söndag 21 februari 2016

“ทักษิณ” .ให้สัมภาษณ์ใน The Wall Street Journal

"ผมเป็นแค่หนูตัวเล็กๆ ผมอยากบอกพวกเขาว่าไม่ต้องกังวลกับหนูตัวนี้ และหนูตัวนี้ไม่ได้อยู่ในบ้านอีกแล้ว ไม่ต้องเผาบ้านเพื่อกำจัดผมอีกแล้ว"
ทักษิณ ชินวัตร, 21 ก.พ. 2559 ให้สัมภาษณ์ใน The Wall Street Journal





คลิกอ่าน-"ทักษิณ" ให้สัมภาษณ์สื่อนอก ชง "บิ๊กตู่"เจรจาทุกกลุ่มการเมือง
khaosod



คลิกอ่าน-"ทักษิณ"พร้อมลุย! ประกาศทวงคืนประชาธิปไตย-โต้ข่าวลือด้านลบ
matichononline

"ทักษิณ"โผล่สัมภาษณ์วอลสตรีทฯจวกรัฐธรรมนูญใหม่รักษาอิทธิพลทหาร
“ทักษิณ”โผล่สัมภาษณ์วอลสตรีทฯจวกรัฐธรรมนูญใหม่รักษาอิทธิพลทหารhttp://www.matichon.co.th/news/45926
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ วอลสตรีท เจอร์นัล เผยแพร่คำให้สัมภาษณ์ของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งวอลสตรีทระบุว่าเป็นการให้สัมภาษณ์ “ในประเทศใกล้เคียงประเทศหนึ่ง” เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์เดียวกันนี้กล่าวว่า รัฐบาลทหารของไทยกำลังทำให้เศรษฐกิจที่เปราะบางของประเทศตกอยู่ในอันตรายด้วยการผลักดันแผนประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งจะจำกัดอำนาจของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและรักษาอิทธิพลของนายพลทหารเอาไว้ หลังจากก่อรัฐประหารในปี 2549 และ ปี 2557 ที่ผ่านมา
“รัฐธรรมนูญนี้เป็นรัฐธรรมนูญซ่อนเงื่อนเพื่อแสดงให้โลกเห็นว่าประเทศไทยกำลังกลับคืนสู่ประชาธิปไตย” นายทักษิณกล่าว “แต่ในความเป็นจริงแล้วสภาพก็จะเหมือนกับพม่าก่อนที่จะมีการปฏิรูปการเมือง นั่นคือมีนายกรัฐมนตรี แต่อำนาจที่แท้จริงจะอยู่ในมือของกลุ่มบุคคลบางคนที่อยู่เหนือนายกรัฐมนตรีขึ้นไป และเศรษฐกิจของประเทศก็จะเป็นอันตราย ไม่มีรัฐบาลไหนๆต้องการแตะต้องประเทศไทยอีก”
อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า แทนที่จะทำเช่นนี้ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีควรเปิดการเจรจากับกลุ่มการเมืองทุกๆกลุ่มในประเทศเพื่อหาแนวทางขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าที่เป็นที่ยอมรับของทุกๆคน เริ่มต้นด้วยการวางกรอบรัฐธรรมนูญให้อยู่ในลักษณะที่จะให้สิทธิให้เสียงกับผู้มีสิทธิออกเสียงของประเทศทั้งหมด และจะไม่อ่อนแอลงโดยข้อเสนอของรัฐบาลทหารซึ่งจะยังคงอำนาจอยู่ต่อไปในรูปของสภาความมั่นคง เมื่อมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นโดยอาศัยข้ออ้างว่าประเทศกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านอำนาจ
“โปรดอย่าได้ระแวงกันเลย ไม่ต้องกลัวหรอกว่าผมจะกลับไปมองหาหนทางแก้แค้น ผมไม่ได้มองหาเงื่อนไขใดๆที่จะช่วยตัวผมเอง แต่ถ้าหากคุณมีเจตนาดีจริงๆที่จะขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า ถ้าหากคุณต้องการคืนศักดิ์ศรีให้กับประชาชนไทยแล้วละก็ ก็มาพูดจากัน” อดีตนายกรัฐมนตรีระบุ
วอลสตรีทฯระบุว่า อดีตนายกรัฐมนตรีใช้เวลาอยู่ภายนอกประเทศนานเกือบ 10 ปีแล้วหลังการรัฐประหารเมื่อปี 2549 แต่ในท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังมีปัญหาจากความต้องการทั่วโลกอ่อนแอลง และความกังวลต่ออิทธิพลในระยะยาวของกองทัพที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ นายทักษิณ มีความมุ่งหมายที่จะเตือนรัฐบาลทหารและประชาชนหลายล้านคนในไทยซึ่งเคยออกเสียงเลือกรัฐบาลของตนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีผู้เป็นน้องของตน และพรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะลงแข่งขัน ถ้าหากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในปีหน้าตามที่มีการวางแผนกันเอาไว้
“ผมเงียบมานานทีเดียว คนที่วิพากษ์วิจารณ์ผมมักคิดกับผมในทางลบและหวาดระเเวงอยู่เสมอ ผมจำเป็นต้องแสดงออกให้ชัดเจนว่า พวกนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นกังวลกับผม ผมไม่สนใจกับสถานการณ์ของตัวเองหรอก แต่ผมใส่ใจกับเรื่องที่ว่าทำอย่างไรประเทศถึงจะก้าวไปข้างหน้าได้ และ ทำอย่างไรรัฐธรรมนูญใหม่ถึงไม่เป็นการเสียเวลาและเสียแรงเปล่า เพราะมีแต่รัฐบาลทหารเท่านั้นแหละที่ยอมรับรัฐธรรมนูญนี้ในขณะที่ไม่มีใครอื่นยอมรับ ถ้ารัฐธรรมนูญนี้ถูกบังคับใช้ ก็เท่ากับว่าประเทศไทยเดินถอยหลังแล้ว”
วอลสตรีทฯระบุด้วยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ กำลังเผชิญกับข้อหาว่า บริหารจัดการโครงการรับจำนำข้าวมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ผิดพลาด บกพร่องและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เมื่อมีการกล่าวหาว่าเกิดการคอร์รัปชั่นขึ้น ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์เคยให้สัมภาษณ์กับวอลสตรีทฯปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยระบุว่า ไม่ได้ทำผิดใดๆ และแสดงความกังขาว่าทำไมการปฏิบัติตามนโยบายที่เป็นหัวใจในการหาเสียงของตนจึงกลายเป็นเรื่องที่ถูกดำเนินคดี ในขณะที่นายทักษิณ ก็แสดงความกังขากับการดำเนินคดีดังกล่าวนี้เช่นเดียวกัน
“ผมบอกคุณได้เลยว่า เรื่องนี้เกิดจากแรงจูงใจทางการเมือง ผมไม่ได้ไม่พอใจผู้พิพากษา แต่ผมไม่พอใจเกี่ยวกับระบบกับเรื่องที่ว่าทำไมต้องตั้งข้อหาเธอ ผมหวังว่าเธอคงไม่ถูกพิพากษาว่าผิด แต่ไม่แน่ใจเท่าไหร่นัก” อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวในที่สุด



Inga kommentarer:

Skicka en kommentar