ข่าวใหญ่แห่งปี ๒๕๕๘
ในหลวงยังไม่ตาย
ในขณะที่สื่อต่างชาติในปีที่ผ่านมา แทบทุกรายงานเกี่ยวกับเมืองไทยจะต้องมีการกล่าวถึงว่า ในหลวงใกล้สวรรคต ไม่มีสื่อไทยฉบับไหนกล้าเอ่ยถึง แต่ความจริงคือ นี่เป็นประเด็นที่เป็น "แบ๊กกราวน์" ใหญ่ที่สุดของข่าวการเมืองไทยในรอบปีที่ผ่านมา
ในรอบปีที่ผ่านมา แม้ในหลวงจะยังไม่ตาย แต่เห็นได้ชัดว่าสุขภาพอยู่ในระดับที่เสื่อมทรุดมากกว่าเดิมอย่างมาก ตลอด ๓๖๕ วัน ทรงปรากฏพระองค์ต่อสาธารณะ เพียง ๑๐ ครั้ง (ผมยังไม่นับคืนนี้ ซึ่งตอนนี้มีคนเผยแพร่เอกสารแจ้งว่าจะมีการออกอากาศพระสุรเสียงอวยพรปีใหม่) แต่ละครั้งเพียงสั้นๆ ครั้งสุดท้าย ๒-๓ วินาทีเท่านั้น (ภาพประกอบซ้าย) ช่วงที่ "หายหน้า" ไปติดต่อกันกินเวลานานขึ้นเป็นสถิติใหม่ตลอดเวลา จากเดือนครึ่ง ถึงสองเดือนเศษ ถึงสามเดือนเศษ
ในช่วงกลางเดือนกันยายน ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ถึงกับกล่าวกับผู้เข้าเฝ้าในงานหนึ่งทางอีสานว่า "มีความไม่สบายพระทัยเป็นอย่างมาก เพราะแพทย์ที่ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโทรศัพท์มาบอกข้าพเจ้าว่า ที่แถลงการณ์ออกไปนั้นขัดเกลาให้เบาที่สุดแล้ว แต่อันที่จริงพระอาการของพระองค์ท่านเป็นหนักกว่าที่แถลงการณ์มาก" และทรงขอให้ช่วยกันสวดมนต์ให้ในหลวง (ดูกระทู้ของผมที่นี่ https://goo.gl/Bx399z ที่นี่ https://goo.gl/Y2cDQ1 และที่นี่ https://goo.gl/tlJhOZ ) ที่น่าสนใจคือ พระราชดำรัสของฟ้าหญิงเรื่องในหลวง "(ป่วย)หนักกว่าที่แถลงการณ์มาก" นั้น เริ่มเผยแพร่กันก่อนในหมู่คนรักเจ้าเอง สะท้อนว่า ความจริง เรื่องอาการป่วยของในหลวง หรือในหลวงสวรรคตหรือยัง เป็นประเด็นใหญ่ที่อยู่ในความคิดของทุกฝ่าย (ฝ่ายเสื้อแดง แน่นอน "ไปไกล" กว่าเสื้อเหลืองในเรื่องนี้ มีการ "มโน" เรื่องในหลวงตายแล้วตลอดทั้งปี พวกเซเลปเสื้อแดง "ใต้ดิน" บางคนพูดเป็นตุเป็นตะหลายครั้ง) แต่สังคมไทย "ที่เป็นทางการ" ก็ยังอยู่ในภาวะ in denial หรือปฏิเสธที่จะยอมรับความจริง หรือเอ่ยถึงว่าในหลวงใกล้ตายและใกล้มีการเปลี่ยนรัชกาลแล้ว (ไม่เหมือนอย่างกรณีอังกฤษที่สื่อที่นั่นมีการ "ซ้อม" เพื่อเตรียมรับการตายของควีนอย่างสม่ำเสมอ จนถึงกับมีกรณีที่นักข่าวบีบีซีเองเข้าใจผิด ไปทวิตว่าควีนตายแล้ว เพราะเห็นการซ้อมในบีบีซี แล้วนึกว่าเรื่องจริง - โชคดี อังกฤษเขาไม่มี ๑๑๒ แบบไทยแล้ว ถถถถ - ดูกระทู้ของผมที่นี่ https://goo.gl/g06GUR )
ข่าวใหญ่อันดับรองลงมา ซึ่งความจริงก็มีความสัมพันธ์ใกล้กับข่าวแรกอย่างมาก คือข่าวพระบรมฯทำการกวาดล้างคนที่เคยทำงานให้ใกล้ชิดอีกเป็นครั้งที่สองเป็นปีที่สองติดๆกัน ปีกลายคือการกวาดล้างหม่อมศรีรัศมิ์ (อดีต)เมียและเครือญาติ ชนิด "แรง" มากๆ ยกเว้นศรีรัศมิ์แล้ว เรียกว่าแทบทุกคนในครอบครัว "in law" เก่าของพระบรมฯ ถูกเอาเข้าคุกหมด ตั้งแต่พ่อตา-แม่ยาย ถึงพี่เมีย ถึงน้า ฯลฯ ครั้งนั้นมีคนตาย ๑ คน ("กระโดดตึกตาย")
ปีนี้ การกวาดล้างก็น่าช็อคพอๆกัน หรือมากกว่า ในแง่ที่ว่าคนที่ถูกกวาดล้าง เพิ่ง "ทำงานใหญ่" ให้พระบรมฯ เห็นกันไปทั่วประเทศ (ดูภาพประกอบ "หมอหยอง" เดินตามหลังใกล้ชิดพระบรม ในงาน "ไบค์ฟอร์มัม" ที่เขาเป็น "ออแกนไนเซอร์") ไม่เพียงเอาหมอหยองเข้าคุก กร้อนผม กลายเป็นนักโทษอุฉกรรจ์ ที่สำคัญ ไม่กี่วัน หมอหยองที่เป็น "เซเลป" ชื่อดัง ผู้เคยกระทบไหล่อีลีตสำคัญๆทั้งขุนศึกทั้งเจ้า ก็กลายเป็นศพไป (ตอนต้นปี หรือกระทั่งตอนงาน "ไบค์ฟอร์มัม" ใครจะไปนึกว่า หมอหยอง จะกลายเป็นศพจากการกวาดล้างของเจ้าเองใน ๓ เดือนต่อมา? หมอหยองเองต้องคาดไม่ถึงแน่ๆ "ไม่ได้ดูดวงตัวเอง" อย่างทีคนพูดๆกัน) ยิ่งกว่านั้น ยังมีอีก ๒ คนที่ตายในระหว่างกวาดล้างด้วย คนหนึ่ง (พิสิฐศักดิ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา) ที่ติดตามพระบรมฯมามิวนิคประจำ ตายโดยที่ไม่ยอมให้มีแม้แต่การ "เอ่ยชื่อ" กล่าวถึง หรือพาดพิงถึงใดๆในระหว่างที่มีการกวาดล้างนั้น
ถึงที่สุดแล้ว การใช้มาตรา ๑๑๒ อย่างบ้าระห่ำในรอบปีที่ผ่านมา (ก่อนสิ้นปี คือกรณีฉาวโฉ่ไปทั่วโลก เรื่องคนถูกกล่าวหาว่าประชดเสียดสีหมาทรงเลี้ยง โดนจับเข้าคุกข้อหาหมิ่นฯ) สะท้อนความพยายามแบบเฮือกสุดท้าย ที่จะรักษาสถานะแบบไม่สมเหตุสมผล ไม่สอดคล้องกับโลกสมัยใหม่ของสถาบันกษัตริย์ไทยไว้ ในภาวะที่องค์กษัตริย์เองใกล้ตาย และกษัตริย์องค์ใหม่ที่กำลังจะมาแทน ไม่เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง ....
อ้อ พูดถึง "หมาทรงเลี้ยง" - ปีนี้ "ทองแดง" และ "ฟูฟู" หมาเจ้าชื่อดังที่สุด ตายทั้งคู่ - เศร้า T^T
(สำนักข่าว สศจ จัดให้)
................................................................................
-เมื่อสิบปีก่อน .... ๒๕๔๙: ปีที่วิกฤติ "เท็คอ๊อฟ" เต็มที่
(อ่านเพิ่มเติมที่นี่ https://goo.gl/AwdQQr )
ในหลวงยังไม่ตาย
ในขณะที่สื่อต่างชาติในปีที่ผ่านมา แทบทุกรายงานเกี่ยวกับเมืองไทยจะต้องมีการกล่าวถึงว่า ในหลวงใกล้สวรรคต ไม่มีสื่อไทยฉบับไหนกล้าเอ่ยถึง แต่ความจริงคือ นี่เป็นประเด็นที่เป็น "แบ๊กกราวน์" ใหญ่ที่สุดของข่าวการเมืองไทยในรอบปีที่ผ่านมา
ในรอบปีที่ผ่านมา แม้ในหลวงจะยังไม่ตาย แต่เห็นได้ชัดว่าสุขภาพอยู่ในระดับที่เสื่อมทรุดมากกว่าเดิมอย่างมาก ตลอด ๓๖๕ วัน ทรงปรากฏพระองค์ต่อสาธารณะ เพียง ๑๐ ครั้ง (ผมยังไม่นับคืนนี้ ซึ่งตอนนี้มีคนเผยแพร่เอกสารแจ้งว่าจะมีการออกอากาศพระสุรเสียงอวยพรปีใหม่) แต่ละครั้งเพียงสั้นๆ ครั้งสุดท้าย ๒-๓ วินาทีเท่านั้น (ภาพประกอบซ้าย) ช่วงที่ "หายหน้า" ไปติดต่อกันกินเวลานานขึ้นเป็นสถิติใหม่ตลอดเวลา จากเดือนครึ่ง ถึงสองเดือนเศษ ถึงสามเดือนเศษ
ในช่วงกลางเดือนกันยายน ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ถึงกับกล่าวกับผู้เข้าเฝ้าในงานหนึ่งทางอีสานว่า "มีความไม่สบายพระทัยเป็นอย่างมาก เพราะแพทย์ที่ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโทรศัพท์มาบอกข้าพเจ้าว่า ที่แถลงการณ์ออกไปนั้นขัดเกลาให้เบาที่สุดแล้ว แต่อันที่จริงพระอาการของพระองค์ท่านเป็นหนักกว่าที่แถลงการณ์มาก" และทรงขอให้ช่วยกันสวดมนต์ให้ในหลวง (ดูกระทู้ของผมที่นี่ https://goo.gl/Bx399z ที่นี่ https://goo.gl/Y2cDQ1 และที่นี่ https://goo.gl/tlJhOZ ) ที่น่าสนใจคือ พระราชดำรัสของฟ้าหญิงเรื่องในหลวง "(ป่วย)หนักกว่าที่แถลงการณ์มาก" นั้น เริ่มเผยแพร่กันก่อนในหมู่คนรักเจ้าเอง สะท้อนว่า ความจริง เรื่องอาการป่วยของในหลวง หรือในหลวงสวรรคตหรือยัง เป็นประเด็นใหญ่ที่อยู่ในความคิดของทุกฝ่าย (ฝ่ายเสื้อแดง แน่นอน "ไปไกล" กว่าเสื้อเหลืองในเรื่องนี้ มีการ "มโน" เรื่องในหลวงตายแล้วตลอดทั้งปี พวกเซเลปเสื้อแดง "ใต้ดิน" บางคนพูดเป็นตุเป็นตะหลายครั้ง) แต่สังคมไทย "ที่เป็นทางการ" ก็ยังอยู่ในภาวะ in denial หรือปฏิเสธที่จะยอมรับความจริง หรือเอ่ยถึงว่าในหลวงใกล้ตายและใกล้มีการเปลี่ยนรัชกาลแล้ว (ไม่เหมือนอย่างกรณีอังกฤษที่สื่อที่นั่นมีการ "ซ้อม" เพื่อเตรียมรับการตายของควีนอย่างสม่ำเสมอ จนถึงกับมีกรณีที่นักข่าวบีบีซีเองเข้าใจผิด ไปทวิตว่าควีนตายแล้ว เพราะเห็นการซ้อมในบีบีซี แล้วนึกว่าเรื่องจริง - โชคดี อังกฤษเขาไม่มี ๑๑๒ แบบไทยแล้ว ถถถถ - ดูกระทู้ของผมที่นี่ https://goo.gl/g06GUR )
ข่าวใหญ่อันดับรองลงมา ซึ่งความจริงก็มีความสัมพันธ์ใกล้กับข่าวแรกอย่างมาก คือข่าวพระบรมฯทำการกวาดล้างคนที่เคยทำงานให้ใกล้ชิดอีกเป็นครั้งที่สองเป็นปีที่สองติดๆกัน ปีกลายคือการกวาดล้างหม่อมศรีรัศมิ์ (อดีต)เมียและเครือญาติ ชนิด "แรง" มากๆ ยกเว้นศรีรัศมิ์แล้ว เรียกว่าแทบทุกคนในครอบครัว "in law" เก่าของพระบรมฯ ถูกเอาเข้าคุกหมด ตั้งแต่พ่อตา-แม่ยาย ถึงพี่เมีย ถึงน้า ฯลฯ ครั้งนั้นมีคนตาย ๑ คน ("กระโดดตึกตาย")
ปีนี้ การกวาดล้างก็น่าช็อคพอๆกัน หรือมากกว่า ในแง่ที่ว่าคนที่ถูกกวาดล้าง เพิ่ง "ทำงานใหญ่" ให้พระบรมฯ เห็นกันไปทั่วประเทศ (ดูภาพประกอบ "หมอหยอง" เดินตามหลังใกล้ชิดพระบรม ในงาน "ไบค์ฟอร์มัม" ที่เขาเป็น "ออแกนไนเซอร์") ไม่เพียงเอาหมอหยองเข้าคุก กร้อนผม กลายเป็นนักโทษอุฉกรรจ์ ที่สำคัญ ไม่กี่วัน หมอหยองที่เป็น "เซเลป" ชื่อดัง ผู้เคยกระทบไหล่อีลีตสำคัญๆทั้งขุนศึกทั้งเจ้า ก็กลายเป็นศพไป (ตอนต้นปี หรือกระทั่งตอนงาน "ไบค์ฟอร์มัม" ใครจะไปนึกว่า หมอหยอง จะกลายเป็นศพจากการกวาดล้างของเจ้าเองใน ๓ เดือนต่อมา? หมอหยองเองต้องคาดไม่ถึงแน่ๆ "ไม่ได้ดูดวงตัวเอง" อย่างทีคนพูดๆกัน) ยิ่งกว่านั้น ยังมีอีก ๒ คนที่ตายในระหว่างกวาดล้างด้วย คนหนึ่ง (พิสิฐศักดิ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา) ที่ติดตามพระบรมฯมามิวนิคประจำ ตายโดยที่ไม่ยอมให้มีแม้แต่การ "เอ่ยชื่อ" กล่าวถึง หรือพาดพิงถึงใดๆในระหว่างที่มีการกวาดล้างนั้น
ถึงที่สุดแล้ว การใช้มาตรา ๑๑๒ อย่างบ้าระห่ำในรอบปีที่ผ่านมา (ก่อนสิ้นปี คือกรณีฉาวโฉ่ไปทั่วโลก เรื่องคนถูกกล่าวหาว่าประชดเสียดสีหมาทรงเลี้ยง โดนจับเข้าคุกข้อหาหมิ่นฯ) สะท้อนความพยายามแบบเฮือกสุดท้าย ที่จะรักษาสถานะแบบไม่สมเหตุสมผล ไม่สอดคล้องกับโลกสมัยใหม่ของสถาบันกษัตริย์ไทยไว้ ในภาวะที่องค์กษัตริย์เองใกล้ตาย และกษัตริย์องค์ใหม่ที่กำลังจะมาแทน ไม่เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง ....
อ้อ พูดถึง "หมาทรงเลี้ยง" - ปีนี้ "ทองแดง" และ "ฟูฟู" หมาเจ้าชื่อดังที่สุด ตายทั้งคู่ - เศร้า T^T
(สำนักข่าว สศจ จัดให้)
................................................................................
-เมื่อสิบปีก่อน .... ๒๕๔๙: ปีที่วิกฤติ "เท็คอ๊อฟ" เต็มที่
(อ่านเพิ่มเติมที่นี่ https://goo.gl/AwdQQr )
- pic.twitter.com/5DvBfRkVt
Översatt från thailändska av Bing
ผมเป็นคนรักหมามากกกกก มีเรื่องหมาๆให้ดูนี่ชอบมากกกก
แต่กรณีนี้ ใครจะค้อมเม้นท์ ก็กรุณานึกไว้ในใจว่า ตอนนี้ หมาของเจ้า ได่รับการคุ้มครองด้วยกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพแล้วนะครัช
ภาพ "งานแต่งงาน" ของ "Princess Perfume" (เจ้าหญิงน้ำหอม) หมาของพระองค์เจ้าสิริวัณณวรี ลูกสาวของพระบรมฯ เมื่อวานนี้
ขอบคุณภาพและเรื่องจากคุณ Andrew *
ปล. อันที่จริงพระองค์หญิงเสด็จมาแถวๆที่ผมอยู่ตอนนี้บ่อย ว่าจะหาโอกาสไปเข้าเฝ้าหน่อยนะเนี่ย แฮ่
* เพิ่มเติมหลังตั้งกระทู้: คุณแอนดรูยังได้โพสต์ภาพพนักงานบนเครื่องบินของการบินไทย นั่งลงกับพื้นต่อหน้าหมาของพระองค์เจ้าสิริวัณณวรี ด้วย คุณแอนดรูบอกว่าเป็นการแสดงความเคารพเกรงใจต่อหมาเจ้า ... อันนี้ ผมไม่ถึงกับแน่ใจเต็มร้อยนะครับ คิดว่าคงมีส่วนอยู่ แม้ผมเองปกติเวลาเล่นกับหมา ก็นั่งเล่นนอนเล่นกับมันเสมอ แต่กรณีนี้ ผมสงสัยว่า น่าจะมีส่วนเป็นแบบที่คุณแอนดรูพูดไว้เหมือนกัน คือเอาเข้าจริง พนักงานน่าจะไม่กล้ายืนกับหมาเจ้า ถ้ายังไงใครสนใจ ลองดูด้วยตัวเอง ที่นี่ครับ https://goo.gl/8rbSkL
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar