กษัตริย์ภูมิพลคือผู้จุดชนวนสงครามกลางเมือง...
ข่าวลับกรองแล้ว
สงครามเทวดาชาวประชาล้มตายมีมายาวนาน ท่านเจ้าคุณพิพิธรองเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์หยิบเรื่องนี้ขึ้นตีกบาลศาลรัฐธรรมนูญโดยยกเรื่องรามเกียร พระราม-ทศกัณฐ์แย่งนางสีดา ทำให้ลิงยักษ์ตายห่ากันทั้งเมือง บอกตรงจักรีวงศ์ใกล้ถึงอวสานด้วยสมบัติมหาศาลรวยติดอันดับหนึ่งของโลกกว่าห้าปีติดต่อกัน กฎหมายกฎมนเทียรบาลอยู่ในมือแท้ๆ พ่อ-แม่ ก็ไม่จัดการว่าจะให้ลูกชายหรือลูกหญิงขึ้นเป็นกษัตริย์รัชการที่10 ดันไปถ่างรูเปิดช่องให้คณะอำมาตย์เฒ่าเจ้าเล่ห์เข้าจัดการโดยเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ ให้สมาชิกรัฐสภาเป็นหนังหน้าไฟประชาไทยจึงตายกันเป็นเบือ
Ø ยิ่ง นานไปวิกฤตไทยก็ใสเหมือนลูกแก้วเมื่ออำมาตย์เปรมถือธงกษัตริย์นำเหล่ามหา อำมาตย์ออกมาโค่นล้มรัฐบาลทักษิณด้วยแนวทางตุลาการปฏิวัติตั้งแต่ปี 2549 เอา ไอ้สนธิลิ้มออกโรงมาจนถึงไอ้เทพเพียงเพราะต้องการใช้พรรคประชาธิปัตย์เป็น หนังหน้าไฟคุมเกมส์แต่งตั้งเทพขาถ่างขึ้นเป็นกษัตริย์รัชการที่10 แต่ไม่สำเร็จสักทีเพราะ ร.9 ก็ยังหวงเก้าอี้ไม่ยอมตาย ส่วนประชาชนก็ไม่ชอบประชาธิปัตย์ แต่ป๋าเปรมก็จะฟัดยิ่งลักษณ์ตามใจชอบ ประชาธิปัตย์ก็ชอบที่จะโหน บ้านเมืองจึงไม่มีทางออกต้องปกครองด้วยระบอบ “อีเทพ+ไอ้ เทือก” ปลุกระดมไพร่จากใต้ออกไล่รัฐบาลชาวบ้านตาสว่างก็ไม่ยอม ยิ่งสู้ก็ยิ่งใส ยิ่งเดินหน้าต่อไปก็ยิ่งชัดว่าลูกกษัตริย์แย่งบัลลังก์กัน ชาวประชารู้ทันว่ากษัตริย์พันธุ์นี้ไม่เคยรับผิดอะไรเลย
Ø เลิกสงสัยกันสักทีว่ามีแต่ป๋าเปรมเล่นเกมส์อยู่คนเดียวโดยปกป้องว่ากษัตริย์ภูมิพลไม่เกี่ยว เพียงแต่สุขภาพวันนี้มันเหี่ยวจนเกี่ยวไม่ไหวแต่ก็พยายามเกี่ยว ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 เม.ย. 57 ให้ ไอ้เปรมแอบหลังพระสมเด็จพระวันรัตอ้างนำพระพุทธรูปที่หล่อขึ้นในโอกาสเฉลิม พระชนพรรษาเข้าเฝ้าถวาย พอเสร็จพิธีก็ให้ไอ้เปรมเข้าเฝ้า และช่วงตั้งแต่ต้นปีมานี้กษัตริย์ภูมิพลก็เพียนพยายามไปป้อนหญ้าวัวที่ โครงการชั่งหัวมันอยู่ไม่ขาด และล่าสุดวันที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินแหกกฎหมายว่าการเลือกตั้งเป็นโมฆะ ก็นัดวันนักข่าวไปทำข่าวเลี้ยงวัวที่โครงการชั่งหัวมันตรงกันพอดี
Ø อ.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ และ ดร.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ไปพูดที่อเมริกาส่งสัญญาณมายังประเทศไทยชัดเจนว่าทางออกของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ภายใต้ม็อบ เทพ+เทือก มีทางเดียวคือต้อง อดทน ทนอด จนอึดถึด บอกตรงคือต้องทนรอจนกษัตริย์ภูมิพลเหี่ยวแห้งจึงจะพ้นวิกฤตได้ แต่ไม่ต้องตกใจวันนี้ใครๆก็รู้ว่ากษัตริย์ภูมิพลมีสมองเหลืออยู่ไม่ครบ 50% จาก แหล่งข่าวสายสืบแดงรอบวังหัวหินรายงาน ขบวนเสด็จของภูมิพลออกเช้าออกเย็นแต่ไม่เห็นไปไหนออกไม่ไปไม่นานไม่ทันถึง ที่หมายก็กลับวังเป็นอยู่อย่างนี้บ่อยๆ ด้วยเหตุความคิดเปลี่ยนไวกลับไปกลับมา
Ø เจ้านายว่าขี้ข้าตามไอ้หมอ พล.ต.เหรียญทอง แน่นหนา เจ้าของโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะแสดงตัวเป็นขี้ข้าอาสาเจ้าตั้งองค์กรไล่ล่าคนเสือแดงประกาศเมื่อกลางเมษาไม่ทันข้ามเดือนกวีไม้หนึ่งก็กลายเป็นศพ ไอ้หมอบ้าสวมบทสอพลอเอาความดีความชอบ คนเสื้อแดงอย่าหลงประเด็นหน่วยงานที่ไล่ล่าทั้งขวัญชัย ไพรพนา โกตี๋ และไม้หนึ่ง ของจริงต้องจับตาที่ พล.อ.ณพล บุญทับ (ชื่อเดิม เรวัต บุญทับ) นายทหารเสือราชินี ผู้อยู่เบื้องหลัง “หน่วย 6080” ที่จัดตั้งขึ้นเมื่อสุรยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2549 รหัส 6080 มาจาก 60 ครองราชย์ 80ปีอายุขัย มีหน้าที่ตั้งศาลเตี้ยจัดการคนที่มันเห็นว่าไม่จงรักภัคดี ซึ่งมีมาก่อนไอ้หมอบ้าเหรียญทองแล้ว
Ø การ ประกาศตัวองค์กรของไอ้เหรียญทองที่จะไล่ล่าฆ่าคนเสื้อแดงโดยเปรียบเหมือนกอง ขยะ ถือว่าเป็นประกายไฟทางประวัติศาสตร์จุดระเบิดสงครามกลางเมืองประเทศไทยหลัง จากที่เกิดการเพาะเชื้อความคิดที่จะไล่ล่าฆ่าคนเสื้อแดงแบบล้างเผ่าพันธุ์ โดยไม่ผ่านกระบวนยุติธรรมมานานแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นการระบาดของเชื้อโรคที่รุนแรงยิ่งกว่าเชื้อโรคเริ่มต้น ม.112 หลักฐานที่ยืนยันข้อสรุปนี้คือการประกาศสนับสนุนแนวทางไอ้เหรียญทอง ของนายชวน หลีกภัย ในงาน สัมมนาของตลกรัฐธรรมนูญที่ไอ้ชวนยืนคู่กับไอ้บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ลูกกระเป๋งคู่ของไอ้เปรม เมื่อ 24 เมษา
Ø งาน สัมมนาตลกรัฐธรรมนูญถือว่าเป็นงานเปิดตัวไอ้บวรศักดิ์ เข้าสู่สนามรบแนวหน้าของอำมาตย์โดยการมอบหมายของไอ้เปรมให้ไปเป็นมือกฎหมาย ขององคมนตรี นายพลากร สุวรรณรัฐ ซึ่ง มีความคุ้นเคยกันมาก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นต่อแต่นี้ไปจะเห็นมือกฎหมาย บวรศักดิ์ คนนี้มากขึ้นอย่างเป็นทางการ ....แค่ภาพนี้ก็อ่านออกได้ว่าไอ้เปรมไม่ได้สำนึกตัวเลยว่ามันกำลังทำเป็นตัว เป็นปฏิปักษ์ต่อองค์รัชทายาทอย่างไม่ลดละ
Ø การปรากฏตัวของไอ้บวรศักดิ์ยิ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่านายยกฯนิ้วกลางคงชื่อ พลากร แน่นอน และเลขาธิการนายกฯก็ชื่อ บวรศักดิ์ แน่นอน ....จะเป็นฝันเปียกหรือฝันแห้งมีความเป็นไปได้ต้องจับตาดูกันวันต่อวัน
Ø สุรชัย แซ่ด่าน อธิการบดีมหาลัยสนามหลวง พยายามทำนายเหตุการณ์การการเมืองอันใกล้ว่าจะเกิดการรัฐประหารเพียงช่วงสั้นๆ เพื่อสถาปนารัชการที่10 ที่เป็นผู้หญิง ด้วยสำนวนการเปรียบเทียบมึนงงว่า คณะรัฐประหารจะรีบเอาข้าวสารที่เตรียมไว้ไปหุงเป็นข้าวสุก เมือเสร็จข้าวสุกนั้นก็ไม่อาจกลับมาเป็นข้าวสารได้อีก ....สปท. ขอไขข่าวบอกตรงหมายถึงคณะรัฐประหารจะรีบจัดตั้งรัฐบาลนายกฯพลากร แล้วนำชื่อพระเทพ(ประธาน กปปส.ตัวจริง) เสนอต่อวุฒิสภาที่มีรักษาการประธานนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สว.แต่งตั้งลูกสมุนเปรมประกาศรับรองให้พระเทพขึ้นเป็น ร.10 เมื่อเป็นข้าวสุกแล้วอำมาตย์และทหารก็ทำหน้าที่คุ้มครองตักข้าวสุกกินสบาย แล้วทุกอย่างก็จบ....แต่จะจบที่การหลั่งเลือด หรือหลั่งหลับเพราะฝันเปียก โปรดติดตาม
Ø แผนของเหล่าอำมาตย์ชั่วที่กำลังสร้างความวิบัติให้กับบ้านเมืองทั้งไล่ล่าฆ่าเสื้อแดง และไล่ล่าฆ่าระบอบกษัตริย์ไม่ใช่จะไม่มีใครสืบรู้ การลอบสังหารขวัญชัย ไล่จับโกตี๋ และฆ่าไม้หนึ่ง พร้อมให้ไอ้ชวนออกมารับรองการกระทำของไอ้เหรียญทอง รวมทั้งเตรียมหุงข้าวสารเป็นข้าวสุก ถูกรับรองข่าวด้วยการประกาศจากทางไกลของทักษิณ ขอให้ผู้นำคนเสื้อแดงระวังตัว และโยกย้าย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง จากนครบาล (คนสนิทพระบรม) เพื่อไปเป็นผบช.ภ.5 ไปคุมพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ..... สปท.อ่านง่ายๆว่า ฝ่ายประชาธิปไตยเตรียมสู้ถึงที่สุดกับความคิดวิปริตของ ไอ้เปรม
Ø เมื่อ 22 เมษา ที่ประชุมองคมนตรี ทั้งองค์เปรมและองค์สิทธิ์ยิ้มแย้มแฮปปี้เรื่องที่ถวิล เปลี่ยนสี ไปนั่งทำตาหยีในตำแหน่งใหญ่สภาความมั่นคงแห่งชาติได้ตามสั่ง สะใจที่มีหอกข้างแคร่ไว้แหย่จักแร้นายกฯยิ่งลักษณ์ ความเดิมตามท้องเรื่อง ถวิล เปลี่ยนสี เป็น เด็กในคาถา พล.อ.อ.สิทธิ์ ที่ฟูมฟักมาช้านานตั้งแต่เมื่อครั้ง พล.อ.อ.สิทธิ์ อยู่สภาความมั่นคง เมื่อรู้ภูมิหลังกันอย่างนี้จะได้ไม่ต้องมีคำถามให้กวนใจว่าทำไม ถวิล เปลี่ยนสี จึงชนะคดีในศาลปกครอง
Ø ศาลรัฐธรรมนูญทำท่าคึกคักจะชักดาบออกมาฟันนายกฯเพื่อเผด็จศึกให้เสร็จสิ้นในเดือนเมษาตามป๋าสั่ง 23 เมษา คือวันตายนายกฯยิ่งลักษณ์ แต่เดิมนายยกฯขอเลื่อนพิจารณาคดีแต่ศาลคณะคนดีก็ไม่ให้ แต่สุดท้ายทำไมจึงให้เลื่อนออกไปอีก 15 วัน เพื่อไขข้อข้องใจต้องจับตาไปที่หนุ่มใหญ่รูปงามนาม ดร.อุกฤต มงคลนาวิน ออกมาดับเครื่องยนต์ยี่ห้อ “อังดรัว” ชนศาลรัฐธรรมนูญโดยเปิดแถงข่าวว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีความชอบธรรมในการตัดสินคดีแล้วเพราะตั้งแต่ออกจากช่องคลอดจนถึงทุกวันนี้นานกว่า 6ปี ยังไม่มีกฎหมายพิจารณารองรับตามรัฐธรรมนูญเล่นเอา ตลกรัฐธรรมนูญหยุดตั้งหลักเปิดทางให้นายกฯยิ่งลักษณ์ รอดตายได้อีก 15 วัน นาม อุกฤต คนนี้ ตลกอัปรีย์พบหน้าทุกทีต้องยกมือไหว้เพราะเป็นอาจารย์สอนพวกมันมาทั้งนั้น แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าที่ไม่น่าจะก้าวข้ามคือเป็นมือกฎหมายสายวังฟ้าชาย ดังนั้นท่านทั้งหลายจึงได้เห็นหนุ่มใหญ่รายนี้ได้ออกรายการทีวีช่องหอยม่วง เป็นประจำไม่เชื่อก็ให้ลองไปถาม จอม เพชรประดับ ดู............ สปท.ขอทำนายอนาคตจะมีชื่อ อุกฤต มงคลนาวิน เป็นองคมนตรีชุดใหม่เมื่อสมเด็จพระบรมขึ้นครองราชย์เป็น ร.10
Ø ม็อบนกหวีดออกเสื้อเขียวข้อความเลข “๙” และ “ประชาชนของพระราชา” ขายราคาถูกตามแผงนางแบบจีนแดงเห็นแล้วเกิดกะสันซื้อไปถ่ายแบบ แต่แปลกดันไปกรีดเสื้อให้ขาดโชว์เลข๙กับนมเต้าใหญ่แชร์ว่อนเนต ฝ่ายเสื้อแดงก็ไม่เบาออกเสื้อรุ่น “เรารักพระบรม” (แต่ยังหานางแบบนมโตใส่ไม่ได้) ออกขายเป็นล้านตัวแข่งขันประชันบารมีกัน.... สปท. จะรอเฝ้าดูว่าพ่อกับลูกใครจะอยู่นานกว่ากัน
Ø สถานการณ์การเมืองไทยอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกมีอาการคลื่นเหียนอยากอาเจียนเวียนหัวทั้งวัน ขอให้ผู้รักประชาธิปไตยทำใจอย่าไปเครียดกับมันเพราะเป็นภาวะผัดแผ่นดิน แต่ เป็นการเปลี่ยนรัชการในยุคตาสว่างยิ่งขัดแย้งนานระบบก็ยิ่งพังประชาชนก็ยิ่ง เห็นปัญหาเวลาของการผัดเปลี่ยนแผนดินกับเวลาใกล้สิ้นแผ่นดิน(ของระบอบ กษัตริย์) จะอยู่ใกล้เคียงกันปัญหาจึงสับสนเกิดความวิตกกังวล ยิ่งวิตกก็ยิ่งปราบ ยิ่งฆ่าก็ยิ่งต่อต้าน ยิ่งละเมิดกฎหมายก็ยิ่งพังทะลายและกลายเป็นสงครามกลางเมืองอันไม่อาจหลีก เลี่ยงได้ แต่ผู้จุดชนวนสงครามคือกษัตริย์เอง
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar