เด็กรุ่นใหม่ฝันไกลแต่ไร้ปัญญา : วันที่พม่ากลับมาตีเมืองไทย
ที่มา เวป cookiecoffee.com
ภาพใน Blog นี้ถ่ายที่หน้าร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึงในทองหล่อ, เป็นประกาศรับสมัครงานธรรมดาๆ แต่ที่น่าสนใจก็คือ “มันเขียนเป็นภาษาพม่า” และเมื่อมองไปรอบๆ ก็พบว่าไม่มีป้ายภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษใดๆ เลย…
แปลว่าร้านอาหารญี่ปุ่นร้านนี้ต้องการรับพนักงาน “ชาวพม่าเท่านั้น”
ทำให้ผมสะดุดใจก็คือ Week ก่อน, ผมกับครอบครัวไปทานอาหารฝรั่งเศส ก็เจอพนักงานจาก Philippines
Chain ร้านกาแฟแถวเพลินจิตที่เป็น Brand จาก New York ก็ใช้พนักงานชาว Filipino
นึกถึง Blog ที่แล้ว, ว่าด้วยเรื่อง “ทำไมคนไทยเริ่มจ้างต่างชาติมาทำงาน”
ผมเคยคุยกับพนักงานร้านกาแฟที่เป็น Filipino ว่าด้วยเรื่อง “ทำไมร้านถึงจ้างเขา แทนที่จะจ้างคนไทยด้วยกัน ?” และก็ได้คำตอบว่า “เพราะค่าจ้าง Filipino ต่ำกว่าคนไทย แถมยังใช้ภาษาอังกฤษได้ดีกว่า !”
แทนที่จะจ้างเด็กไทยจบใหม่ซึ่งใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้จริงในงบเดือนละ 15000 – 20000 บาท,
สู้ไปจ้าง Filipino ดีกว่า เพราะที่ Philippines ทุกคนพูดอังกฤษกันตั้งแต่เกิด
นอกจากนี้ คนไทยยังเรื่องมาก, มองงานบริการว่าเป็นอาชีพชั้นต่ำ ทำไปแค่วันๆ ระหว่างหางานในบริษัท
[ผมคุยกับ Staff ชาว Filipino ท่านนี้เป็นภาษาอังกฤษและเขาคิดว่าผมไม่ใช่คนไทย]
เหตุผลคงคล้ายๆ กับว่า “ทำไมร้านอาหารญี่ปุ่นร้านนี้ถึงจ้างพม่า ?”
เพราะคนพม่าพูดภาษาอังกฤษได้ดีกว่าคนไทย ในงบค่าจ้างเดือนละ 8500 – 12000 บาท
ทองหล่อครับ,
เป็น Zone ที่คนญี่ปุ่น / Expats และนักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะ
แม้ภาษาอังกฤษของแรงงานพม่าอาจจะไม่ได้ดีเลิศเลอเหมือน Native Speakers
แต่ก็ยังดีกว่าการจ้างคนไทยในกลุ่มเงินเดือนหมื่นกว่าบาทซึ่งพูดอังกฤษเชิงธุรกิจไม่ได้เลย
นอกจากนี้ คนพม่ายังไม่ค่อยเรื่องมาก หากงานหนักก็ทำและงานเบาก็สู้ เพราะชีวิตพวกเขาคือการหนีลี้ภัยข้ามแผ่นดินมาแสวงหาโอกาสที่ดีกว่า, ดังนั้นอะไรที่พอทำได้ก็ทำหมด
เป็น Zone ที่คนญี่ปุ่น / Expats และนักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะ
แม้ภาษาอังกฤษของแรงงานพม่าอาจจะไม่ได้ดีเลิศเลอเหมือน Native Speakers
แต่ก็ยังดีกว่าการจ้างคนไทยในกลุ่มเงินเดือนหมื่นกว่าบาทซึ่งพูดอังกฤษเชิงธุรกิจไม่ได้เลย
นอกจากนี้ คนพม่ายังไม่ค่อยเรื่องมาก หากงานหนักก็ทำและงานเบาก็สู้ เพราะชีวิตพวกเขาคือการหนีลี้ภัยข้ามแผ่นดินมาแสวงหาโอกาสที่ดีกว่า, ดังนั้นอะไรที่พอทำได้ก็ทำหมด
ตรงข้ามกับคนไทยที่ “ขี้เกียจ”
ผมเดินผ่านป้ายร้านก็คิดว่าต่อไปเมื่อเราเข้า AEC เต็มตัว, คนไทยรุ่นใหม่จะไปอยู่ที่ไหน ?
ผมเดินผ่านป้ายร้านก็คิดว่าต่อไปเมื่อเราเข้า AEC เต็มตัว, คนไทยรุ่นใหม่จะไปอยู่ที่ไหน ?
ย้อนกลับมาที่เรื่องของตัวเอง, เมื่อ Week ที่แล้ว อยู่ๆ ก็มี Brand หนึ่งในธุรกิจ “The Sharing Economy” ติดต่อผมมาจาก San Francisco ว่าด้วยเรื่องการเข้าเป็น Sponsor ให้ Blog ติงต๊อง โดยจ่ายค่าตัวเป็น USD
เดือนหน้า, ผมจึงต้องบินไปคุยรายละเอียดและเซนต์สัญญาที่ Singapore, ซึ่งเป็นที่ตั้งของ HQ ดูแล Asia
แม้แต่ Blogger & Backpacker เองก็ยังเริ่มมีโอกาสที่ดีกว่า เมื่อสื่อสารภาษาอังกฤษได้
[และพรุ่งนี้ผมจะ Backpack ไปเปิดโลกใหม่บนทางรถไฟสาย Trans Siberian, พร้อม Sponsor ที่ติดต่อตรงมาจากญี่ปุ่น]
เด็กไทยรุ่นใหม่ไม่ค่อยรู้ตัวกันเลยว่า “อันตรายกำลังใกล้เข้ามา”
มีแต่ฝันว่าเข้านอนแล้วตื่นมาตัวเองจะกลายเป็น Steve Jobs
ใช่ว่าใช้ iPhone 6 หรือ MacBook แล้วทุกคนจะเป็น Steve Jobs ได้
เดือนหน้า, ผมจึงต้องบินไปคุยรายละเอียดและเซนต์สัญญาที่ Singapore, ซึ่งเป็นที่ตั้งของ HQ ดูแล Asia
แม้แต่ Blogger & Backpacker เองก็ยังเริ่มมีโอกาสที่ดีกว่า เมื่อสื่อสารภาษาอังกฤษได้
[และพรุ่งนี้ผมจะ Backpack ไปเปิดโลกใหม่บนทางรถไฟสาย Trans Siberian, พร้อม Sponsor ที่ติดต่อตรงมาจากญี่ปุ่น]
เด็กไทยรุ่นใหม่ไม่ค่อยรู้ตัวกันเลยว่า “อันตรายกำลังใกล้เข้ามา”
มีแต่ฝันว่าเข้านอนแล้วตื่นมาตัวเองจะกลายเป็น Steve Jobs
ใช่ว่าใช้ iPhone 6 หรือ MacBook แล้วทุกคนจะเป็น Steve Jobs ได้
แต่พวกเด็กมหา’ลัยสมัยนี้คิดกันแบบนั้นจริงๆ และพวกเขาก็มักจะมีความมั่นใจว่าตัวเองเก่งกว่าใครๆ, ส่วนใหญ่พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าครั้งหนึ่ง Jobs เริ่มจากการนั่งทำงานในโรงรถและยังเคยถูกไล่ออกจากบริษัทที่ตัวเองสร้างขึ้น
อีกหนึ่ง Blog ที่ผมอยากให้อ่าน,
อีกหนึ่ง Blog ที่ผมอยากให้อ่าน,
ความเห็นของ
CookieCoffee Mobile Backpacker
เด็กรุ่นใหม่ที่ผมเจอส่วนใหญ่เป็นแบบนี้จริงๆ, คือฝันว่าตื่นมาพรุ่งนี้ ตัวเองจะเป็น Steve Jobs ด้วยการใช้ iPhone & MacBook
แล้วก็มักจะหลงตัวเองว่าเก่งอย่างหนัก ใครพูดไรไม่ฟัง
ทั้งที่ความสามารถอาจจะสู้พม่าไม่ได้ด้วยซ้ำ
การเมืองไม่นิ่ง อนาคตไม่มี แผนการณ์ระยะยาวไม่เหลือ
นึกภาพเมืองไทยในอีก 10 ปีข้างหน้า "ผมว่าเลวร้าย"
AEC
ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่สยาม พนักงานส่วนใหญ่เป็นพม่า
มีนักท่องเที่ยวน่าจะสิงคโปร์ 2 คนเข้ามาสั่งอาหารในร้าน
พนักงานคนแรกรับ order ฟังไม่รู้เรื่อง ไปเรียกเพื่อนพนักงานอีกคนมารับแทน
คนนี้มาพูดภาษาอังกฤษตอบโต้ปิด Order ได้สำเร็จ คล่องแคล่ว
สมกับเป็นยุค AEC จริง ๆ ครับ
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar