torsdag 10 december 2015

อดีตนายกฯพระราชทานสองสมัย "หัวหน้าใหญ่NGO" เจ้าของฉายาผู้ดีรัตนโกสินทร์กากเดนศักดินาคนหน้าเนื้อใจเสือ แก็งค์พลเอกเปรมเครือข่ายรับใช้ราชสำนัก...



รู้สึกอึดอัด! "อานันท์" เตือน "ประยุทธ์" ย้ำ สังคมสงบแค่ผิวเผิน แต่ไร้อนาคต








นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในงานมอบรางวัล SVN AWARD ของเครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมประจำปี 2557 เมื่อค่ำวันอังคารที่ 16 มิถุนายน 2558 ณ สยามสมาคมฯ ตอนหนึ่งว่าคงไม่ต้องอธิบายว่าทำไมถึงมีการรัฐประหาร ขออย่างเดียวคือยึดมาแล้วต้องทำจริง ทำให้ประเทศไทยไปสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริง
“จะใช้เวลาเท่าไรผมไม่รู้ แต่ถ้ามีผลงานแล้วอย่างอื่นเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย แต่ก็อย่ายืดเวลาให้ตัวเองมากเกินไป”นายอานันท์ กล่าว

นายอานันท์ กล่าวว่า ยังมีเรื่องที่รัฐบาลต้องระมัดระวังอีกหลายอย่าง เช่น ปัญหาคอร์รัปชั่น ซึ่งทุกวันนี้ก็ได้เกิดขึ้นแล้ว และยังไม่ได้แก้อย่างแท้จริงซึ่งจะทำให้ความน่าเชื่อถือของรัฐบาลขาดลงอย่างฉับพลัน ยังไม่รวมถึงการปฏิรูปที่ยังไม่ถึงไหน  นายอานันท์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลต้องใช้โอกาสนี้สร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง เช่น เรื่องการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำ โดยขอบเขตการเปลี่ยนแปลง 3 ประการ ได้แก่ 1.ต้องธำรงไว้ซึ่งความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ 2.ต้องทำให้คนทุกกลุ่มทุกภาคส่วนได้รับประโยชน์ทัดเทียมกัน ให้เขามีส่วนร่วมซึ่งไม่ใช่มีส่วนร่วมที่ปลายเหตุ แต่ต้องให้มาปรึกษาหารือว่าจะทำอะไร และทำเมื่อไร 3.ต้องทำให้สังคมไทยเป็นสังคมที่ปกครองด้วยหลักนิติธรรมหรือ Rule of law ไม่ใช่ปกครองด้วยกฎหมาย หรือ Rule by law เพราะกฎหมายไทยเป็นกฎหมายที่ล้าหลังที่สุด
“ผมไม่ค่อยเป็นห่วงเรื่อง โรดแมปเพราะสามารถยืดหยุ่นได้ แต่รัฐบาลต้องทำให้ประเทศเกิดประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่แหกตาเหมือนที่ผ่านมาๆ มา”นายอานันท์ กล่าว

นายอานันท์ กล่าวว่า เราต้องใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ต่อคนไทย เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส การเลือกตั้งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของประชาธิปไตย แต่ไม่ใช่องค์ประกอบเดียว เช่น กรณีประธานฟีฟ่าเป็นมา 3 สมัย หลายประเทศอยากจะล้มแต่ล้มไม่ได้ เพราะใช้เงินในการเอาชนะ

“รัฐบาลชุดนี้มีความตั้งใจและความพยายามที่ดี แต่หลายที่มีมาตรการออกไปทั้งด้านกฎหมายและการเมือง ทำให้คนจำนวนไม่น้อยพูดไม่ได้ และเริ่มรู้สึกอึดอัดอีกแล้ว ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องจะเสียของหรือไม่ หรือทำไมยังไม่เกิดความปรองดอง แต่ผมคิดว่าเรายังไม่พยายามค้นหาสาเหตุขอความแตกแยกที่แท้จริง” นายอานันท์ กล่าว

นายอานันท์ กล่าวว่า การที่คนส่วนใหญ่ถูกปิดปาก พูดไม่ได้ ชุมนุมไม่ได้ ได้สร้างความอึดอัดขึ้น ขณะที่ความสงบในประเทศยังคงสงบต่อไปแต่เป็นเพียงความผิวเผิน ถ้าสังคมสงบอยู่อย่างนี้ต่อไปก็คงไม่มีอนาคต
"ขณะนี้มีความพยายามทำให้คนพูดไม่ออก พูดไม่ได้ ถือเป็นสังคมปิด เมื่อเป็นสังคมปิดความโปร่งใสก็ไม่มี ธรรมาภิบาลก็หายไป การแสดงความรับผิดก็ไม่มี และองค์ประกอบของประชาธิปไตยก็ไม่มี"นายอานันท์กล่าว



Inga kommentarer:

Skicka en kommentar