ
- ศาลยกคำร้องแบบไม่มีเงื่อนไขและให้สัญญาประกันฉบับเดิมมีผลบังคับใช้ต่อไป
- ศาลยกคำร้องแต่กำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม
- ศาลถอนประกัน ซึ่งผู้ต้องหาสามารถยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ ขออุทธรณ์คำสั่งถอนประกันของศาลชั้นต้น หรือยื่นคำร้องขอประกันตัวฉบับใหม่ได้ ซึ่งหากดำเนินการตามแนวทางแรก ผู้ต้องหาจะถูกนำตัวไปคุมขังในเรือนจำระหว่างอุทธรณ์
นายอานนท์ แถลงว่าจะไม่ยื่นประกันตนเองใหม่ พร้อมโพสต์เฟซบุ๊กว่า "ให้การขังผมในวันนี้ เป็นใบเสร็จของการคุกคามประชาชน"
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar