torsdag 18 februari 2016

อัพเดท "ศึกในวงการสงฆ์" ยุคเผด็จการครองเมือง...จากอดีตถึงปัจจุบัน....

" ฤๅ . กงล้อประวัติศาสตร์ ที่เกิดในยุคสฤษดิ์ จะฟื้นคืนชีพอีกครั้ง?? การเมืองเข้าไปแทรกแซงในวงการศาสนา... ก็ได้แต่หวังว่า "คสช."คงไม่ปล่อยให้ประวัติศาสตร์เกิดซ้ำรอยอีกครั้ง เพราะผลที่จะเกิดขึ้นตามมา บอกได้คำเดียวว่า”ตายหมู่” 



-เรื่องเกิดในปัจจุบัน
"สมเด็จพระมหาราชมังคลาจารย์" เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ
ผู้ทำหน้าที่ รักษาการณ์สมเด็จพระสังฆราช ใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่เคยว่าร้ายผู้ใด ตอนบ้านเมืองวุ่นวายท่านก็ไม่เคยออกมาเข้าข้างใคร มีแต่บอกให้ทุกคนให้อภัยกัน
พวก กปปส. ไม่พอใจท่าน ที่ท่านเคยออกมาขอบิณฑบาตร ไม่ให้ด่าอดีตนายกยิ่งลักษณ์ ด้วยคำหยาบคาย ท่านจึงถูกพวกนกหวีดและแนวร่วม ยัดเยียดข้อหาว่าเป็น "พระควายแดง" เฉกเช่นเดียวกับ พระพยอม

ตอนนี้พวกนั้นกำลังจะเล่นงานท่าน โดยหยิบเรื่อง "วัดธรรมกาย" มาเป็นประเด็น เพื่อสร้างให้สังคมคล้อยตามว่า "มหาเถรสมาคม"หมดความน่าเชื่อถือ รับลูกกันกับ คสช. ที่ตั้ง "คณะกรรมการปฏิรูปศาสนา" แต่คนนำคือ "ไพบูลย์ นิติตะวัน" แกนนำ กปปส. เพื่อมากำจัดท่านโดยตรง
โล้นอิสระ กำลังเปิดเกมรุก ไพบูลย์ ก็เตรียมสอดรับ เพื่อเขี่ยท่านพ้นจากตำแหน่ง "พระสังฆราช" จะตั้งกรรมการชุดใหม่มายึดมหาเถรสมาคม เพื่อเปิดทางให้คนของตนมาเป็นสังฆราชแทน
เห็นมีข่าวบอกว่าใครก็ไม่รู้เสนอให้เอา "สุเทพ ปภากโร (โล้นเทือก)" เป็นพระสังฆราชองค์ถัดไป ถ้ามันสังฆราช ไหว้หมายังดีเสียกว่า
ลองคิดดูว่าระหว่าง สมเด็จพระมหาราชมังคลาจารย์ กับพวกเปรตนรก โล้นเทือก , โล้นอิสระ ใครสมควรเป็น "สังฆราช" องค์ถัดไป



-เรื่องเกิดในอดีต
เมื่อ 50 กว่าปีที่แล้วมา  ในสมัยเผด็จการทหาร สฤษดิ์ เป็นนายก  ตอนนั้น พระพิมลธรรมเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์  มีสิทธิ์ ขึ้นเป็นสังฆราช  แต่โดนพระ จวน วัดมกุฎกษัตริยาราม
ใส่ความว่าเป็นปาราชิก และไปใส่ความกับเผด็จการ สฤษดิ์ ซึ่งเป็นนายกว่า  พระพิมลธรรม เป็นคอมมิวนิสต์
เผด็จการ สฤษดิ์ จับพระพิมลธรรม ไปขังคุกอยู่หลายปี   พระ จวน วัดมกุฎกษัตริยาราม ที่ใส่ความพระพิมลธรรมก็ได้ขึ้นเป็นสังฆราช  แล้วก็พบจุดจบคือ ตายโหง  โดยเกิดจาก ขณะเดินทางโดยรถยนต์ ที่มีรถตำรวจทางหลวงนำ   ที่ถนน บางนา-ตราด  ได้มีรถที่วิ่งสวนอยู่ อีกฝั่งหนึ่ง  วิ่งข้ามฝั่งมาชนรถ ของสังฆราช โดยไม่ชนกับรถตำรวจทางหลวง ที่นำอยู่ท่านคิดว่า เป็นอุบัติเหตุหรือว่า เกิดจากบาปกรรม ที่ทำไว้กับพระพิมลธรรม?
พระพิมลธรรม ถูกขังระหว่างการพิจารณาคดีของศาล โดยศาลไม่ให้ประกันอยู่หลายปี
สุดท้าย ศาลพิพากษายกฟ้อง



......................................................................................

แต่งานนี้ ปัจจุบันพระสังฆราชไม่ใช่เงื่อนไขการแย่งตำแหน่งผู้นำแห่งสงฆ์ แต่เป็นอำนาจครอบงำสังคม
เพื่อการบิดเบือนกฏมนเฑียรบาล ที่ต้องยึดซากสมเด็จญาณสังวรณ์ ไม่เผาเสียที สมเด็จมหารัชมังคลาจารย์จึงได้เป็นเพียงแค่ตำแหน่งรักษาการ ต่อจากสมเด็จเกี่ยว

อีกทั้งตอนนี้ก็ยังคงยึดซากลุงสมชายไม่ให้หยุดลมหายใจเพราะกลัวว่านกแสกมันจะร้อง เพราะนั่นคือสัญญาณแห่งการหมดอำนาจของกลุ่มคนนอกรัฐธรรมนูญที่ไม่ยอม เกษียณตัวเอง และยังคงหวังที่จะโหนอำนาจพิเศษนี้ต่อ โดยไม่คิดจะผ่องถ่ายให้ผู้อื่นได้ดำรงตำแหน่งนั้น จนกว่าจะตายไปจากตำแหน่งนั้น    ก็ยังไม่นึกนะว่า สมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน นี้จะฉันข้าวเหนียวมะม่วงจากการถวายภัตราหารจากบ้านสองยกกำลังเสาขอภาวนา ตัณหาที่จะเถลิงอำนาจมนุษย์จะล้ำลึกจนถึงการฆาตกรรมสังฆบิดร อย่างสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์

คลิกอ่านต่อ"กงกรรม กงเกวียน " เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวงการศาสนาจากอดีตจนถึง ... 

ประวัติศาสตร์วงการสงฆ์

คลิกอ่าน-คดีประวัติศาสตร์วงการสงฆ์....เมื่อศิษย์ตถาคตต้องผจญกับมารน้อย ...
คดีประวัติศาสตร์วงการสงฆ์....เมื่อศิษย์ตถาคตต้องผจญกับมารน้อยใหญ่จนเกือบเพลี่ยงพล้ำ แต่ด้วยจิตมุ่งมั่นในหลักธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อนั้นจึงหลุดพ้นจากข้อกล่าวหาทั้งปวง นั่นคือเรื่องราวของพระพิมลธรรม (อาจ อาสโภ) เมื่อ 60 ปีก่อน ที่ต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มบุคคลผู้มีมิจฉาทิฐิ พยายามกำจัดพ้นร่มกาสาวพัสตร์ แต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายภัยตัวเองลงในที่สุด
..................................................................

(หมายเหตุ- ความจริง" ระบอบภูมิพล" คือที่มาของวิกฤต"ศึกในวงการศาสนาจักรไทย"จากอดีตจนถึงปัจจุบัน.... 
สถาบันอำมาตย์เหลือบศักดินาและองค์กรเครือข่ายรับใช้ราชสำนักคือ"มาร" ผู้ทำลายพระพุทธศาสนาที่แท้จริง  เริ่มด้วยการสร้างความแตกแยกในหมู่สงฆ์  แต่งตั้งแบ่งแยกยกระดับวัดทำให้แต่ละวัดเกิดกิเลสแข่งขันในการสร้างถาวรวัตถุเพื่อยกระดับวัดให้มีชื่อเสียงจนละเลยไม่ใส่ใจพระธรรมคำสอน (แบ่งเกรดแบ่งชั้นวัดออกเป็นหลายระดับมีทั้งพระอารามหลวง? วัดธรรมดา?) มอมเมาพระด้วยการถวายสมณศักดิ์พัดยศ (สมเด็จ เจ้าคุณ ฯลฯ) จึงทำให้พุทธศาสนาตกเข้าไปอยู่ภายใต้อำนาจของ"กงจักรปีศาจ" โดยหลีกเลี่ยงไม่ได้  นอกจากนี้ยังมีฝูงเหลือบฆราวาสเหล่าลูกศิษย์ของวัด(ทุกชนชั้นวรรณะ)ได้อาศัยนำเอาวัดและพระสงฆ์มาใช้ทำมาหากินเชิง "พุทธพานิช"ในรูปแบบต่างๆแบ่งปันผลประโยชน์ร่ำรวยกันถ้วนหน้าและเงินที่ได้ก็ไม่ต้องเสียภาษี  (เงินจำนวนมากมายมหาศาลไม่สามารถประเมินออกมาเป็นตัวเลขได้ )
" ระบอบภูมิพล"ทำให้เกิดมี"อลัลชี"เข้ามาปะปนทำลายพุทธศาสนา"อาศัยผ้าเหลืองอาศัยวัด"สร้างอิทธิพลทำมาหากินบิดเบือนคำสอนมอมเมาสังคมมายาวนานทุกยุคทุกสมัย เท่าที่มีพุทธศาสนาอยู่คู่ประเทศไทย 
โดยใช้"ระบอบภูมิพล" เป็นใบเบิกทำการบิดเบือนพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า   มาครอบงำประชาชนไทยที่ยึดมั่นในหลักพระธรรมคำสอนเป็นที่พึ่งทางใจ  ให้หลงผิดมัวเมายึดติดในอำนาจและสิ่งของวัตถุมากกว่าคุณธรรม...นับเป็นเรื่องที่น่าอนาถใจ ...
วันนี้.เจ้าของ"ระบอบภูมิพล" อยากตายก็ตายไม่ได้ต้องอยู่อย่างทนทุกข์ทรมานเหมือนตกนรกทั้งเป็น..ทั้งปัญหาคนสิ้นรักเสื่อมศรัทธา  ทั้งปัญหาในครอบครัวที่ต้องรับกรรมชดใช้ตามกฎแห่งกรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ตามผลแห่ง..กรรมดี? กรรมชั่ว?ที่ครอบครัวเจ้าของระบอบและเครือข่ายได้กระทำไว้กับประเทศไทยและประชาชนไทย...เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้ .  )
..........................................
ตัวอย่าง...สารพัดวิชามาร...ที่นำมาใส่ร้ายป้ายสี..เพื่อสร้างความแตกแยกในหมู่สงฆ์.??

นายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร ฝ่ายกฎหมายวัดปากน้ำฯ กล่าวว่า ตามที่ดีเอสไอได้แถลงข่าวชี้มูลความผิดเรื่องรถยนต์โบราณของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ในวันนี้ มีหลักๆ อยู่ 3 เรื่อง คือ 1.รถยนต์นำเข้…
(ข้าทาสรับใช้ใคร????????)
เมื่อวันที่ 18 กพ.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ท.กรวัชร ปานประภากร ผบ.สำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ…
Prachatai
"ความไม่ลงรอยกันในหมู่คณะสงฆ์เกี่ยวกับการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 ทำให้เกิดกระแสวิเคราะห์ออกไปหลากหลายแนวทาง ทั้งในแง่ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างค่ายพุทธอิสระกับค่ายธรรมกาย ประวัติศาสตร์สังฆมณฑลที่มีทั้งธรรมยุตินิกายกับมหานิกาย รวมถึงการปะทะทางกำลังระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารและม็อบพระสงฆ์
"จึงไม่แปลกที่การเคลื่อนไหวเรื่องพระสังฆราชของสงฆ์ไทย (ในช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมือง) จึงพุ่งเป้าไปที่หรือจำเป็นต้องโยกตัวเข้าหา "Palace" ตามธรรมเนียมทางประวัติศาสตร์ และ "Nobility" ...(ซึ่งในที่นี้ หมายถึงชนชั้นนำในกองทัพและรัฐบาล) ตามขีดพลังอำนาจการเมืองการปกครองยุคปัจจุบัน แต่ถึงอย่างนั้น หากแกนวัด-วัง-ขุนนาง มิสามารถจะหาสูตรการเมืองหรือข้อยุติเกี่ยวกับตำแหน่งสังฆราชพระองค์ใหม่ได้อย่างรอมชอม การโยนประเด็นไปที่ค่าย "Forum" โดยให้ประชาชน นักวิชาการ หรือหน่วยงานประชาสังคม ก้าวเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นในชุมชนอภิปรายเพื่อตัดสินข้อพิพาทหรือยุติศึกชิงสังฆราช อาจเป็นอีกหนึ่งยุทธวิธีที่อาจเกิดขึ้นได้ในเร็ววัน"
อ่านบทความ ศึกชิงสังฆราชไทยกับแนวร่วม ‘วัด-วัง-ขุนนาง-ประชาชน’ โดย อ.ดุลยภาค ปรีชารัชช
http://blogazine.pub/blogs/dulyapak/post/5647…




Inga kommentarer:

Skicka en kommentar