fredag 13 november 2015

สอบปมหัวคิว"ราชภักดิ์" เรื่องไม่ยาก ทหารสาวแค่ 7 วัน .?.รู้. จบ.


สอบปมหัวคิว"ราชภักดิ์" บิ๊กหมูสั่ง รู้ใน7วัน-ปลด"คชาชาต" พบใครผิด-แจ้งจับฟันอาญา




คลิกอ่าน-สอบปมหัวคิว"ราชภักดิ์" บิ๊กหมูสั่ง รู้ใน7วัน-ปลด"คชาชาต" พบใครผิด-แจ้งจับฟันอาญา

เผยโฉมที่ตั้ง "มูลนิธิราชภักดิ์" เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์-ทหารยัน เป็นบ้าน "บิ๊กโด่ง" เผยเข้า-ออกยาก มีทหารเฝ้าหน้าบ้านตลอด คาดเป็นบ้านพักช่วงเป็น ผบ.ทบ. กรณี สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบ เมื่อวันที่ 12 พ.ย.2558…
......................................

บทความงอ่านประกอบ :ตอน คนดีต้องมีมูลนิธิ
by เพจกู
#กูปลูกปัญญา‬

ตอน คนดีต้องมีมูลนิธิ
สังเกตกันไหมว่า เหล่าคนดีประเทศนี้เขาจะมีมูลนิธิเป็นของตัวเอง เป็นมูลนิธิเพื่อการกุศล ช่วยเหลือคนยากไร้ในสังคม หรือทำกิจการเพื่อสาธารณประโยชน์ หากเป็นการดำเนินงานที่ตรงไปตรงมาล้วนเป็นการ"ทำดี" ที่น่ายกย่อง แต่หากมูลนิธิเป็นกิจกรรมแอบแฝงบางอย่าง ก็เป็นการ"ทำชั่ว"ของ"คนดี" เกิดคำถามขึ้นมาว่า คนดีนี่"ทำชั่ว"เป็นด้วยหรือ
สมมุตินะ สมมุติว่า กูก็เป็นคนดีมีมูลนิธิเป็นของตัวเองเสียด้วย แต่ไม่รู้จะชื่อมูลนิธิอะไรดี เพราะมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ก็มีแล้ว ของสุรยุทธ์เขา เลยต้องไปสร้างบ้านบนเขายายเที่ยง เพื่อเฝ้าเขาใหญ่ เพราะกลัวมีคนมาลักเขาใหญ่ ส่วนพวกบูรพาพยัคฆ์แบบ ประวิตร ก็มีมูลนิธิป่ารอยต่อ ๕ จังหวัดฯ ครั้นกูจะตั้งมูลนิธิ"ไม้ป่าเดียวกัน" ก็กลัวมูลนิธิ "รัดบุรุษ"เอาตัวไปอยู่ด้วย สรุปกูเลยไม่มีมูลนิธิกับเขาเสียที


กูก็รอว่า พี่ทักษิณให้ 100 ล้านมา กูจะตั้งมูลนิธิ "โกงอย่างพอเพียง"เป็นของตัวเองเสียที พอมีมูลนิธิเป็นของกูแล้ว ด้วยว่ากูเคยมีอำนาจวาสนา เคยฝันว่าได้เป็นนายกรัฐมนตรี แถมละเมอว่า เคยได้เป็น ผบ.ทบ. ผู้คนเข้ามาห้อมล้อมกู ตอนกูละเมอว่า ได้เป็น ผบ.ทบ.พวกที่มันจ่ายคอมมิชชั่นซื้ออาวุธ หรือคอมมิชชั่นสารพัดโครงการคืนความสุข(เอ๊ะ!!โครงการนี้ของกูไม่มีนี่หว่า) ก็ให้พวกที่ได้โครงการ ไปบริจาคให้มูลนิธิ"โกงอย่างพอเพียง"ของกู พวกมันก็ได้หน้า เอาใบเสร็จไปลดภาษี ส่วนกูก็ได้เงิน ส่วนมูลนิธิกูจะเอาเงินไปทำอะไร"มันเรื่องของกู" เพราะ กูเป็นคนสั่งจ่าย ส่วนงบการเงินก็ไม่เคยมีใครเห็น ไม่เคยมีใครตรวจสอบ
 นานๆทีมูลนิธิของ "กู" ก็จะไปมอบโล่ห์ให้พวก"คนดี"ในเครือข่ายทีหนึ่ง พร้อมรางวัลติดปลายนวมนิดหน่อย เพื่อดำรงสถานะมูลนิธิไว้ แถมกูยังได้ติดยี่ห้อ"คนดี"ไม่เสียของเปล่าด้วย
พวกนักธุรกิจมันเห็นกูใหญ่บิ๊กเบิ้มขนาดนี้ เพื่อความสะดวกของการอยู่ประเทศนี้ และ ง่ายในการทำธุรกิจ ก็ต้องวิ่งเข้ามาบริจาคให้มูลนิธิกู เงินทองก็ไหลมาเทมาจนนับไม่หวาดไม่ไหว แต่กูก็เจียดส่วนหนึ่ง ไปบริจาคทำบุญสุนทาน และต้องรูจักเลือกบริจาคให้คนที่มีมูลนิธิ ที่ใหญ่กว่ากูอีก เพื่ออาศัยห้อยโหนเพื่อความปลอดภัยเป็นไม้กันหมาของกู
บางมูลนิธิมีเงินลงเค้าตอนแรก แค่สี่แสน แต่ตอนนี้
มีไม่รู้กี่พันล้าน บริษัท ธนาคาร ร้านค้า หน่วยราชการสนับสนุนเพียบ เพราะมันมีผลต่างตอบแทน เป็นการค้ากำไรที่เกินควรของมูลนิธิ แต่เป็นการจ่ายที่เกินคุ้มสำหรับธุรกิจ

ทีนี้ท่านๆทั้งหลายมาช่วยกูคิดที ว่า กูจะตั้งมูลนิธิอะไรหลังจากได้ 100 ล้านจากพี่แม้ว แต่กูขอสัญญาว่า หลังจากตั้งมูลนิธิแล้ว กูจะ"โกงอย่างพอเพียง"เพราะกูเป็น "คนดี"


คลิกดูเพิ่ม-กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ
อุดมเดช อดีต ผบ.ทบ.ตั้ง มูลนิธิ ราชภักดิ์
เพื่อดูแล และบำรุงรักษา อุทยานราชภักดิ์
และ โครงการอุทยานราชภักดิ์นี้ " มีการโกง "

มูลนิธิ ราชภักดิ์ จดทะเบียนแล้ว ...
เลขทะเบียนลําดับที่ กท ๒๕๘๕
ตั้งแต่วันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๘

มีคณะกรรมการดําเนินงาน ดังรายนามต่อไปนี้
๑ พลเอก อุดมเดช สีตบุตร ประธานกรรมการ
๒ พลเอก สุรเชษฐ ชัยวงศ รองประธานกรรมการ
๓ พลเอก พิสิทธิ์ สิทธิสาร กรรมการ
๔ พลโท สุทัศน์ จารุมณี กรรมการ
๕ พันเอก ชูชาติ สุกใส กรรมการและเหรัญญิก
๖ พันเอก สุชาติ พรมใหม่ กรรมการและเลขานุการ

ลำดับที่ ๑ บอกว่า เงินโกงหัวคิว คืนแล้ว
และทำการบริจาคไปแล้ว ไม่เห็นเป็นไร
มูลค่าน่าจะประมาณ ๒๐ ล้านบาท

ลำดับที่ ๖ สุชาติ พรมใหม่ ยื่นหนังสือลาออกจากราชการแล้ว
โดน ๑๑๒ และน่าจะมีความผิดฐานฉ้อโกงอีกกระทง
ปัจจุบัน ยังไม่สามารถหาตัวพบ ไม่รู้อยู่บ้านใคร

นี่ยังไม่นับว่าเงินส่วนต่างในการจัดสร้างพระรูป
"หายไปไหน" เข้าไว้ด้วยนะ

น่าสงสัยจังว่าเงินโกง ที่บอกว่าบริจาคแล้ว
บริจาคเข้า มูลนิธิราชภักดิ์ หรือไม่

อุดมเดช ต้องตอบคำถาม
กองทัพ ก็ควรต้องตอบเช่นกัน





Inga kommentarer:

Skicka en kommentar