söndag 30 oktober 2016

อ่าน อย่างมีสติ คิดพิจารณาทบทวน (ขณะรอๆๆ) แล้วจะเกิดปัญญาเข้าใจสถานการณ์ รู้ทันไม่ตกเป็นเหยื่อเกมส์ชั่ว "ศึกช่วงชิงอำนาจ"ของระบบอำมาตย์เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา...

30 ต.ค. 2016 

ผลจาก"การเมืองระบอบอำมาตย์"ที่อำนวยไปเพื่อกลุ่มตนและพวกพ้อง  กำลังสะท้อนผลกรรมสู่ตนด้วย"น้ำผึ้งหยดเดียว" ที่มีฐานมหึมารองรับ   ความเป็นมาและเป็นไปมีเหตุผลอย่างไร เราท่านเชิญร่วมพิจารณา...!!!

ผลการทึ้งซากเป็นครั้งสุดท้ายของ"ระบอบ"อันเกินงาม   นำศรัทธามากลบเกลื่อนความเลวร้ายและทุกข์ของแผ่นดิน  ละเลยการแก้ไข ขาดปัญญาหาทางออก กอบโกยไม่สิ้นสุด...
...
โหมกระหน่ำทึงซากสุดท้ายที่หวังเป็นศูนย์รวมใจเพื่อตัวรอด   แย่งชิงอำนาจภายใน ลืมความทุกข์ของแผ่นดินที่ลุกโชน    ถนนแห่งหายนะแห่งระบอบอำมาตย์ กำลังมุ่งสู่เมืองหลวง
...
ทุกข์ของชาวนา"อันคือทุกข์ของแผ่นดิน"ก่อตัวเป็นพายุหมุน   เกมส์การเมืองในแวดวงศาสนา กลายพันธุ์ไปเป็น"วิกฤตสงฆ์"    กว่าสองปีที่ไม่มีสังฆราชเพียงเพราะสงวนอำนาจไว้ในพวกตน
...
การแย่งชิงมหาสมบัติที่วางหมากมายาวนาน   กลับเป็นผลสู่วินาศล้วนเป็นหายนะที่รอปะทุในอีกไม่นาน รอเพียง"น้ำผึ้งหยดเดียว"   ต่อไปนี้ คือรายละเอียดที่มา และ ที่กำลังไปสู้ความย่อยยับ...!!!


การโหมกระหน่ำสร้างศรัทธา เดิมที่รัฐสร้างขึ้นมาเพื่อกลบกระแส... ทั้งทุจริต ทั้งผิดพลาดจากการบริหาร ทั้งการชิงอำนาจและขุมทรัพย์   หลัง"ดำทั้งแผ่นดิน"เกิดพลังมหาศาลเกินกว่าคาด ยิ่งสร้างยิ่งได้ใจ


วิกฤตสงฆ์นอกจากไม่หาทางแก้ ซ้ำยังก่อปัญหาสะสม   เมื่อดำทั้งแผ่นดินมาผสม"ขมิ้นเหลืองอ่อน"ล้ม"ผู้รับมอบอำนาจ"   สีเขียวอย่างเดียวคงไม่พอในการป้องกัน"มันตรัยปุโรหิตใหญ่"
...
ลืมนึกถึงผลร้ายจากการนำทุกสีมารวมกันกลายเป็น"วันเธอใจเดียว"   พลังดังว่าเป็นพลังยิ่งใหญ่ครั้งเดียวในประเทศไทยที่เคยเกิดขึ้นมา    ฟันธงว่า"มีคนรอใช้สถานการณ์นี้"เพื่อก่อการณ์"พลิกฟ้าพลิกดิน"
...
อีกทั้ง"ทุกข์ของชาวนา"อันเป็นทุกข์ของแผ่นดินที่พร้อมมาประสาน   ราชการที่ซื้อไว้เพื่อหาแนวร่วมมาปกปิดการ"ยึดอำนาจมาไว้กับตน"     เริ่มส่ออาการเกินควบคุมไม่อยู่ในคำสั่ง รอวันรวมตัวกันทั้งแผนดิน...
...

วิกฤตสงฆ์นอกจากไม่หาทางแก้ ซ้ำยังก่อปัญหาสะสม    เมื่อดำทั้งแผ่นดินมาผสม"ขมิ้นเหลืองอ่อน"ล้ม"ผู้รับมอบอำนาจ"  สีเขียวอย่างเดียวคงไม่พอในการป้องกัน"มันตรัยปุโรหิตใหญ่"


การ"ผันตัวออกนอกกำแพงใหญ่"ของมังกรน้อย หมายถึงอะไร..??!!  ท่านคิดว่า"เขา"ไปเปลี่ยนก๊อกน้ำ หรือไปซ่อมแซมบ้านเปลี่ยนวงกบ     หรือว่าไปเสริมหลังคาบ้านหลังใหม่ นั้นท่านประเมิน"เขา"น้อยไปแล้ว
...

การแห่ประจานของชาวนาเรื่อง"ราคาข้าว"  นั้นเป็นเพียงเกรินเรื่องราวที่รอปะทุ   เป็นเพียงหนังตัวอย่างที่รอการระเบิด
...
ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่ามีคนเซตอัป  รอเพียง"น้ำผึ้งหยดเดียว"เท่านั้น  เรื่องเช่นนี้ไม่ต้องใช้สมองคิด ใช้หัวแม่เท้าตรองก็มองออก...


สิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวด คือ...
การรวมตัวกันของทุกสีไม่เคยมีมาก่อน   เดิมที่หวังกลบเกลื่อนด้วย"สร้างศรัทธา"อนิจจากลับเข้าทางบรรดา"เลือดสีน้ำเงิน"
...
ผู้"หวังก่อการณ์"พลิกปฐพี นาทีนี้เฝ้าจับตา   รอเวลาเทน้ำผึ้งหยดที่ว่าลงมากลางวง  เมื่อนั้นความชุลมุนเกินควบคุมก็ตามมา
...
เมื่อวันที่ว่าเกิดความหายนะที่ว่าก็บังเกิด   ต่อให้สิบป๋าก็เอาไม่อยู่คอยให้มอนิเตอร์  "ซอมบี้สีดำ"กำจัดมารหัวขาว"เตียบ่อหลัน"
...
น้ำผึ้งที่ว่ามาจากที่ใด หากมิใช่จากแดนไกล   "เกาทัณฑ์สยบฟ้า"จึงถึงเวลาอวสานแท้จริง
ขอความปลอดภัยจงมีแด่ทุกท่าน สวัสดี...!!!


นิทานเรื่อง "น้ำผึ้งหยดเดียว"...
...
ชายผู้หนึ่งอาศัยอยู่ในป่า  ทุก ๆ วันเขาจะเข้าป่าไปหาน้ำผึ้งมาขายหรือแลกเปลี่ยนกับของอื่น ๆ ที่ภายในหมู่บ้าน  วันนี้เขาโชคดี  เขาสามารถหาน้ำผึ้งจากในป่าได้มากจึงคิดจะนำน้ำผึ้ง    เข้าไปขายในเมืองใหญ่  ครั้นเมื่อชายชาวป่าคนนี้เข้าไปถึงในตัวเมือง  เขาแลเห็นพระราชวังมีความสวยงามมากสิ่งก่อสร้างทั้งหลายล้วนสีทองอร่ามตา  และ ประดับประดาด้วยกระจกแก้วสีต่าง ๆ จึงเดิน   เข้าไปดูใกล้ ๆ ทันใดนั้นเอง  ทหารก็ออกมาตีฆ้องตีกลองร้องป่าวประกาศ  ชายชาวป่าได้ยินเสียงดังก็ตกใจรีบวิ่งหนีกลับบ้าน  ระหว่างที่วิ่งหนีกลับบ้านนั้นเขาได้ทำน้ำผึ้งหยดลงบนพื้นทางเดินหนึ่งหยด  แมลงวันตัวหนึ่งได้กลิ่นหอมหวานของน้ำผึ้งก็บินมาตอม  แมงมุมตัวหนึ่งเห็นแมลงวันก็ย่องเข้าไปจะจับกิน  จิ้งจกตัวหนึ่งมาเห็นแมงมุมก็ย่องเข้าไปจะจับแมงมุม  แมวตัวหนึ่งเห็นจิ้งจกก็ค่อย ๆ ย่องเข้าไปหมายจะจับจิ้งจกกิน  พอดีขณะนั้นสุนัขของพระราชาผ่านมาเห็นแมว  สุนัขก็กระโจนเข้ากัดแมว  เจ้าของแมวเห็นแมวของตนโดนสุนัขกัดก็โกรธ  คว้าไม้มาตีสุนัขของพระราชาจนตาย  ด้วยไม่รู้ว่าเป็นสุนัขของใคร  มหาดเล็กผู้ดูแลสุนัขของพระราชาก็โกรธ  ตรงเข้าตีเจ้าของแมว   พ่อค้าและชาวบ้านเห็นเจ้าของแมวโดนมหาดเล็กตีก็เข้าไปห้าม  แต่พวกมหาดเล็กเข้าใจผิดคิดว่าพวกชาวบ้านจะรุมทำร้ายตนจึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น  แล้วการต่อสู้ก็ขยายวงกว้างออกไป  ทั้งพ่อค้า  มหาดเล็ก  และชาวบ้านเข้าต่อสู้กันเป็นจำนวนมาก  เสียงการต่อสู้ดังสนั่นจนพระราชาออกมาดู  เมื่อชาวบ้านเห็นพระราชาออกมาก็จะเข้าไปร้องทุกข์  แต่พระราชาเข้าใจผิดคิดว่าชาวบ้านถืออาวุธจะมาทำร้ายตนด้วย  จึงสั่งให้ทหารออกสู้ทำให้บาดเจ็บล้มตายเป็นอันมากก่อนที่ทุกฝ่ายจะรู้ความจริง
 
 

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar