อำมาตย์จะใช้ Model จำลอง+สุจินดา แต่ รบ.รู้ทัน เลยใช้กลยุทธ์เปิดเมืองเสียเลย..

พระเอกตาเดียวที่เคยเขียนบทละครและวางแผนให้คนไทยฆ่ากันเองมาแล้วหลายครั้งแล้วตัวเองก็จะออกมาเป็นผู้ไกล่เกลี่ยเพื่อให้เลิกลากันไปโดยที่นายกต้องลาออกแล้วเขาก็ตั้งรัฐบาลและรัฐสภาของเขาเองขึ้นมา บทละครแบบนี้ได้ฉายมาแล้วหลายครั้งหลายหนจนคนไทยจับได้ คราวนี้ก็กำลังจะใช้บทละครบทเดิมอีก  หวังว่ารัฐบาลของนายกปูจะไม่ติดกับดักของ พระเอกตาเดียวจอมเผด็จการอำมหิตที่ทรยศต่อประเทศชาติและประชาชนชาวไทยไม่รู้จักสำนึกต่อบุญคุณที่ประชาชนชาวไทยได้เสียภาษีเลี้ยงดูครอบครัวของเขามาแล้วตั้งหลายชั่วโคตร์...

โดย ลูกชาวนาไทย
เมื่อ อังคาร, 03/12/2013 - 13:22

พอประเมินออกแล้วว่า อำมาตย์จะใช้ Model จำลอง+สุจินดา แต่ รบ.รู้ทัน เลยใช้กลยุทธ์เปิดเมืองเสียเลย

หากเรามองข้ามสงครามรายวันออกไป เพราะถือว่าเป็นแค่การรบกันทางยุทธวิธีเท่านั้น แล้วมองไปยังภาพรวมทั้งหมดว่าพวกเขาต้องการอย่างไร
เราต้องมั่นใจอย่างหนึ่งว่า สุเทพ แค่เป็นตัวแสดงที่เปิดหน้าเท่านั้น แต่ตัวแสดงกำกับฉากยังเหมือนดิม คือ "กลุ่มอำมาตย์" ทั้งหลาย ดังนั้นเราต้องประเมินว่า "เป้าหมายทางยุทธศาสตร์หรือ Grand Strategic ของพวกเขาคืออะไร
มีคนสรุปว่า พวกเขาต้องการสร้างรัฐล้มเหลวหรือ Failed State ขึ้นมา เพื่อนำไปสู่แบบจำลองสมัยพฤษภาทมิฬ คือ "จำลอง+สุจินดา" แต่ตอนนี้จะเป็น "ยิ่งลักษณ์ + สุเทพ"
แต่บังเอิญรัฐบาลไม่หลงกล และ นปช. ที่ชุมนุมวันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมาก็รู้ทัน เมื่อบรรลุภารกิจ มีเสื้อแดงเข้ามาร่วมชุมนุมสนามแทบแตกแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นทางยุทธศาสตร์อะไรจะอยู่ต่อไป จึงรีบสลายม็อบในเช้าวันที่ 1 ธ.ค. ทันที
ดังนั้น ความต้องการให้ม็อบชนม็อบ ที่จงใจเอานักศึกษารามไปตั้งเวทีชน ก็ไม่เกิดขึ้น แต่หาก นปช. ชุมนุมต่อไปอีกวันหนึ่งก็ไม่แน่ว่าจะเกิดสถานการณ์นั้น ดีแต่ว่าคืนนั้น นักศึกษารามต้องรบกับคนของนายสุเทพ ที่ส่งเข้าไปยิงกันเอง เพื่อเอาศพมาใช้เป็นเงื่อนไขไล่รัฐบาล
แต่หากเป็นวันต่อมาก็ไม่แน่ว่าเราจะควบคุมสถานการณ์ได้ การสลายการชุมนุมของเสื้อแดงจากสนามรัชมังคลา ในวันที่ 1 ธ.ค. จึงเป็นความถูกต้อง ในการเดินเกมทางยุทธศาสตร์
การโจมตีทำเนียบ และเข้ายึดสถานที่ราชการต่างๆ ก็เพื่อบรรลุเป้าหมาย ให้เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง จนนำไปสู่ สถานการณ์ "สุจินดา+จำลอง" ดีที่รัฐบาล ปรับตัวทางยุทธศาสตร์อีกครั้งหนึ่ง โดยใช้กลยุทธ "เปิดเมือง" เสีย สถานการณ์ก็ไม่มีทางไปถึงระดับ ""สุจินดา+จำลอง"ได้ และ Failed State ได้
สงครามยังไม่จบ เรายังไม่อาจไว้ใจทหารได้ เพราะดูท่าที่ ทหารออกไปรับนักศึกษาราม หรือ ไปเป็นหน่วยพยาบาลให้ม็อบสุเทพ ก็แสดงว่าเรายังไม่อาจไว้ใจทหาร ได้เต็มร้อย ต้องรักษาระยะห่างเอาไว้
ก็หวังว่าพี่น้องงเสื้อแดงอย่าไป "เล่นในเกมของพวกเขา" คือ "ม็อบชนม็อบ" เพื่อจะได้มีคนมาไกล่เกลี่ยได้ เกิดโมเดล "สุจินดา+จำลอง"
เมื่อเรายังไม่เสียเปรียบเท่าไหร่ ต่างชาติก็ไม่อยากให้เกิดการรัฐประหารขึ้น พวกเขาก็ยังใช้ทหารไม่ได้ นายกฯปูยังอยู่ (ต้องระวังอย่าให้เหมือนยุค พล.อ.ชาติชาย ชุณหวัณ อย่าเปิดช่องประมาทเป็นอันขาด)
เกมนี้นายกฯปูต้องเข็มแข็ง อย่ายุบสภา อย่าลาออก อย่าสลายม็อบ
และอย่าไปสนใจว่าต้องป้องกันตึกอาคารให้ได้ รัฐบาลเป็น Virtual Government ก็ได้ ไม่สำคัญว่าต้องอยู่ที่ตึกไหน
จงหวังว่า คำทำนาย นารีขี่ม้าขาว เรื่องฟ้าสีทองผ่องอำไพ กับ อีกคำทำนายครั้งกรุงเก่า มหากาฬ ผ่านมหายักษ์ ที่มาจบลงที่ชาววิไล จะบังเกิดขึ้นในคาบเวลานี้
เพราะสองคำทำนายที่มีแหล่งที่มาแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง มันให้ผลเหมือนกันในคาบเวลานี้คือ "ฟ้าสีทองผ่องอำไพ+ชาววิไล"
จะเกิดขึ้นในเมืองไทยอย่างแท้จริง ไม่มีใครดึงสังคมไทยกลับไปสู่อดีตได้
มีคนพูดกันว่าตอนนี้ ท่านนายกฯทักษิณเข้าใจสถานการณ์ดี ที่ผิดพลาดไปก็ต้องถือว่าเป็นบทเรียน ตอนนี้ก็ต้องสู้กันอยู่ ที่จริง ฝ่ายตรงข้ามจ้องหาเรื่องมาตั้งปีแล้ว พวกเขาก็ต้องหาได้สักเรื่องหนึ่งจนได้แหละ
ก็ต้องสู้กันไป