บทความโดย ออกญา เพชรบุรี (เครดิต) จากเวป รัฐล้านนา
เส้นทางค้ายาเสพติดของครอบครัวลุงสมชาย
สาเหตุที่ลุงสมชายป้าสมจิตร ต้องค้ายาเสพติด.....
เส้นทางค้ายาเสพติดของครอบครัวลุงสมชาย
สาเหตุที่ลุงสมชายป้าสมจิตร ต้องค้ายาเสพติด.....
เมื่อเหตุการณ์ผันแปร
ต่อ มาเมื่อรัชกาลที่ 7 สละราชสมบัติ คณะราษฎร ที่ทำการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ในปี 2475 จึงเสนอให้เจ้าสายสว่างวัฒนาคือพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าอานันทมหิดล ที่ไปเรียนอยู่ต่างประเทศให้ กลับมาเป็นกษัตริย์ รัชกาลที่ 8 โดยคณะราษฎรและท่านปรีดี พนมยงค์เห็นว่า พระองค์เจ้าอนันท มหิดล ยังเป็นเด็กและคิดว่าเจ้าสายสว่างวัฒนาไม่มีอิทธิพลในราชสำนักแล้ว คงจะควบคุมให้เป็น กษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญได้ไม่ยาก และคณะราษฎรก็คิดถูกเพราะพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 8 ก็มี แนวคิดที่ต้องการจะเป็นกษัตริย์ที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ แต่ใครจะไปนึกล่ะว่าพระอนุชาภูมิพลที่มีความริษยาอยากเป็นกษัตริย์เสียเอง ได้ลั่นไกสังหารพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 8 บนแท่นพระบรรทม ภายในพระบรมมหาราชวัง ในเช้าของวันที่ 9 มิถุนายน 2489 เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้กษัตริย์ภูมิพล มีความจำเป็นที่ต้องเร่งสร้างฐานอำนาจและบารมีเพื่อเอาไว้ เพื่อปกป้องความผิดของตัวเอง บวกกับความต้องการของพวกเชื้อสายราชวงศ์ ที่ต้องการชิงอำนาจคืนจากคณะราษฎร ทำให้พวกราชวงศ์ต่างพร้อมใจกันปกป้องพระอนุชาภูมิพล และสนับสนุนให้เป็นกษัตริย์องค์ต่อไป โดยโยนความผิดไปให้ นาย ชิต นายบุศย์ นายเฉลียว ว่าเป็นผู้ร่วมฆ่ารัชการที่ 8
สร้างความผิดใหม่เพื่อลบล้างความผิดเก่า
แต่เวลาในขณะนั้น
ครอบครัวของภูมิพลได้ไปอยู่ต่างประเทศเสียนาน
ทำให้อำนาจและบารมีรวมทั้งเงินทองก็ยังมีน้อย และโดยธรรมชาติ
พวกเจ้าก็ทำมาค้าขายไม่เป็นอยู่แล้ว
ดังนั้นการที่จะหาเงินมาเพื่อสร้างฐานอำนาจและบารมี จึงไม่ใช่เรื่องง่าย
จึงทำให้ ณ เวลาในขณะนั้น การค้ายาเสพติด
จึงเป็นทางเลือกเดียวที่พระชนนีศรีสังวาลและกษัตริย์ภูมิพลเห็นว่าจะสามารถ
หาเงินมาได้อย่างง่ายดาย
และโดยบังเอิญว่าหลังจากที่
สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม (พ่อรัชกาลที่ 8-9) ตาย
สมเด็จพระชนนีศรีสังวาล ได้มีผัวใหม่ชาวสวิสเซอร์แลนด์
และได้มาดูแลเป็นพ่อเลี้ยงภูมิพล
และผัวใหม่คนนี้มีบริษัทอยู่ในสวิสเซอร์แลนด์
ซึ่งต่อมาก็เป็นบริษัทที่ค้าขายมอร์ฟีน
โดยส่งให้กับโรงพยาบาลต่างๆในสหรัฐและอีกหลายประเทศ
และนี่คือปฐมบทในการริเริ่มค้ายาเสพติดของกษัตริย์ภูมิพลและครอบครัว
แต่
ก่อนที่จะรู้ว่าครอบครัวกษัตริย์ภูมิพลค้าขายยาเสพติดกันอย่างไร
ผู้เขียนขออธิบายในแหล่งที่มาของยาเสพติด ทั้งในและนอกประเทศดังนี้
แหล่งที่มาของยาเสพติด
ยาเสพติดที่ดีที่สุดของโลกถูกผลิตในรัฐฉาน
ของพม่า ที่มีชายแดนติดกับมณฑลยูนานของจีน พวกนี้ก็คือพวกว้าแดง
โดยใช้เมืองยอนเป็นแหล่งผลิต
โดยพื้นที่นี้เป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์เหมาะสำหรับการปลูกฝิ่น
โดยพวกปลูกฝิ่นจะเรียกตัวเองว่าเป็นพวกโกกั้ง หรือ เจิ้งคัง
เป็นพวกชาวจีนที่อพยพมาตั้งถิ่นฐาน คำว่าโกกั้ง มีความหมายว่า
เป็นดินแดนที่มี 9 ดอย หรือมีดอย 9 ยอด มีแม่น้ำธิงหล่อเลี้ยง
มีหลายชนเผ่าอาศัยอยู่ ชาวโกกั้งประกอบด้วย คนจีน ลีซอ ละหยู (มูเซอร์)
ปะหล่อง อีก้อ (อาข่า อาหนี อยู่ที่เมืองลา) และไต
มาลีวัวปา 4 เส้นทางยาเสพติด
เส้นทางขบวนยาเสพติดที่เรียกว่าเส้นทางมาลีวัวปานั้น คนในพื้นที่จะเรียกอีกสำเนียงหนึ่งว่า ขบวนการมาลีปา
เส้นทางแรก..มาลีวัวปา-วัดพระธาตุผาเงา-ดอยตุง..
ฝิ่น
ดิบ-มอร์ฟีน-เฮโรอีน จากโกกั้งสู่วัดพระธาตุผาเงา-ดอยตุงในเส้นทางนี้
เป็นผลประโยชน์ของสมเด็จพระบรมราชชนนีศรีสังวาล
ปัจจุบันผลประโยชน์ได้ถูกถ่ายโอนไปให้ถั่วปากอ้าจุฬาภรณ์
เส้นทางนี้อยู่ภายใต้การคุ้มครองของกองกำลังตำรวจตระเวนชายแดน
ส่วนสถานที่พักยาเสพติดก่อนลำเลียงเข้าสู่ดอยตุง ก็คือวัดพระธาตุผาเงา
ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
พระที่นี่ส่วนหนึ่งจะถูกส่งไปจากวัดที่วังดูแลคือวัดบวรนิเวศน์วิหาร
และพระที่ส่งไปก็จะเป็นทหารที่มาบวช
โดยจะทำหน้าที่ดูแลยาเสพติดที่ส่งมาจากพวกโกกั้ง
และวัดนี้เป็นวัดที่วังให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
โดยทุกครั้งที่ครอบครัวภูมิพลจะมาที่ดอยตุงทุกคนก็จะแวะมาที่วัดพระธาตุผา
เงานี้ด้วยเสมอ และที่สำคัญ เมียน้อยของ เหวย เซี๊ยกัง
ก็ยังสร้างบ้านอยู่ติดกับวัดพระธาตุผาเงาแห่งนี้
พ่อค้ายาเสพติดในพระบรมราชูปถัมภ์
ส่วน
ตัวนาย เหวย เซี๊ย กัง พ่อค้ายาเสพติดที่มีชื่อเสียงกระฉ่อนโลกคนนี้
ต่อมาได้ถูกทางการไทยจับตัวได้ที่จังหวัดเชียงใหม่
ในขณะที่หลบมาอยู่ที่บ้านเมียน้อย เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2531
เขาถูกสายข่าวดัดหลัง แจ้งตำรวจ กก.7 กองปราบปราม และ เจ้าหน้าที่ ปปส.
จับกุมตัวได้ขณะแฝงตัวเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านโชตนานิเวศน์
ตรงข้ามสนามกอล์ฟล้านนาเชียงใหม่ ตามหมายจับที่1000/263 คดีครอบครองเฮโรอีน
ระหว่างคดี ทนายได้ยื่นขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปขึ้นศาลสหรัฐ
ในชั้นอุทธรณ์ แต่ก่อนที่ทางการไทยจะส่งตัวไป เหวย เซี๊ย กัง
ก็ได้รับการช่วยเหลือจากนายพลทหารผู้หนึ่ง จนแหวย เซี๊ย กัง
หายตัวไปจากเรือนจำ ต่อมาอีกหลายปี ร.ต.อ.เฉลิมอยู่บำรุง รองนายกฯ
รับผิดชอบงานยาเสพติด กล่าวไว้เมื่อ เดือนกันยายน 2554 ว่า "ทราบจากหลานของ
เหว่ย เซียะ กัง ว่า การหลุดพ้นจากโซ่ตรวนครั้งนี้ เหว่ย เซียะ กัง
ซื้ออิสรภาพไปด้วยเงินจำนวน 30 ล้านบาท แต่ไม่ระบุว่าจ่ายให้กับใคร
"ส่วน
นายสุรชัย เงินทองฟู หรือบังรอน ได้หลบหนีการจับกุมไปอยู่กับ เหวย เซี๊ย
กัง และนาย ภาพ 70 ไร่ พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ของไทย ก็เหมือนกับ เหวย
เซี๊ยกัง คือทั้งที่ตำรวจจับตัวได้แล้ว
แต่ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นกันและ เรื่องนี้ไม่มีนักข่าวของไทยคนไหนกล้าที่จะขุดคุ้ยข่าว ทั้งที่คนพวกนี้เป็นนักค้ายาระดับโลก เพราะวงการนักข่าวไทยรู้กันดีว่า คนพวกนี้ ได้รับการปกป้องจากในวัง และมีข่าวว่าทั้งบังรอน และภาพ 70 ไร่ ก็ได้หลบหนีไปอยู่ในคฤหาสน์หรูของเหวย เซี๊ย กัง ในอิทธิพลของพวกว้าแดงในเขตเมืองยอนของพม่า ซึ่งต่อมา เหวย เซี๊ย กัง ก็ให้คนมาสร้างข่าวว่าได้ขายคฤหาสน์หรูไปในราคา 1,500ล้านบาท
ยึดพื้นที่ดอยตุงโดยใช้เพียงมติของคณะรัฐมนตรีเท่านั้น
และ
นอกจากยาเสพติดที่นำมาจากโกกั้งแล้ว
ในพื้นที่ดอยตุงก็ยังมีการปลูกฝิ่นอีกด้วย
ผู้ที่ดูแลโครงการดอยตุงและเลขาสมเด็จย่าคือ มรว.ดิษนัดดา ดิษกุล
โดยใช้โครงการพัฒนาดอยตุง - โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติบังหน้า
และดำเนินการโดยมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง
ยาเสพติดในเส้นทางนี้นอกจากทางวังได้ร่วมมือกับพ่อค้ายาเสพติดแล้ว
ทางวังยังได้ส่งมอร์ฟีนไปยังบริษัทในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ที่เคยเป็นของพ่อ
เลี้ยงภูมิพล
โดยบริษัทแห่งนี้เป็นเอเยนต์ค้ามอร์ฟีนรายใหญ่ของโลกที่ส่งให้กับโรงพยาบาล
ต่างๆทั้งในอเมริกาและยุโรป
พื้นที่
ในโครงการดอยตุงคิดเป็นเนื้อที่มากมายถึง 93,515 ไร่
โดยทางวังอ้างว่าปัญหาของพื้นที่ดอยตุง
ส่วนใหญ่เกิดจากการทำลายทรัพยากรธรรมชาติของชาวไทยภูเขา
โดยการตัดไม้ทำลายป่า เพื่อทำไร่เลื่อนลอยและการปลูกฝิ่นบริเวณใกล้ชายแดน
เมื่อตอนที่ศรีสังวาลมาดอยตุงใหม่ๆจึงแสร้งพูดว่าฉันจะปลูกป่าบนดอยตุง
ซึ่งจริงๆแล้ว ศรีสังวาลอยากจะพูดว่า ฉันจะปลูกฝิ่น
และ
วิธีการของวังในการยึดพื้นที่บนภูดอยต่างๆที่มีชนเผ่าต่างๆอาศัยอยู่
ทางวังบงการรัฐบาลโดยใช้เพียงแค่มติของคณะรัฐมนตรีเท่านั้น
พื้นที่ดอยตุงถูกยึดโดยมติของคณะรัฐมนตรีมากที่สุดในสมัยรัฐบาลพลเอกเปรม
ตินณสูลานนท์
พื้นที่โครงการดอยตุงอยู่ทางตอนเหนือสุดไปทางด้านตะวันตกของจังหวัดเชียงราย
ในเขตอำเภอแม่จันและอำเภอแม่สาย ภูมิประเทศเป็นแนวเขาสลับซับซ้อน
สภาพป่าเป็นป่าเสื่อมโทรม
บริเวณชายแดนที่ติดกับประเทศพม่าโดยทั่วไปเป็นพื้นที่ปลูกฝิ่น
เส้นทางที่สอง.. มาลีวัวปา-ดอยอ่างขาง..
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar